4
« Last post by designbydx on สิงหาคม 23, 2025, 02:10:56 pm »
13 วัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า)
วัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า)
พุทธสถานแห่งนี้ ตั้งอยู่ในบริเวณซึ่งในอดีต คือ ภานเขตพระราชฐานชั้นนอกด้านทิศเหนือ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ (พระมหาอุปราชในรัชกาลที่ ๓) โปรตาให้สร้างขึ้น พุทธบูชาแบบเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในพระบรมมหาราชวัง
จึงมีชื่อเรียกสามัญว่า วัดพระแก้ววังหน้า
การก่อสร้างพุทธสถานดำเนินต่อมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระมหาอุปราชในรัชกาลที่ ๔ ซึ่งทรงสถาปนาพระอิสริยยศเสมอกับพระเจ้าแผ่นดิน) แต่ไม่ทันแล้วเสร็จ ทรงสวรรคตก่อน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯให้บูรณปฏิสังขรณ์ต่อมาจนแล้วเสร็จ ด้วยทรงมีพระราชดำริใช้เป็นพระอารามประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ แต่ตลอดรัชสมัย ไม่มีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ไปประดิษฐานแต่อย่างใด
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯให้สถาปนาตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร แทนตำแหน่งพระมหาอุปราช (วังหน้า) เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๐ โปรดฯให้รื้อถอนส่วนป้อม กำแพง และอาคารหลายแห่งในพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า)
ต่อมา ใน พ.ศ.๒๔๔๓ โปรดฯให้ซ่อมแปลงพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาสเพื่อเป็นเมรุที่นาน ใช้ประกอบพระราชพิธีการพระบรมศพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ และพระบรมวงศานุวงศ์ที่สิ้นพระชนม์ไปในช่วงเวลาต่างๆ หลังจากนั้น พุทธสถานแห่งนี้เริ่มทรุดโทรม จึงมีการบูรณะอย่างต่อเนื่องอีกหลายครั้ง เช่น ใน พ.ศ.๒๔๘๐. พ.ศ.๒๕๐๕, พ.ศ.๒๕๕๗
ลักษณะสถาปัตยกรรมของพระอุโบสถของวัดบวรสถานสุทธาวาส เป็นอาคารทรงไทย หลังคาทำเป็นมุช ๔ ด้าน ซ้อนกัน ๒ ขั้น มุงด้วยกระเบื้องเคลือบ กรอบหน้าบันประดับด้วย ช่อฟ้า ใบระกา นาคสะดุ้ง หางหงส์ ส่วนหน้าบันประดับลายปูนปั้นรูปดอกไม้ และใบไม้ ประดับกระจกสี ตัวอาคารพระอุโบสถก่ออิฐถือปูน บนผนังอาคารแต่ละด้าน มีประตู ๓ ประตู เว้นด้านตะวันตกมี ๒ ประตู และมีช่องหน้าต่างรวม ๑๖ ช่อง ผนังภายในพระอุโบสถเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ได้แก่ ภาพทิพยวิมานและหมู่เทวดา ภาพอดีตพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ภาพเล่าเรื่องตำนานพระพุทธสิหิงค์ ภาพพุทธประภาพเทพเจ้าฮินดูภาพจากวรรณคดีสำคัญ เช่น กับภีร์ภารตนาฏยศาสตร์ รามเกียรติ์ นารายณ์สิบปาง เป็นต้น
ที่มา : ป้ายในวัด
***ปกติวัดพระแก้ววังหน้าไม่ได้เปิดให้เข้าชมทั่วไป นอกจากตามวาระ แต่วันนี้ 7 มกราคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงเปิดให้เข้าสักการะเป็นกรณีพิเศษ