Hiking Thai
Hiking Thai => ลุงชาติ...อยากเล่า => Topic started by: designbydx on มกราคม 27, 2022, 10:12:11 am
-
เดิมเมื่อก่อน สมัยหนุ่มๆ ได้คลั่งการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก หาหนังสืออ่าน ลงเรียนคอร์สต่างๆ สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับผู้เริ่มต้นคือ "เราไม่รู้ว่าเราเหมาะกับเครื่องมือไหน" เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเราชอบถ่ายอะไร ชอบถ่ายแนวไหน จนกว่าเราจะได้ทดลองมันไปเรื่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาพก็จะเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าตำแหน่งเราต้องวางอยู่ตรงไหน
เราก็พยายามหาอุปกรณ์ที่สุดมาครอบครองเท่าที่จะสามารถได้ แต่ว่าเมื่อเราต้องการคุณภาพของภาพสิ่งที่ตามมาคือ แพง และมีน้ำหนักเยอะ พกพาไม่สะดวก เอ้าแล้วเวลาไปเดินป่าทำไงล่ะ ไหนจะกระเป๋าเสื้อผ้า เต็นท์ ถุงนอน แล้วยังต้องมีอุปกรณ์กล้องอีก แต่ยังไม่หมดแค่นั้น ก่อนเดินเราจะต้องแบกน้ำ กับข้าวกลางวันอีกนะ คิดแล้วก็หนักไหมล่ะ รวมแล้วจะ 10 กิโลกว่านะ
การพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายรูป ดูเหมือนจะพัฒนาลง แต่ว่ามันก็สวนทางกับเทคโนโลยีนะ(มันสูงขึ้น) เมื่อก่อนก็พกฟลูเฟรมไปไหนมาไหนก็แบกประมาณ 10 กว่ากิโลฯ ไม่ไหวก็เปลี่ยนมาใช้ APSC เริ่มก็ไม่ไหมอีก ก็เหลือ Compact แต่อย่าลืมว่าเทคโนโลยีพัฒนาก้าวไกลมากตอนนี้ (https://hikingthai.com/webboard/index.php?topic=2568.0) และอีกอย่างมันตอบโจทย์เพียงพอต่อการอัพกระทู้ ลงเฟสบุค สบายตัวไม่โหลดจนเกินไป
การเดินป่ามันก็มีภาพหลายอย่างให้เราถ่าย แทบจะทุกแนว ถ่ายเพื่อน ถ่ายดอกไม้ ถ่ายวิว ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น ตก ถ่ายดาว ฯลฯ แต่จะหากล้องเล็ก เบาถ่ายได้ทุกแนวก็ต้องตัวนี้ล่ะ มีความสามารถหลายอย่างที่ตรงความต้องการ ไปดูกันเล๊ยยยย
-
กล้องตัวนี้ได้ถ่ายมาหลายเดือนแล้วจนรู้สึกว่ามันเหมาะกับการเดินป่ามาก จนอดไม่ได้ต้องมาแนะนำ มาดูกันว่า Spec มีอะไรน่าสนใจ เอาที่โดนใจและเหมาะกับการเดินป่า
- เป็นกล้องคอมแพค Hi-end ถ้าจะไปซื้อ Sony Rx100 ก็แพงเกิ๊น(แถมความสามารถไม่ตรงที่ต้องการ) ไปซื้อ Panasonic Lumix Lx100II ก็หนักมาก
