Author Topic: พระประธาน อารามหลวง เมืองไทย  (Read 77432 times)

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
81.วัดภคินีนาถ วรวิหาร

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : วรวิหาร
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : บางยี่ขัน
เขต/อำเภอ   : บางพลัด
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร   
พ.ศ. ที่สร้าง : กรุงศรีอยุธยา

***ไปวันวิสาขบูชา

เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า "วัดบางจาก" เพราะตั้งอยู่ปากคลองบางจาก แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า วัดนอก ได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่โดย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าหญิงประไพวดี กรมหลวงเทพวดี พระธิดาในรัชกาลที่ 1 ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์เพิ่มเติม และได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า วัดภคินีนาถ เป็นวัดที่มีการวางผังพระอุโบสถสวยงาม คือมีระเบียงคตล้อมพระอุโบสถ ภายในมีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แบบสุโขทัย มีภาพเขียนที่ฝาผนังระหว่างช่องหน้าต่างเขียนเป็นรูปเครื่องบูชาของจีน เช่น แจกันดอกไม้แก้ว แว่นแก้ว เครื่องลายคราม อ่างแก้วใส่ปลา เครื่องถ้วยชา ถาดผลไม้ โดยมีภาษาจีนกำกับอยู่ในแต่ละภาพ เหนือหน้าต่างทุกช่องประดับด้วยกรอบภาพเขียนสีบนพื้นกระจก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวรรณกรรมจีน และมีอยู่ด้วยกันสองภาพที่เขียนตัวละครเป็นฝรั่ง

Wat Phakhininat
The third class royal temple was an ancient temple of Ayutthaya period. Its former name was Wat Bang Chak because it was located on the mouth of Bang Chak canal but the people preferred to call it Wat Nok. The monastery had a new establishment by King Rama I's daughter. King Rama III later had the temple princess Praphawadi Krommalung Thepwadi, King renovated in addition and renamed it to Wat Phakhininat. The temple has avery beautifull layout of Ubosot(The main chapel), inside which the Sukhothai style principal Buddha image of Subduing Mara(Demon) posture is enshrined. The mural paintings of Ubosot are the pictures of Chinese altars, like flower vases, fruit trays, and tea cups.

ที่มา ป้ายในวัด
« Last Edit: มีนาคม 09, 2022, 07:20:46 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
Re: พระประธาน อารามหลวง เมืองไทย (ขาวดำ)
« Reply #81 on: มิถุนายน 15, 2018, 07:33:49 am »
82.วัดราชสิงขร

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : วัดพระยาไกร
เขต/อำเภอ   : บางคอแหลม
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร   
พ.ศ. ที่สร้าง : สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (2275-2301)

***ต้องไปเฉพาะวันพระใหญ่

วัดราชสิงขร สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ(พ.ศ.2275-2301) ในสมัยรัชกาลที่ 1 สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทโปรดให้ช่างหลวงวังหน้าสร้างพระอุโบสถ มีหลักฐานที่ปรากฏคือ ใบเสมาหินชนวนที่ฝังไว้กับผนังด้านนอกพระอุโบสถ ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับ วัดชนะสงคราม และวัดมหาธาตุ อันเป็นพระอารามหลวงที่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงเป็นผู้ปฏิสังขรณ์

ลักษณะของการใช้ใบเสมานั้นฝังติดกับผนังพระอุโบสถทั้ง 8 ทิศ เป็นพุทธศิลปะที่สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงโปรดปรานเป็นการเฉพาะ นอกจากนั้นปรากฏหลักฐาน พระวิหารสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทโปรดให้สร้างไปพร้อมๆ กันกับการสร้างพระอุโบสถเพื่อประดิษฐานหลวงพ่อแดง

ที่มา พระอารามหลวง เล่ม 1 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

Wat Ratcha Singkhon

The temple is belived to be built by the end of the Ayutthaya period in the reign of King Boromkot(2275-2301 B.E.) Later in early Rattanakosin or Bangkok period, Somdet Krom Phra Ratchawangbowon Maha Surasinghanat, the Crown Prince in the reign of King Rama I, restored the temple as well as bulilt an Ubosot.

