Recent Posts

Pages: 1 ... 7 8 [9] 10
81
301.วัดบึงพระลานชัย

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนิด : สามัญ
นิกาย : ธรรมยุต
แขวง/ตำบล : ในเมือง
เขต/อำเภอ : เมืองร้อยเอ็ด
จังหวัด : ร้อยเอ็ด
พ.ศ.ที่สร้าง : พ.ศ. 2318
พิกัด  : 16.05637, 103.64923

วัดบึงพระลานชัย เป็นวัดโบราณ สร้างเมื่อปีพุทธศักราช 2318 โดยพระยาขัติยวงษา (เภา ธนสีลังกูร) เจ้าเมืองร้อยเอ็ด ได้ชักชวนข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนมาบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้น และให้ชื่อว่า วัดบึงพระลานชัย แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดบึง

ต่อมาปีพุทธศักราช 2530 หลวงสงกรานต์วิศิษฐ์ ได้นำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชนบูรณะฟื้นฟูขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้ชื่อเดิมซึ่งถือว่าบริเวณนี้ เป็นวัดโบราณ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ใกล้กับบึงพลาญชัย มีสระเรียกว่า สระชัยมงคลซึ่งเป็นสระโบราณ คู่บ้านคู่เมือง และเป็นสถานที่ประกอบพิธีฉลองชัยจากการศึกของเจ้าเมืองโบราณ ต่อมาพระยารณชัยชาญ ยุทธสมุหเทศาภิบาล ผู้ว่าราชการมณฑลร้อยเอ็ด ได้อาราธนาพระครูวินัยธรหล้า จากวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าอาวาส ภายหลังเจ้าอาวาสองค์ต่อๆมาได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะ มาตามลำดับ ในปีพุทธศักราช 2528 ได้สร้างพระอุโบสถขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่ประสบวาตภัย

ที่มา : พระอารามหลวง เล่ม 2 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

82
300.วัดกลางมิ่งเมือง

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนิด : สามัญ
นิกาย : มหานิกาย
แขวง/ตำบล : ในเมือง
เขต/อำเภอ : เมืองร้อยเอ็ด
จังหวัด : ร้อยเอ็ด
พ.ศ.ที่สร้าง : -
พิกัด  : 16.06184, 103.65466


วัดกลางมิ่งเมือง สร้างตั้งแต่สร้างเมืองร้อยเอ็ด อยู่ใจกลางเมืองจึงเรียกชื่อว่า วัดกลาง และ ได้พบหลักฐานชิ้นหนึ่งที่ข้างกำแพงแก้วพระอุโบสถ คือ ก้อนอิฐจารึกอักษรธรรมไว้ว่า ชาสิมปั้นดินจี่สร้างสิมก้อนอิฐนี้ ปัจจุบันได้ฝังติดกับแท่นในวิหารสุนทรธรรมประพุทธ ตามหลักฐานแสดงว่าวัดและพระอุโบสถสร้าง มาได้หลายร้อยปี ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปีพุทธศักราช 2508

ที่มา : พระอารามหลวง เล่ม 2 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

83
299.วัดบูรพาภิราม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนิด : สามัญ
นิกาย : มหานิกาย
แขวง/ตำบล : ในเมือง
เขต/อำเภอ : เมืองร้อยเอ็ด
จังหวัด : ร้อยเอ็ด
พ.ศ.ที่สร้าง : -
พิกัด  : 16.06217, 103.65853

วัดบูรพาภิราม เดิมชื่อว่า วัดหัวรอ เพราะเป็นที่พักรวมแขกคนที่เดินทางมายังจังหวัดร้อยเอ็ด ต่อมาปีพุทธศักราช 2464 สมัยที่พระอธิการหล้า อินฺทร์โส เป็นเจ้าอาวาส ได้ขยายอาณาเขตมาจัดตั้งใหม่ ที่ดงเจ้าพ่อมเหศักดิ์ ซึ่งเป็นที่สาธารณะอยู่ติดกับที่ตั้งวัดเดิมและได้ขนานนามวัดใหม่ว่า วัดบูรพา เพราะ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกำแพงเมือง ต่อมาในปีพุทธศักราช 2492 ได้เปลี่ยนนามวัดเป็น วัดบูรพาภิราม ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปีพุทธศักราช 2531

ที่มา : พระอารามหลวง เล่ม 2 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
84
298.วัดมหาชัย

