Hiking Thai

ตั้งใจจะไปก่อนโควิดมา แต่ก็ดันมาพอดีตอนที่จะไป รอไปอีก 2 ปี มัดจำไปแล้ว(แต่ทัวร์ก็เก็บมัดจำไว้ให้)
ตั้งใจจะไป 7-16 เมษายน 2566 แต่เที่ยวบินก็เลื่อนอีกเป็น 8-15 เมษายน 2566 ทำให้ต้องปรับแผนการเที่ยว จึงได้แผนตามข้างล่าง(ทัวร์เสนอมาให้)
บินอย่างเดียว ไม่มีนั่งรถนะครับ (แต่เที่ยวบินขากลับถูกยกเลิก ดีนะที่ไม่ใช่ขาไป)

Outline itinerary of Mardi Himal Trekking with the valley sightseeing :

 08 Apr : Arrival in Kathmandu. Pick up and transfer to the hotel (Thamel)
 09 Apr : Morning Fly to Pokhara from Kathmandu (Fly time: 25min). Drive to Kande from Pokhara (Driving time: 1 hrs) then Trek to Deurali (Walking time: 4 hours)
 10 Apr : Trek to Forest camp (2520m) (Walking time: 6 hours)
 11 Apr : Trek to High camp (3700m) (Walking time: 5 hours)
 12 Apr : Exploration day (Mardi view point (4200m) or Mardi Himal Base Camp 4500m or both ) เราเปลี่ยนแผนขึ้นยอดแล้ว ลงมานอนที่ Low Camp แทน จะได้เดินน้อยหน่อยขากลับ
 13 Apr : Trek until Sidhing (Walking time: 7 hours). Drive back to Pokhara by private jeep (Driving time: 2 hrs).
 14 Apr : Morning fly back to Kathmandu (Fly time : 25 min แต่ถูกยกเลิกเที่ยวบิน ต้องนั่งรถแทกซี่มาแทน) Pick up and transfer to the hotel (Thamel). Later, Full day sightseeing of Patan / Swayambhunath / Boudhanath
15 Apr : Final Departure.

www.incredibletreks.com
Facebook : https://www.facebook.com/nepalguidekrish


คำแนะนำ
1.ควรมีสัก 10 วันนะครับ เผื่อฉุกเฉิน
2.ค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นประมาณ 4 หมื่นบาท รวมทุกอย่างแล้ว(ค่ากินตอนเดินแลกไป 80 us เหลือๆ ครับ ทัวร์เขาจะมีอาหารให้แล้ว นอกจากจะกินเพิ่มจ่ายเอง)
3.ต้องมี crampons นะครับ เอาติดตัวไปด้วย หรือไปซื้อที่โน่นก็ได้ราคาไม่แพง(ต้องมีติดไว้นะ)
4.ยาแก้แพ้ความสูง จำเป็นมาก
5.มีน้ำอุ่นอาบ(แค่ Forest Camp) แต่ก็ตามอัตภาพ สูงกว่านั้นไม่อาบกันแล้ว
6.เมนูอาหารเหมือนกันทุกที่ หน้าตาเหมือนกัน ไม่รู้ทำไม ถ้ากลัวท้องเสียแนะนำให้กินอะไรก็ได้ร้อนๆ แทน กินไม่ได้ก็กินผลไม้ มีกล้วย กับแอปเปิ้ล
7.น้ำเปล่าขวดไม่มีขายกลางทาง มีแต่น้ำกรอง แต่ปลายทางมีขาย งง ม่ะให้เหตุผลว่าขยะ แต่ว่ามีน้ำอัดลมขาย งงไปอี๊ก
8.ค่อยเดิน เดินช้าๆ เพราะยังไงก็ถึง ทางเดินชัด เดินง่าย แต่เป็นบันไดส่วนใหญ่
9.ขากลับยังไง ก็ลงมานอน Low Camp ครับ ไม่งั้นเดินอ๊วกเลย
10.ความสูงที่ระดับ 3000 ขึ้นไปจะหนาว และมีลม ควรติดเสื้อกันหนาว กันลม ไว้ที่เป้ด้วยนะครับ
11.ควรไปกรุ๊ปละ 4 คน 8 คน เพราะรถจุได้สะดวกที่ 4 คน หากมากกว่านี้จะต้องใช้รถคันใหญ่จะทำให้ช้าได้ครับ
12.ฟ้าเปิดเฉพาะช่วงเช้าถึงประมาณ 11.00 น. ก็ปิดแระ ถ่ายรูปก็อย่าคาดหวังเย็นนะครับ ยกเว้นหน้าหนาวล่ะมั๊ง
13.sim2fly ใช้ได้เฉพาะในเมืองนะ ระหว่างเดินเลิกคุย
14.ประหลาดใจไกด์พูดไทยได้ด้วย
15.ก่อนออกเดินทางชั่ง นน. ไว้เทียบขากลับก็ดีนะ ผมหนักก่อนไป 76.4 กก. ขากลับ 72.0 กก.
16.พกแมสไปด้วยนะครับ กันฝุ่น PM2.5