- น้ำหนักเพียง 304 กรัม รวมแบตแล้ว (แต่ถ้าไปหลายวันต้องพก power bank กับที่ชาร์ท ด้วยนะอย่าลืมรวมน้ำหนักด้วย หรืออีกวิธีซื้อแบตสำรองหลายก้อน เผื่อใช้เท่ากับจำนวนวันที่เดินเลย)
- กล้องเซนต์เซอร์ขนาด 1 นิ้ว 20 megapixels ขนาดภาพที่ได้ 5472 x 3648 เพียงพอที่จะให้บนโซเชียว
- จอหลัง ปรับได้ เหมาะสำหรับการถ่ายมาโคร หรือก้มต่ำถ่าย หรือเซลฟี่ได้นะ มีแฟลตในตัว ใช้ช่วยมาโครได้เยอะเลย
- ระยะเลนส์ครอบคลุมอยู่นะ 24100 mm F1.82.8
- ที่ตอบโจทย์คือ มันสามารถ
ถ่ายดาวหมุนได้(ที่วิ่งเป็นเส้นๆ นะ) เสียดายภาพที่ได้เป็น Jpeg
ถ่าย Timelapse ดาวได้ ซึ่งง่ายมากๆ ไม่ต้องโฟกัสอะไรเลย แค่จัดคอมโพส ก็ถ่ายเลยนอนรอ แถมรวมไฟล์เป็นวีดีโอให้ด้วยความละเอียด 4K และยังเลือกเก็บภาพ Jpeg ไว้ได้ด้วย ทางช้างเผือกเคลื่อนที่ได้ง่ายๆ เลย
ถ่ายวีดีโอ ดาวได้ แต่ว่าได้แค่ความละเอียด FHD
มีโหมดถ่ายคร่อมแสง เอามาทำ HDR (ถ่ายได้แค่ 3 ภาพนะ) เวลารวมต้องมารวมในคอม
มีโหลดถ่าย Stack เหมาะมากสำหรับถ่ายมาโครจะทำให้ชัดทั้งภาพ หรือถ่ายภาพวิวก็ได้ เจ๋งมากๆๆๆ แต่ต้องมารวมในคอมเองครับ มี peaking focus เวลาแมนนวลโฟกัส
ถ่าย Timelapse ได้ความละเอียด 4K แต่โหมดนี้ไม่มีภาพ Jpeg ให้(คนละโหมดกับการถ่ายดาวนะ) มีแต่ไฟล์วีดีโดที่ทำเสร็จแล้ว จะบอกว่ามันเกลี่ยแสงให้ด้วยเลย เนียนๆ ไม่ต้องมาเสียเวลาในคอมอีก
ถ่ายวีดีโอ 4K ได้ แต่ว่ามันจะโอเว่อร์ฮีทบ่อย ฮีทแล้วทำอะไรไม่ได้เลยนะ ต้องแก้ด้วยการถ่ายสั้นแค่ 10-15 วิ ครับพอช่วยได้อยู่ ต่อไมค์นอกได้ด้วยนะ
พกใส่กระเป๋าเป้ตรงเอวได้สบายมาก ไม่ต้องปลดเป้ หยิบถ่ายเก็บ เดินต่อไม่ต้องเสียเวลาเอาเป้ลง
มีฟิลเตอร์ลดแสงในตัวกล้องด้วย
เมื่อกล้องตัวเล็กแน่นอนกขาตั้งกล้องก็เล็กตามไปด้วย
โอนถ่ายภาพลงมือถือได้อย่างรวดเร็ว เชื่อมต่อกล้องกับมือถือได้(เพื่อคุมกล้องด้วยมือถือ) แต่าแบตหมดเร็วไปหน่อย เลยไม่ค่อยใช้
มันกันสั่นในกล้องเลยทำให้ภาพคมชัดได้อยู่ แต่จะให้ดีก็ใช้ขาตั้งกล้องเหอะ ถ้าตั้งได้
เห็นไหมล่ะว่ามันตอบโจทย์การเดินป่ามากๆๆ มือสองอยู่ประมาณ 11-15K ตอนนี้ มือหนึ่งก็สองหมื่นกว่า ซื้อมือสองก็พอนะ
ข้อด้อย
- คือมันไม่ได้ออกแบบมาให้สมบุกสมบันเท่าไรนะ ทำอะไรก็เกรงใจมันหน่อย