ที่มา : The Royal Monastery-Bangkok Vol.3, Ronyoot Chitradon, Ph.D. (ดร.รณยุทธ์ จิตรดอน)

« Last Edit: กุมภาพันธ์ 22, 2022, 06:41:01 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
Re: พระประธาน อารามหลวง เมืองไทย (ขาวดำ)
« Reply #82 on: มิถุนายน 15, 2018, 08:31:00 pm »
83.วัดชัยชนะสงคราม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : สัมพันธวงศ์
เขต/อำเภอ   : สัมพันธวงศ์
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร   
พ.ศ. ที่สร้าง : -
พิกัด : 13.74426, 100.50562

***ทำวัตรเย็น 16.00 น.
« Last Edit: มิถุนายน 18, 2022, 07:06:48 pm by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
Re: พระประธาน อารามหลวง เมืองไทย
« Reply #83 on: มิถุนายน 15, 2018, 08:40:02 pm »
84.วัดโปรดเกศเชษฐาราม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : ทรงคนอง
เขต/อำเภอ   : พระประแดง
จังหวัด : สมุทรปราการ
พ.ศ. ที่สร้าง : พ.ศ.2365 รัชกาลที่ 2
พิกัด : 13.66739, 100.52827

***ทำวัตรเย็น 16.00 น.

วัดนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2365 ในรัชกาลที่ 2 ผู้สร้างคือเพชรพิไชย (เกตุ) ต้นสกุล เกตุทัต ท่านเป็นบุตรพระยาเพชรพิไชย (หง) ต้นสกุล หงสกุล

สมัยนั้นพระยาเพชรพิไชย (เกตุ) เป็นพระพี่เลี้ยงของกรมหมื่นศักดิ์พลเสพย์ ท่านกรมหมื่นศักดิ์ฯ ได้เป็นนายงานสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์ และสร้างวัดไพชยนต์พลเสพย์ด้วย พระยาเพชรพิไชย ได้ขออนุญาตสร้างวัดขึ้นใกล้ ๆ กัน ชาวบ้านเรียกว่าวัด "ปากคลอง" เพราะเดิมนั้นมีศาลาอยู่หลังหนึ่งติดกับปากคลองทองเมือง (ด้านเหนือของวัด) ไม่มีพระสงฆ์ มีแต่พระพุทธรูปเท่านั้นชาวบ้านเรียกกันว่าวัดปากคลอง เมื่อสร้างวัดโปรดเกศเชษฐารามขึ้นมา ก็คงนิยมเรียกกันว่าวัดปากคลองอยู่ตามเดิม

ในสมัยรัชกาลที่ 3 พระยาเพชรพิไชยได้มาปฏิสังขรณ์สิ่งชำรุดทรุดโทรมในวัด พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์สมทบ เช่น สร้างกุฏิ หอสวดมนต์ หอฉัน ล้วนเป็นแบบฝากระดานไม้สักมุงด้วยกระเบื้องไทยทั้งสิ้น ในยุคของพระครูวินยานุบูรณาจารย์เป็นเจ้าอาวาส ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่โดยพระยาเพชรพิไชย (หนู) บุตรพระยาเพชรพิไชย (เกตุ) มาอุปการะช่วยสร้างเพิ่มเติมเ จ้าอาวาสผู้ครองวัดองค์ต่อ ๆ มาได้ดำเนินการก่อสร้างปฏิสังขรณ์กันทุกสมัยได้พัฒนาวัดเจริญขึ้นเป็นลำดับจนตราบเท่าทุกวันนี้

ที่มา : พระอารามหลวงของไทย สมบัติ จำปาเงิน
« Last Edit: กรกฎาคม 02, 2022, 07:17:03 pm by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
Re: พระประธาน อารามหลวง เมืองไทย
« Reply #84 on: มิถุนายน 15, 2018, 08:50:32 pm »
85.วัดทรงธรรม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นโท   
ชนิด   : วรวิหาร
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : ตลาดพระประแดง
เขต/อำเภอ   : พระประแดง
จังหวัด : สมุทรปราการ
พ.ศ. ที่สร้าง : สมัยรัชกาลที่ 2
พิกัด : 13.66199, 100.5356

***ทำวัตรเย็น 16.00 น.

วัดทรงธรรมเป็นวัดรามัญมา แต่เดิมรัชกาลที่ 2 โปรดให้สร้างขึ้นโดยกรมพระราชวังบวรสถานมงคลแล้วพระราชทานนามว่า "วัดทรงธรรม" เพื่อให้ชาวรามัญที่อพยพมาได้ใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศลทางศาสนาทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวรามัญเหล่านั้นด้วย

เมื่อปีพุทธศักราช 2361 โปรดให้ย้ายวัดทรงธรรมเข้ามาอยู่ในกำแพงป้อม เนื่องจากสร้างป้อมรุ่นใหม่คือป้อมเพชรหึงห์ ได้สร้างกุฏิเป็น 3 คณะคือ บริเวณวิหาร 1 คณะข้างพระอุโบสถ 2 คณะและศาลาการเปรียญ 1 หลังต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงทอดผ้าพระกฐินทรงเห็นว่าวัดชำรุดทรุดโทรมมาก จึงรับสั่งให้พระยาดำรงราชาพลขันธ์ (จุ้ย คชเสนี) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองในขณะนั้นเป็นหัวหน้าทำการปฏิสังขรณ์ โดยรื้อกุฏิทั้ง 3 คณะมาสร้างรวมกันเป็นหมู่เดียวเป็นแบบก่ออิฐถือปูน และเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดให้สร้างวัดทรงธรรมขึ้นมาชาวรามัญจึงได้ยกย่องพระองค์ท่านว่าทรงเป็นผู้มีคุณธรรมสูงซึ่งภาษาชาวรามัญเรียกว่า "เมินโท่" แปลว่า "ผู้ทรงธรรม"