กล้อง
Fuji xs-10, xf27mm, xf35mm, Samyang 12mm, xc55-210mm

ก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่า เกาะช้างจะมียอดเขาให้เดินขึ้น จุดหมายปลายทางที่เราจะไปมี มีชื่อว่า "จุดชมวิวเขาแหลม"
ป้ายที่ปักไว้ไม่ใช่ยอดเขาแหลมนะครับ ตรงป้ายที่ปักจะมีความสูงประมาณ  586 เมตร ส่วนยอดเขาแหลมสูง 676 เมตร ถ้าจะไปยอดเห็นว่าต้องเดินอีก 1 ชม.(รอบขาไปเราใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง)
ไปหน้าฝนก็จะมีหมอกครึ้ม ไม่ร้อนดี

ข้อแนะนำ
1.ทางชันอยู่ดินถ้าฝนตกจะลื่น ทางชั้นจะมีเชือกไว้ให้ดึงอยู่
2.ระยะทางไม่ไกลขาไปประมาณ 3 กิโลนิดๆ
3.ไม่ควรขาสั้นนะครับ ต้องขายาว ถุงมือ ไม่มีทาก พกร่มเล็กๆ ไปด้วยก็ดี
4.ปัจจุบันไม่ได้อนุญาตให้นอนบนยอดนะครับ
5.บนจุดเป้าหมายพื้นจะเล็ก จะมีมุมถ่ายไม่กี่มุม หากถ่ายเสร็จแนะนำให้ย้ายที่นั่งหลบๆ มุมกล้องด้วยนะครับจะได้ไม่ติดไปกับภาพคนอื่น
6.แนะนำให้ซื้ออาหารเช้าติดตัวไปเลยนะครับ สะดวกดี บนเกาะจะต้องรอนานหน่อย แถมอาจไม่พออิ่มสำหรับคนกินจุ 555

กล้องที่ใช้รอบนี้ Canon g7x MarkIII

ไปกับเพจ ซังกุงสูงสุดแห่งขุนเขา(อาหารทะเล จัดเต็มมาก)
https://www.facebook.com/%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2-100407649307875
 

พิชิตยอดเขาล่องเรือตาหมื่นอัญมณีแห่งบ้านมุง จังหวัดพิษณุโลก
พฤษภาคม 2565

ไปเหมาเขาเที่ยวคนเดียวพร้อมกับไกด์ 2 คน ทั้งถ่ายรูปให้ ดูแลเป็นอย่างดี ประทับใจ รีวิวสั้นๆ เป็นภูเขาหินแหลมคม แบ่งโซนที่พัก 3 โซน(โซนแคร่ โซนหมูกระทะ และโซนนอแรด) ห้องน้ำจะเป็นแบบนั่งราบมีถุงพลาสติกเก็บ
ระยะทางเดินทางราบ(ถ้ำเดือน ถ้ำดาว)ไปจุดเริ่มประมาณ 750 ม. และขึ้นชันไปอีกประมาณ 750 ม. ก็จะเจอจุดเชคอิน เดินอีกนิดก็ถึงโซนแคร่(ซึ่งจะมีแคร่ที่พักหลายจุดในบริเวณเดียวกัน ตั้งชื่อต่างๆ กันไป)
โซนแคร่ ไปโซนหมูกระทะ ต้องเดินอีกประมาณ 20-25 นาที มีปีนป่ายบนหินล้วนๆ
โซนหมูกระทะ ไปโซนนอแรด ต้องเดินอีกอึดใจก็ถึง ไม่ไกลกันมาก โซนนอแรดเป็นจุดสูงสุด(300 ม. รทก.)
จุดถ่ายรูปมีหลายจุดมาก แล้วแต่จินตนาการ แต่ก็มีไกด์ไลน์แนะนำไว้
 