- แบตหมดเร็ว
- ถ่าย 4K เครื่องจะ over heat ง่าย และก็จะทำอะไรไม่ได้เลย
-
เพื่อให้ได้ภาพที่หลากหลายแนะ มันก็ต้องมีอุปกรณ์เสริมทำให้กล้องมีความสามารถเพิ่มขึ้น
1.Adapter ring มาติดที่หน้าเลนส์ขนาด 52 มม. ทำให้เราสามาถติดฟิลเตอร์แบบต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ND 10 stop, CPL, Gradient ฯลฯ อีกอย่างปกป้องหน้าเลนส์ด้วย ลองค้นด้วยคำว่า adapter ring canon g7x
2.เคสลายทหารกันบอดี้ตอนพกพา(กล้องคอมแพคไม่ได้ออกแบบมาให้ลุยสักเท่าไร) แต่เมื่อใส่เคสแล้วมันก็จะกดยากหน่อย(ซื้อจากจีน) แค่ร้อยกว่าบาทถูกว่าในไทยเยอะ แต่ก็รอนานหน่อย
3.พวกฟิลเตอร์แนะนำยี่ห้อนี้ Knightx ของจีนผมว่าเจ๋งมาก ราคาถูก แต่ว่าสีมันก็จะเพี้ยนนิดหน่อยมาแก้ในคอมเอาล่ะกัน (https://shopee.co.th/knightx2012.th)
-
ฟิลเตอร์ของเล่นแบบต่างๆ หากขนาดใหญ่ก็ใช้ Step ring ช่วยลดขนาดจะได้ติดหน้าเลนส์ได้ ถ้าต้องการฟิลเตอร์ลด 10 stop ไว้ถ่ายน้ำตก แนะนำให้ซื้อ nisi มือสองนะครับ แพงหน่อยแต่ภาพที่ได้โอเคเลยสีไม่เพี้ยนด้วยนะ อันอื่นช่างมัน
เดี๋ยวจะมีภาพให้ผลการใช้ฟิลเตอร์แบบต่างๆ ถัดไปนะ
-
เมื่อกล้องตัวเล็ก ก็ทำให้เราพกขาตั้งกล้องตัวเล็กได้
1.ขาตั้งกล้องอันเล็ก ยืดหดความสูงได้ ยี่ห้อ Ulanzi ซื้อจากจีนหลักร้อย ไว้พกในกระเป๋าตอนเดิน เอาไว้เซลฟี่ตัวเอง และเอาไว้ถ่ายมาโคร https://shopee.co.th/spaicshop?categoryId=100635&itemId=6506080162
2. หัวแพนยี่ห้อ Andoer ไว้ถ่ายวีดีโอ เอาไปต่อกับขาตั้งกล้องอีกทีลองหาดูนะ หายากอยู่
3. ขาตั้งกล้องขนาดเล็กไว้ถ่ายตอนถึงที่พักแล้ว ไว้ถ่ายดาว ถ่ายวิวไรงี้ เลือกใช้แบบนี้เพราะมีหัวบอลให้ตัวเลยไม่ต้องพกเพิ่ม(กลัวหนัก)
-
ผมจะมาแนะนำความสามารถของกล้องคอมแพค ที่นอกเหนือการถ่ายปกติทั่วไปที่น่าจะตอบโจทย์คนเดินป่า แรงน้อย ;D ;D ;D มีดังนี้
1.โหมดถ่ายดาว
1.1 ถ่ายดาว
1.2 ถ่ายดาวหมุน Star trails
1.3 Timelapse ดาว
2. โหมด Focus bracketing
3. โหมดถ่ายคร่อม Expo.comp./AEB
4. โหมด Timelapse ภาพวิวทั่วไป
5. ฟิลเตอร์ แบบต่างๆ(ยังไม่เสร็จ)
1.โหมดถ่ายดาว เป็นโหมดที่ไม่ยุ่งยากต่อไป ได้ภาพสวยคมใช้ได้อยู่ ได้ทดลองแล้วพอใจ จะแนะนำเฉพาะ