ที่มา : พระอารามหลวงเล่ม 1 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม


« Last Edit: กรกฎาคม 01, 2022, 05:37:05 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
Re: พระประธาน อารามหลวง เมืองไทย
« Reply #85 on: มิถุนายน 16, 2018, 09:12:46 pm »
86.วัดอาษาสงคราม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : ธรรมยุต
แขวง/ตำบล   : ตลาดพระประแดง
เขต/อำเภอ   : พระประแดง
จังหวัด : สมุทรปราการ
พ.ศ. ที่สร้าง : -
พิกัด : 13.66256, 100.53095

***ทำวัตรเย็น 17.30 น.

« Last Edit: กรกฎาคม 03, 2022, 05:46:39 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
87.วัดดาวดึงษาราม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : บางยี่ขัน
เขต/อำเภอ   : บางพลัด
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : -

***วันพระใหญ่ทำ 16.00 น. หรือติดต่อประชาสัมพันธ์ให้วัดเปิดให้ได้

เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ คุณแว่น ซึ่งเป็นท่านผู้หญิงในพระราชวังรัชกาลที่ 1 เป็นผู้สร้างวัดชาวบ้านเรียกว่า วัดขรัวอิน เพราะมีเจ้าอาวาสชื่อ อิน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดดาวดังษาสวรรค์ ต่อมาในสมัยรัชการที่ 3 พระมหาเทพ(ปาน) ได้บูรณะปฏิสังขรณ์ใหญ่อีกครั้งหนึ่ง แล้วน้อมเกล้าถวายเป็นพระอารามหลวง ได้รับพระราชทานนามว่า วัดดาวดึงษาราม พระอุโบสถสร้างในสมัย ขรัวอิน เป็นเจ้าอาวาส ภายในมีภาพเขียนเรื่อง พระมโหสถ เป็นฝีมือของ หลวงเสนีย์บริรักษ์ หรือ คงแป๊ะ จิตรกรเอกเชื้อสายจีนในสมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งนิยมเขียนภาพผู้คนแต่งกายแบบจีน และเรื่อง พระมโหสถ ดังปรากฎในหลายแหน่ง เช่นที่ วัดสุวรรณาราม และวัดบางยี่ขัน เป็นต้น

Wat Daowaduengsaram
The third classed royal temple that was founder by Khun Waen, a lady in the royal court of King Rama I, had and original name of Wat Khrua-in due to the abbot's name was In. King Rama II had the monastery renamed to Wat Daowaduengsa Sawan. Later, Phra Maha Thep(Pan) restored the temple once again and presented it to King Rama III's patronage. Then the temple's name was changed to Wat Daowasuengsaram. Its Ubosot(The ordination Hall) has been built since Khrua-in was the abbot, where inside there is the mural paintings of Mahosot story which was the works of Luang Seni Borirak or Kong Pae, the major Thai-Chinese artists during the reign of King Rama III.

ที่มา ป้ายในวัด

« Last Edit: มีนาคม 10, 2022, 06:16:13 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
88.วัดบรมนิวาส

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นโท   
ชนิด   : ราชวรวิหาร
นิกาย   : ธรรมยุต
แขวง/ตำบล   : รองเมือง
เขต/อำเภอ   : ปทุมวัน
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : -

***วันพระใหญ่ทำ 13.00 น. หรือติดต่อประชาสัมพันธ์ให้วัดเปิดให้ได้

วัดบรมนิวาส เป็นพระอารามที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้น ณ ริมคลองมหานาคนอกเกาะรัตนโกสินทร์

เมื่อครั้งที่ยังทรงผนวชเป็นพระวชิรญาณภิกขุในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดนี้มีนามเดิมว่า "วัดบรมสุข" ปรากฎในจารึก ดวงชะตาฤกษ์สร้างวัดบรมนิวาสบนแผ่นทองแดงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ฐานพระทศพลญาณพระพุทธปฏิมาประธานประจำวัดบรมนิวาสบันทึกไว้ว่า

"ดวงชะตาฤกษ์สร้างวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร สุริยคตินิยม 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2377 ร.ศ. 53ฯ ตรงกับ จันทรคตินิยม ณ วัน 188 ปีมะเมีย ฉศก อธิกมาส เวลา 45 บาท 2 29 4 12 บาท ที่ 2(4โมงเช้า 30 นาฬิกา ลักขณาสถิตย์ ราศีกันย์ ธาตุดิน)" (ไม่เข้าใจเหมือนกัน อันนี้)