ข้อแนะนำ
1.ใช้รองเท้าที่มีความกระชับ และก็พื้นแข็งนิดนึง จะได้เดินง่าย
2.อากาศจะร้อนมากเนื่องจากเป็นภูเขาหินปูน ตอนเย็นไปถึงกลางคืน ก็จะคายความร้อนออกมา กว่าจะเย็นก็หลังเที่ยงคืน
3. อย่าใส่เสื้อผ้าลุ่มล่าม เพราะตอนปีนมันจะไปเกี่ยวกับหิน จะรั้งเราอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ใส่เสื้อผ้าที่มีความหนา กันยูวีได้ก็จะดี ไม่ร้อน
4. หมวก ถุงมือ สนับเข่า มีให้
5. รองเท้าแตะผมว่าไม่ควรเอาไป เดินไม่สะดวกมากๆ ถึงแม้จะถึงจุดพักแล้วก็ตาม ยังไง ก็ใส่รองเท้าเดินดีกว่า คล่องตัวกว่า เสี่ยงบาดเจ็บ
6. ยากันยุงเอาไปด้วย ตอนแรกคิดว่าไม่มียุง กัดเจ็บมาก กลางคืนจะมีแมลงมาเล่นไฟ ปัญหาคือ อากาศร้อนเราก็ไม่อยากห่มผ้า มันก็จะมาตอมเรารำคาญ
7. แนะนำ 2 วัน 1 คืนนะครับ และให้นอนที่โซนแคร่ ตื่นเช้าอีกวันค่อยไปโซนหมูกระทะ กับโซนนอแรด เนื่องด้วย โซนแคร่ พื้นที่กว้างขวางเดินไปชมวิวได้หลายจุด (พระอาทิตย์ตกชมได้ทุกโซน)

ขอบคุณ
พี่จันดี กับพี่สาว ผู้ถ่ายวีดีโอ ภาพนิ่ง
และดูแลอย่างดี

กล้องมือถือ samsung M51
              Fuji xe-3+xc15-45 mm

ติดต่อผ่าน https://www.facebook.com/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%87-100156618586809

ค่าใช้จ่ายไปคนเดียว 2500 บาท
ถ้าไปผ่านเพจข้างต้น ให้เขาทำเรื่องขออนุญาตให้ด้วย เพิ่ม 300 บาท(ต้องขอล่วงหน้า 3 วัน)
ค่าที่นอนแต่ละจุดไม่เท่ากัน ผมจองเต๊นท์กับที่รองนอนไว้ 200 บาท (เขาแบกขึ้นไปไว้แล้ว)

เดิมเมื่อก่อน สมัยหนุ่มๆ ได้คลั่งการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก หาหนังสืออ่าน ลงเรียนคอร์สต่างๆ สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับผู้เริ่มต้นคือ "เราไม่รู้ว่าเราเหมาะกับเครื่องมือไหน" เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเราชอบถ่ายอะไร ชอบถ่ายแนวไหน จนกว่าเราจะได้ทดลองมันไปเรื่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาพก็จะเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าตำแหน่งเราต้องวางอยู่ตรงไหน

เราก็พยายามหาอุปกรณ์ที่สุดมาครอบครองเท่าที่จะสามารถได้ แต่ว่าเมื่อเราต้องการคุณภาพของภาพสิ่งที่ตามมาคือ แพง และมีน้ำหนักเยอะ พกพาไม่สะดวก เอ้าแล้วเวลาไปเดินป่าทำไงล่ะ ไหนจะกระเป๋าเสื้อผ้า เต็นท์ ถุงนอน แล้วยังต้องมีอุปกรณ์กล้องอีก แต่ยังไม่หมดแค่นั้น ก่อนเดินเราจะต้องแบกน้ำ กับข้าวกลางวันอีกนะ คิดแล้วก็หนักไหมล่ะ รวมแล้วจะ 10 กิโลกว่านะ

การพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายรูป ดูเหมือนจะพัฒนาลง แต่ว่ามันก็สวนทางกับเทคโนโลยีนะ(มันสูงขึ้น) เมื่อก่อนก็พกฟลูเฟรมไปไหนมาไหนก็แบกประมาณ 10 กว่ากิโลฯ ไม่ไหวก็เปลี่ยนมาใช้ APSC เริ่มก็ไม่ไหมอีก ก็เหลือ Compact แต่อย่าลืมว่าเทคโนโลยีพัฒนาก้าวไกลมากตอนนี้ (https://hikingthai.com/webboard/index.php?topic=2568.0) และอีกอย่างมันตอบโจทย์เพียงพอต่อการอัพกระทู้ ลงเฟสบุค สบายตัวไม่โหลดจนเกินไป


การเดินป่ามันก็มีภาพหลายอย่างให้เราถ่าย แทบจะทุกแนว ถ่ายเพื่อน ถ่ายดอกไม้ ถ่ายวิว ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น ตก ถ่ายดาว ฯลฯ แต่จะหากล้องเล็ก เบาถ่ายได้ทุกแนวก็ต้องตัวนี้ล่ะ มีความสามารถหลายอย่างที่ตรงความต้องการ ไปดูกันเล๊ยยยย