1.1 ถ่ายดาว
1.2 ถ่ายดาวหมุน Star trails
1.3 Timelapse ดาว
- หมุนไปที่โหมด SCN
- เลือกว่าจะถ่ายโหมดไหน ดาวหมุน timelapse ดาว หรือภาพนิ่งดาว หรือถ่ายคนกับดาว
- ภาพที่ได้จะเป็น Jpeg นะไม่ใช่ Raw file กล้องจะทำให้เสร็จสรรพ
-
- ถ่ายดาวกับคน ยังไม่ได้ลองเลย
1.1 ถ่ายภาพดาว วิธีการ เลือกตามไอคอนถ่ายดาว หลังจากนั้นก็ตั้งเวลา 10 วินาที เพราะกล้องไม่มีที่ต่อสายลั่นชัตเตอร์
- ตรวจสอบโฟกัสว่าอินฟินิตี้หรือยัง จัดคอมโพส ก็ลองถ่ายภาพมาดูว่าคอมโพสได้ไหม สีตรงไหม แล้วค่อยขยับ ปรับอีกที
- ถ้าอยากได้ความสมบูรณ์อาจจะต้องถ่ายสองภาพแล้วมาตัดต่อใน Photoshop อีกที
- ภาพที่ได้เป็น Jpeg
- ปกติกล้องก็จะถ่ายประมาณ 30 วินาที
- ถ่ายออกมาแล้วสีไม่ตรง สามารถปรับแก้สีได้(ก่อนถ่าย)
- เพิ่มความคมของภาพได้
- is จะปิดให้อัตโนมัติ
-
วิธีตรวจสอบโฟกัสอินฟินิตี้
1. กดชัตเตอร์ลงครึ่งนึง
2. หมุนวงแหวนหน้ากล้อง
3. ดูระดับบอกความชัดไปแตะที่อินฟินิตี้
-
ยังไม่หมด เรายังจะสามารถปรับ
-ปรับความมึดสว่าง เพิ่มลด ได้อีกนะ เจ๋งไหมล่ะ วิธีการก็ลำดับข้อตามภาพเลยครับ
-ความคมของภาพ
-ปรับสีให้ตรง
-
ตัวอย่างภาพ กองไฟกับดาวล้านดวงที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
-
ทางช้างเผือกจางๆ จัดคอมโพส กด ยืนรอ ไม่ต้องมาจบต่อที่คอม
-
ถ่ายกับเต๊นท์ และก็ถ่ายดาวเอามารวมในโฟโต้ช๊อปอีกที
-
เมื่อนำฟิลเตอร์ Star 8 แฉกมาใส่หน้าเลนส์ ซื้อมาจาก https://shopee.co.th/knightx2012.th
-
1.2 ถ่ายภาพดาวหมุน Star trails ตั้งค่า และวิธีการถ่ายเหมือนการถ่ายดาว แต่จะมีเพิ่มอีกตรงเวลาที่จะเปิดหน้ากล้องนานกีนาที ซึ่งเปลี่ยนเวลาได้ด้วยการหมุนวงแหวนที่ตัวเลนส์(ตามสัญลักษณ์ที่บอกมุมซ้ายล่าง)
- ตั้งเวลาได้ 10-120 นาที
- ถ้าอยากได้ดาวหมุนเป็นวงกลมต้องหันกล้องไปทางทิศเหนือ
- ภาพที่ได้จะได้ภาพสุดท้ายภาพเดียวนะครับ กล้องจะรวมภาพให้และลบภาพที่ถ่ายต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ทิ้งไป
- is ปิดให้อัตโนมัติ
ข้อควรระวัง
- ถ้าเปิดกล้องนานเกินไปจะทำให้ภาพสว่างจนมองเส้นดาวไม่ชัด แนะนำให้เปิดไม่น้อยกว่า 60 นาที (ถึงแม้กล้องจะรันไม่ถึง 60 นาทีเราก็สามารถหยุดการถ่ายได้) เมื่อเราดูหน้าจอได้ภาพที่พอใจก็กดหยุด