Wat Boromniwas
Wat boromniwas is a royal monastery founded in the reign of King Nang Klao(King Rama III) at the behest of Phra Vajirayan Bhikkhu, who later reigned as King Mongkut(King Rama IV) of the Chakri Dynasty. Originally clled Borm Sukha, the temple was build alongside the Mahanak Canal outside the city walls. An ancient inscription found on a rectangle copper sheet at the base of Phra Dasabalanana, the Principal Buddha image, states that '' an auspicious time for building Boromniwas Rajaworavihara Temple in line with the Thai solar calendar in on 13 July B.E. 2377(1834), in Rattanakosin Era 53 or the first day of the eighth lunar month of the year of the Horse, at 04.30 a.m.''
ที่มา ป้ายในวัด
« Last Edit: กุมภาพันธ์ 19, 2022, 10:15:54 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
89.วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นเอก   
ชนิด   : ราชวรวิหาร
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : ดุสิต
เขต/อำเภอ   : ดุสิต
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : ไม่ปรากฏ

***วัดท่องเที่ยว ถ่ายตอนเปิด 05.30 น.

เดิมเป็นวัดเก่าเล็กๆ ชื่อว่า วัดแหลม เพราะตั้งอยู่ปลายแหลมของที่สวนติดกับทุ่งนา และยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดไทรทอง เนื่องจากมีต้นไทยทองปรากฏอยู่ได้เห็น เมื่อปี พ.ศ.2370 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2 ได้ทรงตั้งกองทัพรับขบถเจ้าอนุวงศ์ที่วัดนี้ หลังจากเสร็จจากการปราบขบถแล้ว ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัด พร้อมกับสร้่างพระเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์ 5 องค์ เรียงรายอยู่หน้าวัดด้วย ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 พระองค์ได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดเบญจมบพิตร หมายถึง วัดของเจ้านาย 5 พระองค์ เมื่อปี พ.ศ. 2442 รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสร้าง สวนดุสิต และ พระราชวังดุสิต กินเนื้อที่ของวัดทำให้วัดมีพื้นที่น้อยลง ประกอบกับวัดกำลังมีสภาพทรุดโทรม พระองค์จึงทรงสถาปนาวัดขึ้นใหม่ พร้อมกับทรงเปลี่ยนนามวัดเป็น วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม หมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ใกล้สวนดุสิตอันเป็นพระราชฐาน พระอุโบสถทั้งหลังสร้างด้วยหินอ่อนสั่งมาจากประเทศอิตาลี มีพระประธานเป็นพระพุทธชินราชจำลองจากองค์จริงที่ พิษณุโลก

Wat Benchamabophit
Commonly known among foreigners as the marble Temple, Wat Benchamabophit is one of Bangkok's most beautiful temples and a major tourist attraction. It is also thought of as King Rama V's monastery.

ที่มา : The Royal Monastery-Bangkok Vol.3, Ronyoot Chitradon, Ph.D. (ดร.รณยุทธ์ จิตรดอน)
« Last Edit: กุมภาพันธ์ 11, 2022, 03:23:19 pm by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
90.วัดระฆังโฆสิตาราม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นโท   
ชนิด   : ราชวรวิหาร
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : ศิริราช
เขต/อำเภอ   : บางกอกน้อย
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : สมัยกรุงศรีอยุธยา

***วัดท่องเที่ยว ถ่ายตอนเปิด 07.30 น. ทำวัตรเข้า 08.00 น.


เดิมเป็นวัดราษฎร์ ชื่อ วัดบางหว้าใหญ่ เป็นวัดโบราณสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมา พ.ศ. 2312 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง และโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระไตรปิฎกจากนครศรีธรรมราชมาสังคายนา ในสมัยรัชกาลที่ 1 มีการขุดพบระฆังโบราณที่วัดนี้ เป็นระฆังที่เสียงดี รัชกาลที่ 1 ทรงขอไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และทรงสร้างระฆังพระราชทาน 5 ลูก เก็บไว้แทน จึงเรียกกันว่า วัดระฆัง ตั้งแต่นั้นมา ได้รับการปฎิสังขรณ์ครั้งใหญ่ทั่วพระอาราม โดย สมเด็จกรมพระยาเทพสดาวดี ซึ่งเป็นพระพี่นางองค์ใหญ่ของรัชกาลที่ 1 วัดนี้เคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระสังฆราชสี ซึ่งเป็นปฐมต้นบรมสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และ สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ในบริเวณวัดมีหอพระไตรปิฎกเก่าแก่ เดิมเป็นเรือนเก่าของรัชกาลที่ 1 เมื่อครั้งเป็น พระราชวรินทร์

ที่มา ป้ายในวัด

Wat Rakhang Kositaram
Known by its shorter name of Wat Rakhang, the former name of this temple was Wat Bang Wah Yai. It was built during the Ayutthaya period along with Wat Bang Wah Noi(Wat Amarinthraram in present day).