ยอด 1408 ม. รทก.
อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ดินแดนที่นี่มีตำนานทางด้านสงคราม จินตนาการก็จะมาเยอะหน่อยในตอนกลางคืน เดินง่ายระยะทางประมาณ 5 กม. กิโลเมตรแรกจะชัน 30-45 องศา หลังจากนั้นราบมากๆ จนถึงจุดกางเต๊นท์ มีห้องน้ำ เห็นภูสอยดาว ติดต่อโทร 094-239-2498  มีทากนะ นอนเปลก็ได้ เต๊นท์ก็ได้ วิวอยู่หน้าบ้านเลย ทางร่มตลอดนะ ไม่ร้อน

จากนั้นวันที่สอง ก็ไปต่อจุดกางเต๊นท์รถถึง ภูใหญ่ ไปมองยอด 1408 ระยะไกล มีห้องน้ำ มีรถโฟล์วิวพาขึ้นไปกางเต๊นท์ ติดต่อ ทัศนีย์ รีสอร์ท 0801803535 ค้นจากกูเกิ้ลได้เลย คนน้อยดี

กล้อง Canon G7X MarkIII
Fuji xe3, 15-45 mm 55-230 mm

ขอบคุณเพจ ลูกหาบพาไปเที่ยว อาหารอร่อย
https://www.facebook.com/lookharbtour/

Hikingthai.com

หลังจากได้อ่านหนังสือ วัดร้างในบางกอก ของ ผศ.ดร.ประภัสสร์ ชูวิเชียร และ สุจิตต์ วงษ์เทศ แล้วก็มานั่งคิดเออออ สิ่งนี้น่าจะเหมาะกับเรา ไม้...ใกล้(วัด)ฝั่ง  ที่สำคัญช่วงนี้ก็มีโควิดระบาด ก็หาอะไรทำให้ กทม.นี่แล้วกัน อ่านไปมาก็น่าสนใจมีเรื่องราว ทำให้สนุกเวลาที่ออกตามหา เพราะวัดร้างจะแทรกตัวอยู่ในชุมชนบ้าง โรงเรียน หรือแม้แต่แทรกอยู่ในวัดกันเอง ก็มี

การถ่ายก็ทยอยอัพไป เพราะการเข้าถึงช่วงนี้จะลำบากเพราะห้ามกันเสียส่วนใหญ่เพราะโควิดเป็นเหตุ แต่ก็ไปดูที่ถ่ายมาแล้ว  ไปกันเล๊ยยยย 


เริ่มต้นจากที่นี่ก่อนละกัน ใกล้บ้าน


1.วัดสวนสวรรค์ ซอยจรัญ 44


อุโบสถวัดสวนสวรรค์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทรงสูงหลังคาไม่ซ้อนชั้น ซึ่งอาจเป็นรูปแบบของอาคารที่สร้างขึ้นในราวสมัยอยุธยาตอนปลายถึงรัตนโกสินทร์
ภายในมีพระประทาน "หลวงพ่อดำ" ตามลักษณะที่มีการลงรักสีดำ ซึ่งน่าจะเคยปิดทองมาก่อนด้วย และจะเห็นผนังอุโบสถเจาะช่องเว้ารูปกลีบบัวคล้ายแบบที่พบในสถาปัตยกรรมอยุธยาตอนปลายถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์

ที่มา : วัดร้างในบางกอก, ประภัสสร์ ชูวิเชียร

มอไซด์สะดวกที่สุด

ตำแหน่ง https://www.google.co.th/maps/place/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%8C/@13.7724894,100.4923291,17z/data=!3m1!4b1!4m5!3m4!1s0x30e2997ac293c90d:0x4f67832141d839b2!8m2!3d13.7725016!4d100.4944917

การเตรียมตัวสำหรับปีนเขาระดับ 8000 ม.
คัดลอกมาจาก หนังสือ มานาสลู ตามหาจิตวิญญาณ บนเส้นทางสายหิมะ
โดย มัณฑนา ถวิลไพร

สรุป

อ่านจบแล้ว ได้อ่านก็พอไม่ต้องไปหรอก ถ่ายรูปก็ลำบากเนอะ

1.เพิ่งรู้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนักปีนเขาเหมือนกัน

2.ระดับที่สูงกว่า 8000 ม. จะเรียกว่า Dead Zone(มนาสลูสูง 8156 ม. ประเทศเนปาล)