- แบตกล้องต้องเหลือเยอะๆ สมมุติว่าตั้งถ่าย 30 นาทีแต่แบตหมดก่อน 30 นาที กล้องจะไม่มีการบันทึกภาพใดๆให้นะครั
-
การถ่ายดาวหมุนการปรับในแท็บ 6 จะปรับได้แค่เพิ่มลดความสว่าง กับแก้สีนะครับ
-
ตัวอย่างภาพ อยากได้ดาวหมุนเป็นวงกลม ก็ต้องหันกล้องไปทางทิศเหนือ ภาพนี้เปิดหน้ากล้อง 60 นาที
-
ตัวอย่างภาพนี้เปิดหน้ากล้องนานเกินไป ทำให้เส้นดาวเห็นไม่ชัด อันนี้หันกล้องไปทางทิศตะวันตก
-
1.3 Timelapse ดาว อันนี้รายละเอียดเยอะหน่อย
- เราต้องถ่ายทดสอบก่อนนะว่าสี คอมโพส ความสว่าง ได้ไหม อย่าลืมว่าวีดีโอที่ออกมา จะเป็น 16:9 นะ ตอนถ่ายก็ดูอัตราส่วนดีๆ (ซึ่งกล้องก็จะเตือนก่อนถ่ายจริงด้วย)
- มีตั้งเวลาถ่าย 60 90 120 นาที และไม่จำกัดเวลา แนะนำ 120 นาที ก็พอ
- ไฟล์วีดีโอที่ได้จะมีเฟรมเรทที่ 25 fps(frame per sec)
- โดยปกติจะถ่ายดาวเฟรมละ 30 วินาที กรณีเราใช้เวลาถ่าย 120 นาที ก็ได้ภาพ 240 ภาพ เมื่อเป็นวีดีโอก็ประมาณ 10 วินาที (เอา 25 หาร)
- การตั้งค่าการถ่ายให้เข้าเมนู Star time-lapse movie setting
- is ปิดให้อัตโนมัติ
-
การตั้งค่า
Save source imgs ให้เลือกว่าจะเก็บไฟล์ต้นฉบับไว้ไหมแต่ละเฟรม แนะนำให้เลือกเก็บไฟล์ต้นฉบับไว้ หากแบตหมดก่อน เรายังมีไฟล์ที่ถ่ายได้เก็บไว้อยู่เอามาทำต่อได้ ถ้าไม่เก็บแบตหมดก่อน ก็จะไม่ได้อะไรเลยนะ
Effect เลือก ว่าจะเพิ่มเอฟเฟค 5 แบบ 1 ไม่ใส่อะไรเลย 2 สร้างเส้นหางเดินดาว 3 สร้างหางดาวแบบยาว 4 สร้างหางดาวแบบกลาง 5 สร้างหางดาวแบบสั้น
Interval คือ ระยะห่างแต่ละเฟรมจะให้ห่างกันกี่นาที มีให้เลือก 15 วิ 30 วิ และ 1 นาที(แนะนำให้เลือก 30 วิ นะครับ)
Movie rec size คือขนาดของ วีดีโอ มีให้เลือก FHD และ 4K ผมมักจะเลือก 4K 25.00P ใหญ่ดี เอามาตัดต่อแบบ FHD ทำให้มีลูกเล่นได้เยอะดี
Shooting time คือ เวลาตั้งกล้องมีให้เลือก 60 90 120 นาที และไม่มีกำหนด แนะนำให้เลือก 120 นาทีเพราะว่าแบตเต็มๆ จะอยู่ได้แค่นี้
Auto exposure คือจะให้คำนวนแสงให้อัตโนมัติไหม มีให้เลือก คำนวณทุกเฟรม กับคำนวณเฉพาะเฟรมแรก แนะนำให้เลือก each frame
Remote control คือจะควบคุมด้วยรีโมทไหม ส่วนใหญ่ผมจะไม่เลือกนะ เปลืองแบต
-