King Taksin the Great ordered the renovation of the temple and transformed it into a royal temple.

The major reexamination of Tripataka during the reign of King Taksin was held here and kept it in the Tripataka Hall.

ที่มา : The Royal Monastery-Bangkok Vol.3, Ronyoot Chitradon, Ph.D. (ดร.รณยุทธ์ จิตรดอน)
« Last Edit: มีนาคม 07, 2022, 11:25:55 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
91.วัดบุรณศิริมาตยาราม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : ธรรมยุต
แขวง/ตำบล   : ศาลเจ้าพ่อเสือ
เขต/อำเภอ   : พระนคร
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : -

***วันพระใหญ่ 12.30 น.

สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระเจ้าราชวงศ์เธอพระองค์เจ้าอสุนีกรมหมื่นเทพ(ต้นราชสกุล "อสุนี") แต่การก่อสร้างยังไม่สำเร็จบริบูรณ์พระองค์สิ้นพระชนม์เสียก่อน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยามหาอำมาตยธิบดี(เจ้าพระยา สุธรรมมนตรี ต้นสกุล"บุรณศิริ") ดำเนินการสร้างต่อจนเสร็จ มีเนื้อที่ รวมทั้งหมด 8 ไร่ 1 งาน 64 ตารางวา

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามว่า "วัดศิริอำมาตยาราม" ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดบุรณศิริมาตยาราม"

กรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดบุรณศิริมาตยารามเป็นโบรานสถานเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2520

Wat Buranasiri Mattayaram
Located some 300 meter to the west of Wat Mhannoparam, Wat Burnasiri was also built in the reign of King Rama III. It was built by Chao Phraya Sutham Montri and was named by King Rama III ''Wat Siri Ammattayaram.'' It was later underwent several name changes until become its present name ''Wat Vuranasiri Mattayaram.''

Wat Buranasiri is a third class royal monastery. In the temple compound, there are the Ubosot(Ordination Hall), Chedi(Pagoda) Sala Karnparien(Teaching-learning Hall) and Bell Tower.

ที่มา : The Royal Monastery-Bangkok Vol.3, Ronyoot Chitradon, Ph.D. (ดร.รณยุทธ์ จิตรดอน)
« Last Edit: มกราคม 30, 2022, 07:28:46 pm by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
92.วัดบุปผาราม

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : วรวิหาร
นิกาย   : ธรรมยุต
แขวง/ตำบล   : วัดกัลยาณ์
เขต/อำเภอ   : ธนบุรี
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : -

***วันพระใหญ่ 15.30 น.

เดิมชื่อ วัดดอกไม้ มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในเวลาต่อมาได้กลายเป็นวัดร้าง จนถึงสมัยรัชกาลที่ 3 ท่านผู้หญิงจันทร์ ภริยาของ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ได้เป็นผู้ปฏิสังขรณ์ และรัชกาลที่ 4 ขณะทรงผนวชได้ทรงแต่งตั้งพระธรรมยุติกนิกายไปครองวัด ต่อมาได้พระราชทาน แปลงนามวัดเป็น วัดบุปผาราม พระวิหารเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน คือมีภาพเขียน ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ บานหน้าต่างเป็นภาพโต๊ะเครื่องบูชาอย่างจีน หน้าบันของวิหารเป็น ดวงตราสุริยมณฑล รูปประอาทิตย์ทรงราชรถเทียมราชสีห์ ซึ่งเป็นตราประจำตำแหน่งของ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ในสมัยรัชกาลที่ 5

Wat Buppharam
Originally known Wat DoK Mai, the third class royal temple of Worawiharn, founder in Ayutthaya period used to be a deserted monastery. Later Than Phuying Chan, wife of Somdet Chaophraya Borommaha Prayunrawong, had renovated the temple. King Rama IV, while he was a monk had appointed a monk from Thammayuttika Nikai sect to govern the temple and cogerred the name Wat buppharam to the temple. Wiharn(The sermon hall) is a mixture of Thai and Chinese architectural style, decorated with painting of Loard Buddha coming down from the heaven. The windows are painted with the pictures of Chinese altars. At the gable of Wiharn, there is a circular seal of Suriya Monthon which was the private seal of Somdet Chaophraya Borommaha Sri Suriyawong, a nobleman in the reign of King Rama V.

