Hiking Thai
		Hiking Thai => เที่ยวนอกบ้าน...นอกเมืองไทย => Topic started by: designbydx on สิงหาคม 27, 2024, 07:06:22 am
		
			
			- 
				เป็นการไปพม่าท่ามกลางข่าวรบกัน แต่ว่าผู้จัดก็บอกว่าปลอดภัยดี ซึ่งได้ติดตามการเที่ยวของเขามานาน ดูแล้วน่าจะปลอดภัยดี ไปโลดดดดด
 
 โปรแกรมคร่าวๆ
 
 วันที่ 1 ข้ามฝั่งไทยไปรัฐกะเหรี่ยงที่ท่าเรือแม่ตะวอ ข้ามแม่น้ำเมย จังหวัดตาก
 - เที่ยวขึ้นยอดดูทะเลหมอกที่ดอยยะข่าโก(ရိက္ခာကုန်း ဘုရား) (เป็นจุดสำหรับทหารไว้สังเกตุการณ์)
 - และก็ไปต่อที่น้ำตกกลูทอ(Kyone Htaw Waterfall ကျုံထော် ရေတံခွန်) เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของรัฐกะเหรี่ยง ป้ายมีภาษาไทยด้วย ไปเมืองค้อต้อ(ค้อต้อ คือ ชื่อเมืองที่กะเหรี่ยงเรียก
 มายจีงู Myaing Gyi Ngu คือ ชื่อทางการที่คนพม่าเรียกครับ)
 - ไปต่อที่น้ำตกเปร่ เจ โกร (Paray Kyayto waterfall ပရေကြေးတိုရေတံခွန်)น้ำตกขั้นบันใด(นั่งรถไกลมาก แต่ถนนดี ระหว่างทางแวะถ่ายเจดีย์)
 - กลับออกมาเส้นเดิม แวะเที่ยวเจดีย์สีทองตะกอ(Hlaingbwe Kya Inn Village ပြည်သာလင်းအေးစေတီတော်မြတ်ကြီး) คล้ายๆ เจดีย์ชะเวดากอง (เจดีย์ตะกอ เป็นของนายพล หม่อง ชิต ตู่)ระหว่างทางจะมีเจดีย์สวยๆ ท่ามกลางทุ่งนาให้เห็นมากมาย
 - นอนวัดหลวง วัดมายจีงู(Myaing Gyi Ngu Monastery မြိုင်ကြီးငူ) ริมแม่น้ำสาละวิน อากาศดีมากเย็นกำลังดี เมืองมายจีงูเป็นดินแดนมังสะวิรัตินะครับ
 
 วันที่ 2 ไปต่อ
 - ไปดูหมู่บ้านเดิมๆ ริมแม่น้ำสาละวิน ดูวิถีชาวบ้านเก็บท่อนไม้ขาย งงไหมเดี่ยวมาดูกัน
 - ล่องเรือข้ามแม่น้ำสาละวิน ไปวัดโอนต่อ เมืองกะมะหม่องที่ข้ามแม่น้ำสาละวิน แค่ข้ามฝั่งวิถีความเชื่อ ก็ต่างกันแล้ว
 - เที่ยวทุ่งเจดีย์เจ๊าก์ส่า(ပိဋကတ်တိုက်) ที่สร้างขึ้นเพื่อเก็นจารึกพระไตรปิฏกภาษากะเหรี่ยง เขาว่าจะสร้างให้ครบ 5,000 เจดีย์ ดูทรงน่าจะอีกนาน(เงินน่าจะค่อยๆ มาๆ ค่อยๆ ทำ)
 - น้ำตกหลังค่ายทหาร
 - ล่องเรือในแม่น้ำเมยไปดูน้ำตกนอต๊ะ (NAW TA WATERFALL) ไหลลงแม่น้ำเมยเลย นั่งเรือจากท่าเรือแม่ตะวอ เกือบๆ ชั่วโมง
 
 กล้อง Fuji xs10 + 18-135 mm and samyang 12 mm
 ไปกับ https://www.facebook.com/manus.minaung
 ไปถูกต้องมีการขออนุญาตแล้ว
 
 
 