3. 7 Summits หมายถึงยอดเขาที่สูงที่สุดใน 7 ทวีป
3.1ทวีปเอเชีย ยอดเขาเอเวอเรสต์ 8848.86 ม.
3.2ทวีปอเมริกาเหนือ ยอดเดนาลี 6190 ม.
3.3ทวีปอเมริการใต้ ยอดอาคองคากัว 6961 ม.
3.4ทวีปแอฟริกา ยอดคิลิมันจาโร 5895 ม.
3.5ทวีปยุโรป ยอดเอลบูรส 5642 ม. หรือ มงบล็อง 4809 ม.
3.6ทวีปแอนตาร์กติกา ยอดวินสันแมสซิฟ 4892 ม.
3.7ทวีปโอเชียเนีย ยอดปุนจักจายา 4884 ม.

4. สรุป การเดินทางที่ชอบบอกว่าตามหาความหมายของชีวิต น่าจะหมายถึง ตราบใดที่เรายังไม่ได้ยืนที่จุดวิกฤตระหว่างความเป็นความตาย เรายังจะไม่มีวันเข้าใจ เหมือนสิ่งที่คิดได้จะเกิดตอนนั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจุดที่จิตมีสมาธิสูงสุด และเรื่องอื่นๆ คิดว่าน่าจะเป็นเหมือนกัน

ไม่ได้หาข้อมูลอะไรมากมายอยากไปเดินเล่น จึงเลือกเส้นทางไม่ไกล (ประมาณ 3 กม.) เอาว๊ะ น่าจะไหวอยู่ ไปๆๆๆ ประกอบกับ ไปทดสอบกล้องตัวใหม่คอมแพค ด้วยแรงที่เหลือก็เลยลดขนาดลงเรื่อยๆ 5555

โปรแกรม
วันที่ 1 เย็น นัดรวมตัวกัน
วันที่ 2 เช้าที่ อ.จอมทอง เชียงใหม่ สักที่ เดินขึ้นไปกางเต๊นท์
วันที่ 3 ลง กินสตอเบอรี กลับ กทม.

สิ่งที่แนะนำ
1.ไปเดือน ก.พ. 64 ซึ่งมีกุหลาบพันปี แต่ไม่มีหมอก ถ้าอยากมีหมอกควรจะไปตอนปลายฝนต้นหนาว ถึงจะสมกับคำว่าผา สองฤดู
2. ต้องเดินทางแนวกันไฟ ก็จะมีแต่ดินกับฝุ่นนะ
3. ทางชันตลอด ขาขึ้น แต่ขึ้นถึงสันก็จะราบ สลับกับชัน
4. หนาวมาก กลางคืนวัดได้ 13 องศา
5. เต๊นท์น่าจะเหมาะสุด เลือกตำแหน่งไม่ดีก็ลมแรงพัดทั้งคืน
6. จุดปล่อยตัวมีไร่สตอเบอรี ซื้อกลับบ้านได้ไม่แพง


รอบนี้ไปกับ คลุกฝุ่นทัวร์
https://www.facebook.com/Klukfoontour

กล้อง
canon g7x mark III

ถ้ำธารลอดน้อย ถ้ำธารลอดใหญ่
อยู่ที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี

การเดินทางครั้งนี้ใช้ xmax 300 บิดไปเพราะไม่ไกลจาก กทม. มากนัก ไม่เกิน 200 กม. ขับไปเรื่อยๆ ไปนอนค้างก่อน 1 คืน ตอนเช้าค่อยเดินเที่ยว หรือใครไปถึงจะเดินเลยก็ได้ ต้องแนะนำที่นี่เลยเงียบและบรรยากาศดีมาก ห่างไกลผู้คน คนมาน้อย น้ำใสเย็นมีครบ ถ้ำ น้ำตก เดินขึ้นเขา สำนักสงฆ์

ขาสั้นเดินได้
รองเท้าควรหุ้มส้น
ห้ามนำอาหารเข้าไป

กล้อง canon 5d markIII + 24-105 มม.

*** ขายแล้ว ***


ซื้อมาใหม่นะครับ แต่ไม่ได้ใส่เพระาว่าซื้อมาผิดเล็กไป บุโพลีเอสเตอร์หนา กันติดลบได้ ซื้อมาจาก Import Export จำราคาซื้อไม่ได้ ซื้อมานานแล้ว หลักพัน ของ Adimin เอง

อก 40 (รอบเสื้อ) เหมาะกับคนอก 38 ลงไป
ซิบกลางรูดแล้วไม่ค่อยติดไปเปลี่ยนซิเองนะ แต่ถ้าใจเย็นๆ ก็รูดได้

ขาย 350 บาท รวมส่งนะ

Line id : tachipa1974
Tel : 0878216007