ที่มา ป้ายในวัด
« Last Edit: กุมภาพันธ์ 27, 2022, 09:21:07 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
93.วัดเทพลีลา

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : หัวหมาก
เขต/อำเภอ   : บางกะปิ
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : 2376

***ทำวัตรเย็น 16.00 น.

วัดเทพลีลา สร้างขึ้นโดยพระยาบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) โดยเมื่อปี พ.ศ. 2376 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้โปรดฯ ให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา เป็นแม่ทัพไปปราบญวนและเขมร เมื่อเดินทัพมาจากกรุงเทพฯ ได้แวะพักอยู่ที่บริเวณริมคลองแสนแสบ ซึ่งเป็นที่ตั้งวัดเทพลีลาในปัจจุบัน ทหารได้ลงอาบน้ำในคลอง และมีทหารนายหนึ่งพบพระพุทธรูปปางลีลา ศิลปะสุโขทัย สูง 1.20 เมตร จึงได้นำไปมอบให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา ซึ่งก็ได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นั้นไปประดิษฐานไว้ที่ใต้ต้นไม้ริมฝั่งคลองแสนแสบเนื่องจากต้องเคลื่อนทัพต่อไป
หลังจากเสร็จศึกสงคราม เจ้าพระยาบดินทรเดชา จึงกลับมาสร้างวัดที่บริเวณคลองแสนแสบที่พบพระพุทธรูปนั้น ซึ่งเมื่อสร้างวัดเสร็จ ก็ได้อันเชิญพระพุทธรูปดังกล่าว ไปเป็นพระประธานในพระอุโบสถ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อวัดว่า "วัดเทพลีลา"

Wat Thep Leela
In 2376 B.E., King Rama III ordered Chao Phra Bodindecha(Sing Singhaseni) to lead the army to defend against the Vietnamese and Khmers. He stopped the troop on the bank of Saen Saep canal where a soldier found a 1.2 meters tall Sukhothai-style Buddha image, in a walking posture.
After returning from the victorious campaigns against the Vietnamese and Khmers, he built a temple on the Bank of Saen Saep canal to enshrine the Buddha image, and named the temple ''Wat Thep Leela'' after the posture of the Buddha image.

ที่มา : The Royal Monastery-Bangkok Vol.3, Ronyoot Chitradon, Ph.D. (ดร.รณยุทธ์ จิตรดอน)
#royalthaimonastery
« Last Edit: กุมภาพันธ์ 17, 2022, 07:10:39 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
Re: พระประธาน อารามหลวง เมืองไทย
« Reply #93 on: กันยายน 04, 2018, 07:59:40 pm »
94.วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นโท   
ชนิด   : วรวิหาร
นิกาย   : -
แขวง/ตำบล   : บางศรีเมือง
เขต/อำเภอ   : เมือง
จังหวัด : นนทบุรี
พ.ศ. ที่สร้าง : พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่3) พ.ศ. 2390

***เปิดทุกวัน 09.00-15.00 น. ส อ ปิด 18.00 น.

วัดเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2390 โดยมีพระราชดำริว่าบริเวณป้อม ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาตลาดขวัญ เมืองนนทบุรี ซึ่งเป็นนิวาสสถานเดิมของพระอัยกา พระอัยกี และเป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระศรีสุลาลัย พระราชชนนีพันปีหลวง จึงโปรดให้พระยาพระคลัง(ดิส บุนนาค) ตำแหน่งสมุหกลาโหม เป็นแม่กองสร้างวัดขึ้นในบริเวณนั้น ให้สร้างกำแพงทั้ง 4 มุม มีป้อมปราการ เช่นเดียวกับกำแพงพระบรมมหาราชวัง กว้าง 80 ซม. ยาว 159 ม. สูง 2.7 ม. แต่การสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างจนแล้วเสร็จ

ที่มา : พระอารามหลวง เล่ม 1 กรมการศาสนา กระทรวงมหาดไทย

« Last Edit: กรกฎาคม 13, 2022, 09:49:31 pm by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
95.วัดยาง พระอารามหลวง

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : สวนหลวง
เขต/อำเภอ   : สวนหลวง
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : -

***ทำว้ตรเย็น 17.00 น.

วัดยางเป็นเก่าแก่ที่สร้างมานาน แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างหรือ นามผู้สร้าง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยต้นรัตนโกสินทร์ และมีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี และมีเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาว่า มีพระพุทธรูปลอยน้ำมาหยุดที่บริเวณหน้าวัด เป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลัก ปางมารวิชัย ชาวบ้านซึ่งอยู่บริเวณรอบๆ วัดในครั้งนั้น ซึ่งเป็นชาวลาวที่อพยพมาตั้งบ้านเรื่อยอยู่ จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปดังกล่าวขึ้นมาไว้ที่วัด โดยเรียกพระพุทธรูปองค์นั้นว่า "หลวงพ่อโต" และเรียกชื่อวัดว่า "วัดยั้ง" เพราะมีพระพุทธรูปลอยมาหยุดที่ท่าน้ำของวัด ซึ่งคำว่าหยุดในภาษาลาวใช้คำว่า ยั้ง
ต่อมาเมื่อมีชาวไทยมาตั้งบ้านเรือนอยู่ในบริเวณนั้นมากขึ้น ชื่อวัดว่า "วัดยั้ง" จึงได้เพี้ยนไปเป็น "วัดยาง" ดังที่เรียกกันในปัจจุบัน

Wat Yang
With an unkown date of construction and founder, Wat Yang is assumed to be an ancient temple dating back to early Rattanakosin or Bangkok period which is more than 200 years ago.
Like Wat Soi Thong and Wat That Thong, Wat Yang is just upgraded to be a third class royal monastery in 2555 B.E.