ตั้งค่าเสร็จก็กดปุ่ม อัดวีดีโอ (ไม่ใช่ปุ่มชัตเตอร์นะ) เพื่อเข้าเมนูพร้อมถ่าย ดูรายละเอียดว่าตรงตามต้องการไหม แล้วจึงกดปุ่มชัตเตอร์อีกครั้งเพื่อให้กล้องทำงาน
-
ตัวอย่างจะอยู่ที่นาที 0.55 นะครับ(ไม่ได้ใส่ Effect)
-
2. โหมด Focus bracketing โหมดนี้ต้องการให้ชัดทั้งภาพ หมายถึงภาพ วิว และก็ภาพมาโคร แต่ภาพที่ได้จะต้องนำมารวมในคอมพิวเตอร์อีกทีนะครับ ถ่ายเป็น Raw file ได้
ข้อแนะนำ
-ต้องใช้ขาตั้งกล้อง
-subject ที่จะถ่ายต้องนิ่ง
-โฟกัสวัตถุที่ใกล้กล้องที่สุด แล้วกล้องจะคำนวณขยับโฟกัสห่างออกไปเรื่อยๆ
- ปิด is กล้องด้วยนะครับ
-
เมนูหลักๆ ที่ต้องจัดการกับมัน
1. เลือกให้มันทำงาน
2. จำนวนภาพ (อันนี้ยังไม่มีหลักการของตัวเองเท่าไรว่ากี่ภาพถึงจะโอเค) แต่จะขอแนะนำอย่างนี้ละกัน กรณีภาพวิวเราก็มักจะไม่ซูมก็คือได้ระยะที่ได้ภาพกว้างสุดๆ เพราะฉะนั้นภาพโดยปกติจะชัดลึกอยู่แล้วจำนวนภาพอาจะไม่ต้องเยอะ ผมก็เลือกแค่หลัก 10 นะ แต่ถ้ากรณีภาพมาโคร(เราเลือกโหมดมาโครด้วย) ระยะชัดลึกมันจะน้อยมาก ถ้าอยากให้ชัดทั้งหมด ก็อาจจะต้องใช้ภาพหลักหลายสิบ หรือหลายร้อย ไม่แน่ใจต้องลองดูนะครับ
3. การเพิ่มระยะโฟกัส หาข้อมูลไม่ได้ว่าหน่วยอะไร แต่การโฟกัสจะต้องโฟกัสวัตถุที่อยู่ใกล้กล้องที่สุดก่อน แล้วมันจะขยับโฟกัสไปเรื่อยๆ แต่กล้องตั้งค่าไว้ที่ 4
-
มาว่าด้วยเรื่องการขยับระยะโฟกัส คือ ผมได้ลองทดสอบดูนะครับ ด้วยการตั้งค่า
1.จำนวนภาพ 12 ภาพ
2.การเพิ่มระยะโฟกัส เริ่มตั้งแต่ 1 ไล่ไปจนถึง 10
-
ผลการทดสอบเมื่อผมเลื่อน Focus increment ไปที่ ตั้งจำนวนไว้ที่ 12 ภาพ โหมดภ่ายภาพวิว
เลข 1 (narrow) ถ่ายได้ 12 ภาพ
เลข 2 ถ่ายได้ 10 ภาพ
เลข 3 ถ่ายได้ 9 ภาพ
เลข 4 ถ่ายได้ 6 ภาพ
เลข 5 ถ่ายได้ 5 ภาพ
เลข 6 ถ่ายได้ 4 ภาพ
เลข 7 ถ่ายได้ 5 ภาพ
เลข 8 ถ่ายได้ 6 ภาพ
เลข 9 ถ่ายได้ 3 ภาพ
เลข 10 (wide)ถ่ายได้ 2 ภาพ
จะเห็นว่าจำนวนภาพลดลงเรื่อยๆ ตามระยะที่เราเลือกมากขึ้น
ผลการทดสอบเมื่อผมเลื่อน Focus increment ไปที่ ตั้งจำนวนไว้ที่ 12 ภาพ โหมดภ่ายภาพมาโคร
เลข 1 (narrow) ถ่ายได้ 12 ภาพ
เลข 2 ถ่ายได้ 12 ภาพ
เลข 3 ถ่ายได้ 12 ภาพ
เลข 4 ถ่ายได้ 12 ภาพ
เลข 5 ถ่ายได้ 12 ภาพ
เลข 6 ถ่ายได้ 12 ภาพ
เลข 7 ถ่ายได้ 11 ภาพ
เลข 8 ถ่ายได้ 11 ภาพ
เลข 9 ถ่ายได้ 6 ภาพ