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนิด : สามัญ
นิกาย : มหานิกาย
แขวง/ตำบล : ตลาด
เขต/อำเภอ : เมืองมหาสารคาม
จังหวัด : มหาสารคาม
พ.ศ.ที่สร้าง : -
พิกัด  : 16.18494, 103.3068

วัดมหาชัย สร้างเมื่อปีพุทธศักราช 2404 โดยท้าวมหาไชย (กวด ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) ผู้สร้างเมืองมหาสารคาม และเป็นเจ้าเมืองคนแรก ซึ่งได้รับมอบหมายจากพระขัติยาวงศา (จันทร์) เจ้าเมือง ร้อยเอ็ด ให้มาตั้งหมู่บ้านที่ข้างห้วยกุตลาดย่างใย เมื่อตั้งหมู่บ้านได้แล้ว จึงเริ่มหาสถานที่สร้างวัดประจำ หมู่บ้าน

ต่อมา ในปีพุทธศักราช 2508 พระขัติยาวงศา (จันทร์) กราบบังคมทูลรัชกาลที่ 4 แบ่งแยกท้องที ขอตั้งบ้านกุดลาดย่างใยเป็นเมือง ได้รับพระราชทานนามว่า เมืองมหาสารคาม และให้ท้าวมหาไชย (กวด) เป็นเจ้าเมือง พร้อมพระราชทานยศให้เป็นพระเจริญราชเตย จากนั้นก็ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้เพิ่มเติม และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งแรกเมื่อปีพุทธศักราช 2508 โดยมีนามว่า วัดเหนือ เพราะอยู่ ทางเหนือน้ำ เมื่อถึงปีพุทธศักราช 2482 สมัยพระสารคามมุนี (สาร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) เป็นเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสในขณะนั้น ได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดมหาชัย เพื่อเป็นเกียรติแก่ พระเจริญราชเดช (ท้าวมหาไชย) ผู้สร้างบ้านเมือง ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปีพุทธศักราช 2527

ที่มา : พระอารามหลวง เล่ม 2 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
85
297.วัดพิศาลรัญญาวาส

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนิด : สามัญ
นิกาย : ธรรมยุต
แขวง/ตำบล : หนองบัว
เขต/อำเภอ : เมืองหนองบัวลำภู
จังหวัด : หนองบัวลำภู
พ.ศ.ที่สร้าง : พ.ศ.2483
พิกัด  : 17.19566, 102.44529

วัดพิศาลรัญญาวาส สร้างเมื่อปีพุทธศักราช 2483 โดยชาวบ้านจิก บ้านเหล่า จังหวัด หนองบัวลำภู ได้อพยพมาอยู่สถานที่แห่งใหม่ ตั้งชื่อว่า บ้านตอนหาด และได้จัดหาที่ดินสร้างวัดประจำ หมู่บ้าน โดยได้สร้างสำนักสงฆ์ ต่อมาในปีพุทธศักราช 2486 ได้นิมนต์พระพิศาลคณานุกิจ (เส็ง กนฺณวโร) จากวัดมหาชัย มาพักที่พักสงฆ์ ได้ร่วมสร้างศาลาโรงธรรมและกุฏิสงฆ์ จำนวน 3 หลัง และได้เรียกชื่อว่า วัดพิศาลรัญญาวาส ตามชื่อของเจ้าอาวาสรูปแรก คือ พระพิศาลคณานุกิจ และได้รับยกฐานะเป็น พระอารามหลวง เมื่อปีพุทธศักราช 2543

ที่มา : พระอารามหลวง เล่ม 2 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
86
296.วัดศรีสระแก้ว

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนิด : สามัญ
นิกาย : มหานิกาย
แขวง/ตำบล : นามะเฟือง
เขต/อำเภอ : เมืองหนองบัวลำภู
จังหวัด : หนองบัวลำภู
พ.ศ.ที่สร้าง : -
พิกัด  : 17.06518, 102.48658

วัดศรีสระแก้ว ผู้ดำเนินการก่อสร้างครั้งแรก คือ พระอธิการศรี โฆสโก มีนายอ่อนสา แก้วประสิทธิ์ และนายแก้ว สาริพันธ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จึงได้ตั้งชื่อว่า วัดศรีสระแก้ว ซึ่งมีความหมายว่า แก้วแห่งการซักฟอกซึ่งความดี ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปีพุทธศักราช 2551