ที่มา : The Royal Monastery-Bangkok Vol.3, Ronyoot Chitradon, Ph.D. (ดร.รณยุทธ์ จิตรดอน)
#royalthaimonastery

« Last Edit: กุมภาพันธ์ 17, 2022, 04:11:39 pm by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
96.วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : ธรรมยุต
แขวง/ตำบล   : ห้วยขวาง
เขต/อำเภอ   : ห้วยขวาง
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : 2534

***ทำว้ตรเย็น 16.00 น.

รัชกาลที่ 9 มีพระราชดำริให้พัฒนาบึงพระราม 9เป็นแหล่งบำบัดน้ำเสียจากคลองใกล้เคียง เมื่อการพัฒนาบึงพระราม 9 ดำเนินการไปได้ระยะหนึ่ง รัชกาลที่ 9 ได้มีพระราชดำริเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2531 ว่าควรสร้างวัดใกล้ๆ กับบึงพระราม 9 โดยมีพระราชประสงค์ในการสร้างวัดแห่งนี้ว่า ให้เป็นวัดเรียบง่าย ประหยัด เป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจ และศรัทธาเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ ทั้งทางศาสนา สังคม และจริยธรรมแก่เยาวชน และประชาชนในชุมชน กรมการศาสนาจึงได้อนุมัติให้สร้างวัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ส. 2534 บนที่ดินซึ่ง นางสาวจวงจันทร์ สิงหเสนี น้อมเกล้าฯ ถวาย

พระอุโบสถออกแบบโดยนาวาอากาศเอกอาวุธ เงินชูกลิ่น(อดีตอธิบดีกรมศิลปากร) เน้นความเรียบง่ายและประหยัดตามพระราชประสงค์ของ รัชกาลที่ 9 เครื่องบนทำอย่างไทย ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ เป็นปูนปั้นสีขาว หน้าบันเป็นปูนปั้นลายดอกพุดตานปิดทองเฉพาะที่ตราพระราชลัญจกร การก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2537 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม พ.ส. 2537 รัชกาลที่9 ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ยกฐานะวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษกเป็นพระอารามหลวงเป็นกรณีพิเศษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542

Wat Phraram 9 Kanchanaphisek
The reason for construction of Wat Phraram 9 Kanchanaphisek is unusual, further to the project to resolve the water putrid by the lagoon aeration, Rama 9 pond, His Majesty King Bhumibol Adulyadej ordered to improve the community around the lake, and construct the temple as its center.

Started construction in 2534 B.E., Wat Phraram 9 Kanchanapisek is a small temple with a simple design as the King's intention. Every building is in ac combination of ancient and modern style.

ที่มา : The Royal Monastery-Bangkok Vol.3, Ronyoot Chitradon, Ph.D. (ดร.รณยุทธ์ จิตรดอน)

« Last Edit: กุมภาพันธ์ 17, 2022, 06:54:51 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
97.วัดบางนาใน

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : บางนา
เขต/อำเภอ   : บางนา
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : 2433

***ทำว้ตรเช้า 08.00 น. วัตรเย็น 16.30 น.

วัดบางนาในสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2433 แต่ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง เดิมชื่อว่า "วัดสว่างอารมณ์" และไม่ได้จัดเป็นวัดในกรุงเทพมหานคร เพราะพื้นที่ตั้งวัดขึ้นอยู่กับจังหวัดนครเขื่อนขันธ์ หรือจังหวัดสมุทรปราการในปัจจุบัน
ต่อมาปี พ.ศ. 2445 ทางราชการได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการบริหารส่วนท้องถิ่นใหม่ วัดสว่างอารมณ์จึงได้มาขึ้นกับอำเภอพระโขนง จังหวัดพระนคร และได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดบางนาใน" ตามชื่อพื้นที่เพราะตั้งอยู่ริมคลองบางนา โดยมีอีกวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ปากคลองบางนา ซึ่งเดิมชื่อว่า "วัดปากคลองบางนา" แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า "วัดบางนานอก" จึงเรียกวัดสว่างอารมณ์ว่า "วัดบางนาใน" เพื่อไม่ให้ชื่อซ้ำกัน