 
- 
				เป็นการเปิดโลกมืดอีกครั้ง โลกนี้ยังมีอะไรที่เรายังไม่เคยเจออีกเยอะแยะเลย ผู้จัดของเราก็เข้าใจวิธีการเที่ยวดี มีการขออนุญาตเข้าเที่ยว พูดภาษาท้องถิ่นได้ ติดต่อสื่อสารได้ดี เข้าใจวัฒนธรรมของคนพื้นที่ ทำให้เข้าถึงได้ง่าย สรุปได้ความว่า
 
 - รัฐกะเหรี่ยง ก็เป็นส่วนหนึ่งของพม่า แต่ไม่ชอบบอกว่าเขาเป็นพม่า
 - มีเขตปกครองพิเศษ ไม่มีตำรวจ มีแต่ทหาร ก็สงสัยเขาจะสงบสุขได้อย่างไร ก็ศาลเตี้ยไง
 - ถนนที่เราวิ่งไปเที่ยวกันส่วนใหญ่พระเป็นผู้สร้าง
 - วัดและพระที่นี่ชาวบ้านจะศรัทธาสูงมาก วัดจะใหญ่โตมาก(ชาวบ้านชอบทำบุญ) เมื่อเทียบกับบ้านเรือน ชาวบ้านจึงนิยมให้ลูกมาบวช จะได้ไม่อด เณรเยอะมาก เด็กๆ ก็เยอะมากเช่นกัน
 - ไฟฟ้าอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป ไม่มีเวลากำหนดแน่นอน แต่น้ำ กับโทรศัพท์ทรงดีกว่า
 - อุตสาหกรรมหมาก รุ่งเรืองมาก(มีการทำเป็นคำๆ สำเร็จไว้ แพคขาย)
 - ป้ายสถานที่ท่องเที่ยวจะมีภาษาไทยอยู่ด้ว น่าจะอยากพัฒนาเป็นที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนไทยให้ไปเที่ยวเยอะๆ
 - ชาวพม่านิยมไปทำงานในประเทศไทย แล้วกลับมายังบ้านเกิด ที่เห็นจะเป็นร้านอาหาร พูดไทยได้คล่อง ส่วนคนอื่นๆ จะฟังไทยไม่ออกเลย ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้พูด
 - ทุกบ้านจะมีรถ ราคาไม่แพงหลัก 1-3 แสน แต่ป้ายทะเบียนปลอมจึงวิ่งข้ามไปเมืองใหญ๋ๆ ไม่ได้ ถ้าจะวิ่งได้ต้องเป็นป้ายทางการออกให้ รถเป็นรถมือสองมาจากญี่ปุ่น
 - จะมีเขตกินมังสวิรัติ ห้ามเนื้อสัตว์เด็ดขาด ซึ่งก็เกือบทั้งเมือง 5555 บางอย่างก็อร่อยนะ จานนึงไม่เกิน 10 บาทไทย
 - บ้วนน้ำลายกันเป็นเรื่องปกติ
 - สินค้ามีทั้งจากไทย และจีน และบ้านเขาเอง
 - ยังดิบอยู่มาก ผู้คนใจดี ไม่ได้มองเรื่องเงินเป็นหลักเหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ถ้าของฝากเขาจะชอบพวกกาแฟซอง
 - มีความเชื่อว่าสร้างเจดีย์เยอะๆ จะได้บุญเยอะ เราจะเห็นเจดีย์สองข้างทาง บนยอดเขา ในทุ่งนา เต็มไปหมด ทั้งๆที่ไม่ใช่พื้นที่วัด
 - จะมีการสร้างโบสถ์เล็กๆ ไม่มีพระสงฆ์ มีใบเสมาเล็กๆ ล้อม คาดว่าไว้เป็นที่พึ่งทางใจ เพราะจะมีตามสถานที่ต่างๆ รอบนอกเมือง
 - มีอาชีพเก็บไม้ในแม่น้ำสาละวินมาขาย ไม่เคยเจอ
 
- 
				ตำแหน่งที่เที่ยว บางที่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนนะ กูเกิ้ลไม่มีบอก
			
- 
				เอกสารการขออนุญาตเข้าเที่ยว
			
- 
				มา เริ่มกันเลยดีกว่า
 
 วันแรกมาถึงตอนเช้า ฝนก็มาต้อนรับอย่างเต็มที่ ไม่ได้กลัวเปียกแต่กลัวไม่ได้ถ่ายรูป เรือรับจ้างข้ามแม่น้ำเมยก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมรอรับลูกค้า ที่กำลังจะเดินทางมาใช้บริการ
- 
				พอฝนเบาลงก็เริ่มเดินทางกันเลยครับ
			