ที่มา : พระอารามหลวง เล่ม 2 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

87
295.วัดศรีสุทธาวาส

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนิด : สามัญ
นิกาย : ธรรมยุต
แขวง/ตำบล : กุดป่อง
เขต/อำเภอ : เมืองเลย
จังหวัด : เลย
พ.ศ.ที่สร้าง : -
พิกัด  : 17.50015, 101.73339

วัดศรีสุทธาวาส เดิมชื่อ วัดศรีสะอาด อยู่ในตัวเมืองเลย ปีพุทธศักราช 2498 พระธรรมวราลังการ (ศรีจันทร์ วัณโณโภ) เจ้าอาวาสวัดศรีสะอาด เห็นว่าวัดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเลย ประสบปัญหา ตลิ่งพังทุกปี จึงได้ย้ายไปสร้างวัดใหม่ โดยเจ้าของสวนได้ยก ที่ดินให้ ภูมิประเทศเป็นเกาะมีแม่น้ำเลยล้อมรอบ ชาวบ้านเรียกชื่อว่า ดอนเลยหลง เมื่อสร้างเสร็จแล้วเรียกชื่อว่า วัดมหาวิสุทธิเทพทีปาราม เพราะอยู่ริมถนนวิสุทธิเทพและมีภูมิประเทศเป็นเกาะ ต่อมาได้เปลี่ยน ชื่อใหม่ว่า วัดศรีสุทธาวาส เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อเดิม แต่ประชาชน ทั่วไปเรียกว่า วัดเลยหลง

วัดศรีสุทธาวาส ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์และสร้าง เสนาสนะต่าง ๆ มาตามลำดับ เป็นสถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวงเมื่อปีพุทธศักราช 2536

ที่มา : พระอารามหลวง เล่ม 2 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

88
294.วัดโพธิ์ชัย

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนิด : สามัญ
นิกาย : มหานิกาย
แขวง/ตำบล : ในเมือง
เขต/อำเภอ : เมืองหนองคาย
จังหวัด : หนองคาย   
พ.ศ.ที่สร้าง : -
พิกัด  : 17.88497, 102.7573

วัดโพธิ์ชัย เดิมชื่อวัดผีผิว ต่อมาทางราชการจึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดโพธิ์ชัย ในสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส หลวงพ่อใสจัดสร้างขึ้นโดย พระราชธิดา พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์แห่งล้านช้างนคร ทั้ง 3 พระองค์ คือ สุก เสริม ใส ได้ขอพรจาก พระราชบิดาโดยให้ช่างหล่อพระพุทธรูปประจำพระองค์ และตั้งชื่อตามพระนามของพระธิดาทั้ง 3 พระองค์ ตามลำดับ คือ พระสุก พระเสริม และพระใส ประดิษฐานไว้ที่วัดโพนชัย แขวงเมืองเวียงจันทน์

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาศักดิ์พลเสพย์ ยกกองทัพไปปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ ณ นครเวียงจันทน์ จนสงบแล้วจึงได้อัญเชิญพระสุก พระเสริม พระใส มาจากถ้ำที่ภูเขาควาย เนื่องจากชาวเมืองได้นำเอาไปซ่อนไว้ขณะที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบภายในเมืองหลวง โดยอัญเชิญลงในแพไม้ไผ่ผูกติดกันอย่างมั่งคง ทั้ง 3 ลำ ล่องลอยมาตามน้ำงึม แล้วมาขึ้นฝั่งแม่น้ำโขง ที่เมืองหนองคาย ที่วัดหอก่อง หรือวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ จังหวัดหนองคาย พระสุก นั้นได้จมลงที่แม่น้ำโขง ขณะอัญเชิญลงมายังกรุงเทพ บริเวณที่พระสุกจมลงชาวบ้านจึงเรียกว่า เวินพระสุกยังปรากฏมาจนปัจจุบันนี้ ส่วนพระเสริมนั้นได้อัญเชิญลงมายังกรุงเทพฯ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดปทุมวนาราม ได้รับยกฐานะเป็น พระอารามหลวง เมื่อปีพุทธศักราช 2524

ที่มา : พระอารามหลวง เล่ม 2 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