ที่มา : The Royal Monastery-Bangkok Vol.3, Ronyoot Chitradon, Ph.D. (ดร.รณยุทธ์ จิตรดอน)
#royalthaimonastery
#hikingthai.com


« Last Edit: กรกฎาคม 03, 2022, 05:53:27 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
Re: พระประธาน อารามหลวง เมืองไทย
« Reply #97 on: กันยายน 07, 2018, 07:22:52 pm »
98.วัดบางพลีใหญ่ใน

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : บางพลีใหญ่
เขต/อำเภอ   : บางพลี
จังหวัด : สมุทรปราการ
พ.ศ. ที่สร้าง : สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
พิกัด : 13.60491, 100.71122

***เปิดตลอดวัดท่องเที่ยว


« Last Edit: กรกฎาคม 03, 2022, 05:47:41 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
99.วัดบุณยประดิษฐ์ พระอารามหลวง

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : บางไผ่
เขต/อำเภอ   : บางแค
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : -

***ทำว้ตรเย็น 16.30 น. เช้า 08.00 น.

วัดบุญยประดิษฐ์เป็นวัดที่เพิ่งจะสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2482 โดยมีผู้จิตศรัทธา คือ นายบุญ และนางน่วม โพธินิต ยกที่ดินให้เป็นที่สร้างวัด วัดนี้จึงได้ชื่อว่า "วัดใหม่บุญน่วม" มีปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ หลวงพ่อปาน พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยเริ่มสร้างวัด รูปเหมือนพระมงคลเทพมุนี(สด จันทสโร) และรูปเหมือน หลวงพ่อสิน ติสโส

Wat Booya Pradit
Wat Booya Pradit  was built in 2482 B.E.(1939 A.D.), and just upgraded to be a third class royal monastery in 2547 B.E.(2004 A.D.) All buildings are of present day architecture. Those buildings are Ubosot(Ordination Hall), Vihara (Assembly Hall), Prang(Pagoda), Sala Karnparien(Teaching-Learning Hall), and Bell Tower.

ที่มา : The Royal Monastery-Bangkok Vol.3, Ronyoot Chitradon, Ph.D. (ดร.รณยุทธ์ จิตรดอน)
« Last Edit: มีนาคม 17, 2022, 07:02:08 am by designbydx »

Offline designbydx

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
    • View Profile
100.วัดยานนาวา

ลำดับชั้น : วัดพระอารามหลวงชั้นตรี   
ชนิด   : สามัญ
นิกาย   : มหานิกาย
แขวง/ตำบล   : ยานนาวา
เขต/อำเภอ   : สาทร
จังหวัด : กรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ที่สร้าง : -

***เปิดตลอดวัดท่องเที่ยว

วัดยานนาวา เป็นวัดที่สร้างตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง เดิมชื่อว่า "วัดคอกควาย" เพราะมีชาวมอญที่อพยพมาจากเมืองทวายมาตั้งถิ่นฐาน จะนำกระบือที่เลี้ยงไว้มาทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน หมู่บ้านบริเวณนั้นจึงได้ชื่อเรียกต่อกันมาว่า "บ้านคอกควาย" และเมื่อสร้างวัดขึ้นมาในหมู่บ้าน จึงได้ชื่อว่า "วัดคอกควาย" ตามชื่อหมู่บ้านไปด้วย

กระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 โปรดฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ และสร้างพระอุโบสถขึ้นใหม่แทนพระอุโบสถหลังเก่าที่ชำรุด แล้วจึงทรงเปลี่ยนชื่อให้วัดใหม่ว่า "วัดคอกกระบือ"

ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณืวัดนี้อีกครั้ง รวมทั้งมีการก่อสร้างสำเภอพระเจดีย์และอาคารต่างๆ เพิ่มเติม และเมื่อสร้างสำเภาเจดีย์เสร็จ จึงพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดญาณนาวาราม" ซึ่งแปลว่า "ญาณอันเป็นพาหนะดุจดั่งสำเภาข้ามโอฆะสงสาร" โดยต่อม่ได้เลือนมาเป็น "วัดยานนาวา" ดังที่เรียกในปัจจุบัน

Wat Yannawa

Wat Yannawa was established in Ayutthaya period, and originally called ''Wat Khok Kwai'' after the name of village where the temple was located.

its first restoration was carried out in the reign of King Rama I, and there were further restoration and more construction of the temple in the reign of King Rama III. And after the restoration and construction, King Rama III renamed the temple to ''Wat Yannawa''

ที่มา : The Royal Monastery-Bangkok Vol.3, Ronyoot Chitradon, Ph.D. (ดร.รณยุทธ์ จิตรดอน)
« Last Edit: กุมภาพันธ์ 21, 2022, 06:00:13 am by designbydx »