- 
				เราก็งงอยู่นะ ทำไมเจดีย์มีอยู่ตรงนี้หลายอัน หรือว่าที่นี่เป็นวัดกันนะ ป่าวเลย ที่นี่เขามีความเชื่อว่าถ้าสร้างเจดีย์เยอะๆ จะได้บุญเยอะ เราก็จะเห็นเจดีย์ได้ตลอดเส้นทางการเที่ยวเราเลย บนยอดเขา ทุ่งนา หมู่บ้าน มีทุกที่เลยครับ
			
- 
				ที่นี่ไม่รับเงินไทย ก็ต้องแลกก่อน 1,000 บาทได้ 150,000 จ๊าต
			
- 
				รถบริการไม่ต้องถามถึงรถตู้อะไรหรอกนะ กระบะนั่งท้ายโลดดดด ใครมาช่วงฝนก็เอาเสื้อในมาด้วย ถ้าจะให้ดีเอาที่รองนั่งมาด้วยก็จะสบายหน่อย นั่งรถไกลอยู่นะ ที่แรกที่เราจะแวะคือ เที่ยวขึ้นยอดดูทะเลหมอกที่ดอยยะข่าโก(เป็นจุดสำหรับทหารไว้สังเกตุการณ์) ทางเดินขึ้นจะซิกแซก ฝนตกจะเห็นวิวไหมเนี่ย (ก่อนขึ้นก็ต้องไปขออนุญาตก่อน)
 
 ตำแหน่ง https://maps.app.goo.gl/9x3CH4wBoyxqznrs5
- 
				เป็นไปตามคาด  :'( :'( :'(
			
- 
				แต่เราก็ย้อนมาวันกลับอีกครั้งนะ ฝนไม่ตกแล้ววิวที่เห็นจะประมาณนี้ เสียดายมาสายไป หมอกไปหมดแล้ว วิวถ่ายยากเพราะมีต้นไม้บัง แต่ก็สดชื่นสวยดี
			
- 
				เดินลงแล้ว ทางเดินซิกแซก ด้วยไม่ไผ่ เราก็คิดในใจจะกันศรัตรูได้เหรอ
			
- 
				และก็ไปต่อที่น้ำตกกลูทอ(Kyone Htaw Waterfall ကျုံထော် ရေတံခွန်) เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของรัฐกะเหรี่ยง ป้ายมีภาษาไทยด้วย ไปเมืองค้อต้อ(ค้อต้อ คือ ชื่อเมืองที่กะเหรี่ยงเรียก
 มายจีงู Myaing Gyi Ngu คือ ชื่อทางการที่คนพม่าเรียกครับ) อยู่ห่างจากท่าเรือ 34 กม.
 
 นั่งนานๆ ก็มีแวะปั๊มบ้าง
- 
				พอเหน็บได้กินขาซ้ายไปบ้าง ก็มาถึงน้ำตกกลูทอ เงียบจัง!!! ไหนว่าเป็นน้ำตกชื่อดัง ร้านค้าขายของปิดหมด ร้าง ไม่มีคน สอบถามได้ว่า คนที่นี่น่าฝนเขาก็ไปทำไร่ทำนา ว่างจากงานถึงจะมาเที่ยวซื้งก็คือหน้าร้อน มิน่าล่ะ ;D ;D ;D ฝนก็ตกๆ หยุด แต่ก็ไม่หยุดสักที
			
- 
				เดินเข้าไปดูน้ำตกแม่เจ้า น้ำตกใหญ่ กว้างมากกกกก น้ำเยอะมากกกก น้ำมีสีแดงๆ 
 
 ตำแหน่ง https://maps.app.goo.gl/qD2eibA2fyitcyL89
- 
				ไม่โอเคอ่ะ รูปก็ถ่ายไม่ได้ ขาตั้งกล้องเอาไปก็ตั้งไม่ได้เปียกไปหมด ป้ายบอกว่าห้ามปีน
			
- 
				บอกแล้วไง เจดีย์มีทุกที่
			
- 
				ภาพเต็มๆ เป็นแบบนี้
			
- 
				ไปต่อที่น้ำตกเปร่ เจ โกร น้ำตกขั้นบันใด(นั่งรถไกลมาก แต่ถนนดี) ไม่รู้ว่ากี่ กม. เมื่อยเลยอ่ะ แต่วิวข้างทางสวยมาก แต่ก่อนอื่นต้องเติมพลังก่อน ร้านอาหารยังอยู่นอกเขตยังกินเนื้อสัตว์ได้อยู่ ร้านนี้เชิญชวนด้วยภาษาไทย ไปลองหน่อย ได้ความว่าเคยไปทำร้านอาหารที่ไทยมา ก็เลยเอาประสบการณ์มาต่อยอดที่บ้านตัวเอง
 