89
293.วัดเซกาเจติยาราม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนิด : สามัญ
นิกาย : มหานิกาย
แขวง/ตำบล : บ้านเซกา
เขต/อำเภอ : เซกา
จังหวัด : บึงกาฬ   
พ.ศ.ที่สร้าง : -
พิกัด  : 17.91742, 103.93662

วัดเซกาเจติยาราม ตั้งอยู่ที่ ตำบลเซกา อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เป็นพระอารามหลวงแห่งใหม่ล่าสุด คือเพิ่งจะได้รับการยกฐานะเป็นพระอาราม หลวงชั้นตรีชนิดสามัญ เมื่อกลางปี พ.ศ.
2555 นี้เอง

ภายในวัดเซกาเจติยารามมี ปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ พระเจ้าเมืองมูล เซกา และ พระธาตุพุทธเจดีย์ศรีเซกา (พระธาตุกตัญญู) ประดิษฐานพระบรม สารีริกธาตุ นอกจากนี้ยังมี โบสถ์มหา
ราชา และ ศาลามหาราชินี

โบสถ์มหาราชา หรือพระอุโบสถ ใหม่ของวัดเซกาเจติยาราม สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2539 ถวายเป็นพระราชกุศล แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพล อดุลยเดช และได้ขอพระราชทานตรา สัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี มาประดิษฐานหน้าบันอุโบสถ ด้วย ศาลามหาราชินี เป็นศาลาโรงธรรม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 ถวายเป็น พระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และได้ขอตราพระราชทานตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ขึ้นประดิษฐานที่หน้าบันศาลาโรงธรรมด้วย

ที่มา : พระอารามหลวงเล่ม 2 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดร.รณยุทธ จิตรดอน
90
292.วัดศรีมงคลใต้

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนิด : สามัญ
นิกาย : มหานิกาย
แขวง/ตำบล : มุกดาหาร
เขต/อำเภอ : เมืองมุกดาหาร
จังหวัด : มุกดาหาร
พ.ศ.ที่สร้าง : -
พิกัด  : 16.54371, 104.73117


วัดศรีมงคลใต้ เป็นวัดโบราณ เดิมชื่อว่า วัดศรีมงคล เป็นวัดประจำเมืองมุกดาหาร ชาวบ้าน มักเรียกว่า วัดเหนือ เพราะตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองมุกดาหาร ต่อมาได้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการรา วัดศรีมงคลเหนือ และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ปีพุทธศักราช 2340๐ คณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ได้แผ่ขยายไปยังหัวเมืองต่าง ๆ พร้อมทั้งได้สร้างวัดขึ้นบริเวณปากห้วยมุกด้านทิศเหนือของเมืองมุกดาหาร และตั้งชื่อว่าวัดศรีมงคลเหนือ ดังนั้น วัดศรีมงคลเหนือจึงได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น วัดศรีมงคลใต้ เพราะความเหมาะสมและเป็นสิริมงคลของคณะสงฆ์ทั้งสองฝ่าย

การสร้างวัดมีประวัติเล่ากันว่า ภายหลังกรุงศรีอยุธยาได้เสียเมืองให้แก่พม่า ปีพุทธศักราช 2310 อาณาจักรล้านช้างก็เสื่อมลง ผู้คนอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่บ้านโพนสิน บริเวณพระธาตุอิงฮัง ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ต่อมาท้าวกินรี บุตรของเจ้าจันทรสุริยวงษ์ได้ปกครองสืบมา ได้สร้างเมืองมุกดาหาร และได้สร้างบ้านเมือง บริเวณปากห้วยมุกฝั่งขวาลำน้ำโยง ขณะที่ก่อสร้างเมืองได้พบพระพุทธรูป 2 องค์ อยู่ได้ต้นโพธิ์ใหญ่ ใกล้ต้นตาล 7 ยอด ต่อมาได้สร้างอาคารเสนาสนะสงฆ์จึงมีสภาพเป็นวัดที่สมบูรณ์

วัดศรีมงคลได้ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป คือ พระเจ้าองค์หลวง และเป็นสถานที ประกอบพิธีดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยาของเจ้าเมือง และเหล่าทหารในสมัยโบราณ ได้รับยกฐานะเป็น พระอารามหลวงเป็นกรณีพิเศษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 เมื่อปีพุทธศักราช 2543


ที่มา : พระอารามหลวงเล่ม 2 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
Pages: 1 ... 7 8 [9] 10