เลข 10 (wide)ถ่ายได้ 6 ภาพ
สรุปได้ว่าหากต้องการให้ได้ภาพครบๆ และเวลามารวมภาพในคอมภาพไม่กระโดด ก็ต้องเลือก Focus increment ที่เลข 1 (แคบสุด) ยังไม่รู้เลยมันคำนวณยังไง ใครรู้บอกด้วยนะ ขอบใจล่วงหน้าๆๆ ;D ;D
-
ภาพตัวอย่างทดสอบ กรณีถ่ายด้วยโหมดภาพวิว จำนวน 12 ภาพ Focus increment 1 (รวมภาพในคอม)
-
ภาพตัวอย่างทดสอบ กรณีถ่ายด้วยโหมดภาพมาโคร จำนวน 12 ภาพ Focus increment 1 (รวมภาพในคอม)
-
3. โหมดถ่ายคร่อม Expo.comp./AEB ทำไมต้องถ่ายคร่อมแสง
- เพื่อให้เก็บแสงได้หมด ทั้งส่วนมืด ส่วนสว่าง
- ถ้าไม่ถ่ายคร่อมเราต้องมีฟิลเตอร์ครึ่งซีกช่วย
- ผมนิยมถ่ายคร่อม กรณีภาพวิว ตอนพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก
- กล้องถ่ายได้ครั้งละ 3 ภาพ กล้องตัวใหญ่ขึ้นจะถ่ายได้มากกว่า 3 ภาพ
ข้อแนะนำ
- ไม่เหมาะกรณีวัตถุมีการเคลื่อนที่เร็ว เช่น น้ำตก ต้นไม้ที่ใบไม้ปลิวๆ เยอะ เพระาว่าเวลามารวมภาพในคอมแล้วไม่เนียน เสียเวลาแก้ไข
- ถ้าจะให้ดีแนะนำให้ใช้ฟิลเตอร์ช่วยดีกว่าภาพเดียวพอ
-
เมื่อเข้าเมนูแล้ว ก็มาปรับระดับความต่างแสง ผมนิยมให้ต่างกัน 1 stop
-
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายต่างกัน 1 stop
-
เมื่อรวมภาพแล้ว ก็จะทำให้สามารถปรับได้เยอะ ทั้งส่วนมืด และส่วนสว่าง
-
ฟิลเตอร์ที่จะช่วยให้เราไม่ต้องถ่ายคร่อม จบในภาพเดียว ฟิลเตอร์ Gradient แบบครึ่งซัก ลดแสงทำให้ถ่ายได้ง่ายขึ้น
-
4 โหมด Timelapse ภาพวิวทั่วไป(คนละอันกับถ่ายดาวนะ)
- หมุนมาที่โหมดกล้องถ่ายวีดีโอ
- ถ่ายภาพวิวทั่วไป พระอาทิตย์ขึ้น ตก คนเดิน ฯลฯ
- ไฟล์ได้ละเอียดถึงระดับ 4K 25fps(ถ่าย 25 รูป ได้ 1 วินาที)
- ไม่มีการเก็บไฟล์ภาพนิ่งไว้ให้นะ(ไม่เหมือนถ่าย Timelapse ดาว)
- ถ่ายเสร็จรวมไฟล์ให้เสร็จ ถ้าแบตหมดก่อน ก็อดไม่ได้อะไรเลยนะ
- อยากได้กี่วิก็ลองคำนวณเอานะว่าจะต้องถ่ายกี่ภาพ (คิดง่ายก็ 100 ภาพ ได้ 4 วินาที)
- กล้องตั้งค่า interval ได้ตั้งแต่ 2 - 30 วินาที ถ่ายได้สูงสุด 900 ภาพ
ข้อแนะนำ
- ตอนถ่ายต้องดูว่าแสงเปลี่ยนบ่อยไหม จะมีแบบให้เลือกล็อคแสง กับ f กับให้กล้องคำนวณให้
- แบตเหลือเพียงพอไหม
- ใส่ฟิลเตอร์ครึ่งซีกด้วยนะ กรณีแส่งบนล่างต่างกันเยอะๆ ภาพจะได้สวยๆ
- ที่ลมแรงจะทำให้กล้องสั่น หาอะไรถ่วงให้ขาตั้งกล้องหนักๆ นิ่งๆ
- มีอุปกรณเสริมช่วยในการหมุนกล้อง ทำให้ได้วีดีโอที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
- ปิด is กล้องด้วยนะครับ
- ตอนถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น ตก ให้ลดแสดงลงสัก 2/3 Stop นะครับ ไม่งั้นจะสว่างไป
-
แล้วเลือกที่ Time-lapse Movie ก่อนถ่ายก็ทดสอบถายก่อนว่าภาพนิ่งที่ได้ถูกใจไหม picture style ความคมชัด ฯลฯ
-
มาดูการตั้งค่ากัน
1. Scene 1 สำหรับถ่ายคนกำลังเดิน (interval 3 วินาที จำนวน 300 ภาพ)
Scene 2 สำหรับถ่ายการเคลื่อนที่ช้าๆ เช่น เมฆ (interval 5 วินาที จำนวน 240 ภาพ)
Scene 3 สำหรับวัตถุที่เคลื่อนที่ช้ามากๆ (interval 15 วินาที จำนวน 240 ภาพ)
Custom ตั้งตามใจ(ส่วนมากผมใช้อันนี้) (interval 2-30 วินาที จำนวนไม่เกิน 900 ภาพ)
2. interval/shots ถ้ากรณีวัตถุเคลื่อนที่เร็วๆ เราก็ตั้ง Interval น้อยๆ 2-3 วินาที (พระอาทิตย์ตก ขึ้น หมายถึงอยากถ่ายตอนที่ดวงโตๆ กำลังโผล่หรือตก ผมจะใช้ interval ที่ต่ำที่สุดคือ 2 วินาที เพราะพระอาทิตย์มันเคลื่อนที่เร็วมาก) ถ้าเมฆ ลอยบนท้องฟ้าก็ 3-5 วินาที อย่าลืม 100 ภาพได้วีดีโอ 4 วินาทีนะครับ
3. Movie Rec.Size ก็เลือกตามใจจะ 4K หรือ FHD 25 fps
4. Auto exposure มีให้เลือก 2 แบบ
Fix 1st Frame กล้องจะคำนวณแสง กับ f เฟรมแรก และก็จะใช้ค่านี้ไปตลอดการถ่าย จึงเหมาะกับการถ่ายที่เราคุมแสงได้ เช่น กลางวันแสงไม่เปลี่ยนมาก หรือ ถ่ายต้นไม้กำลังเกิด ในสตูดิโอ ที่กำหนดแสงได้ ถ้าเราเอามาถ่ายตอนพระอาทิตย์ขึ้น ตก แสงจะต่างกันมากจะทำให้ช่วงท้ายๆวีดีโอจะมืดไปเลย หรือไม่ก็สว่างไปเลย
Each Frame ให้กล้องคำนวณทุกเฟรม กล้องจะปรับตั้งแต่ f iso shutter speed ให้อัตโนมัติเลย เหมาะกับสภาพที่มีการเปลี่ยนแปลงแสงเยอะ เช่น พระอาทิตย์ขึ้น ตก
5. Screen auto off ส่วนมากผมไม่ปิด จะได้รู้ว่ากล้องกำลังทำอะไรอยู่
-
ตัวอย่าง ทริปนี้เป็นการใช้กล้อง canon g7x markiii ถ่ายทั้งหมดเลยครับ ความละเอียด 4K
-
อุปกรณ์เสริมแนะนำสำหรับถ่าย Timelapse คือตัวหมุนอัตโนมัติ(แบบใช้ลาน) อันนี้ที่ซื้อเพราะ หมุน 360 องศาใช้เวลา 2 ชม ซึ่งเหมาะสมมาก (ผมมีสองตัว อีกตัวของผม หมุน 360 องศา ใช้เวลา 1 ชม.)