- 
				ไก่ทอดชิ้นนี้ 2,500 จ๊าต
			
- 
				เดินทางต่อ ระหว่าทางแวะถ่ายเจดีย์(ไม่มีชื่อ) เจอควาย วัว คิดว่าน่าจะสุขภาพจิตดีนะ  ;D ;D
			
- 
				ฝนตกก็ทำให้ภาพมีชีวิตชีวาทันที
			
- 
				วิวระหว่างทาง
			
- 
				แล้วก็มาถึงน้ำตกเปร่ เจ โกร น้ำตกขั้นบันใด(นั่งรถไกลมาก แต่ถนนดี) มีภาษาไทยด้วย เดินประมาณ 1 กม.
 
 ตำแหน่ง https://maps.app.goo.gl/fA4Ptug7dm3i3b2y9
- 
				แต่เราก็มาติดตอนข้ามน้ำ น้ำเยอะไหลแรงแอบกลัวกล้องเปียกน้ำ เอาไงดีหว่า ไม่อยากมาซ่อมเลย
			
- 
				เราก็พยายามหาจุดที่จะเดินข้ามง่ายๆ แต่มันไม่มีเลย
			
- 
				ในที่สุดก็ตัดสินใจว่ายน้ำข้ามไป แม่เจ้าลืมถอดแว่น  :'( :'( :'(
 มาถึงก็ตะลึงน้ำตกใหญ่มากกว้าง ไหลแรง
- 
				ลองซูมไปที่หัวน้ำตก
			
- 
				เพื่อนๆ ถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน เราก็เห็นภาพเบลอๆ ไป
			
- 
				เต็มอิ่มก็กลับออกมาเส้นเดิม แวะเที่ยวเจดีย์สีทองตะกอ คล้ายๆ เจดีย์ชะเวดากอง (เจดีย์ตะกอ เป็นของนายพล หม่อง ชิต ตู่)
 
 ตำแหน่ง https://maps.app.goo.gl/NHLfzxEwMT1mngBi6
 
 
- 
				ด้านใน
			
- 
				ยังไม่เคยไปที่ย่างกุ้งไม่รู้เหมือนกันไหม
			
- 
				แต่คงจะเหมือนล่ะ เขาบอกว่าจำลองมานี่  ;D ;D
			
- 
				มีหอชมวิวให้ไปดูด้วย ใครอยากได้มุมนี้ต้องขึ้นไปนะครับ
			
- 
				เย็นมากแล้วเดินทางกลับไปเมืองมายจีงู กินอาหารมังสวิรัติ ในตัวเมืองกัน ไฟฟ้าก็ยังไม่มา 
 อันแรกมาให้ลองแล้ว มันคือขนมจีน ไม่ใช่ก๊วยเตี๋ยวนะ น้ำขนมจีนทำจากถั่ว อร่อยกินไปสองชาม ชามละ 8 บาท อิ่มเลย(อันซ้าย น่าจะเป็นผักกะหล่ำ + เส้นแป้ง)
- 
				อันนี้คือน้ำเต้าทอด ไม่กินมันมัน จะมีน้ำจิ้มกินคู่กัน
			
- 
				เข้าที่พักที่วัดหลวงกัน พระ เณร ช่วยกันปูที่นอนให้ พร้อม หมอน ผ้าห่ม ฝนก็ยังตกอยู่เรื่อยๆ ไฟก็ยังไม่มา เณรก็มาท่องบทสวดกันเสียงดัง ขยันกันมาก สาธุ
 
- 
				เช้าแล้ว ฝนก็ซาลง เณรมาตามไปกินข้าวเช้าด้วยภาษากะเหรี่ยง จะเข้าใจไหมล่ะเณร 
			
- 
				อาหารเณรจะเป็นคนจัดทำ เป็นมังสวิรัติ แต่ก็ไม่ได้ลองมันเช้าไป พระฉันตอนตี5 โยม06.00น.
			
- 
				ยังเช้าอยู่ ก็เลยเดินสำรวจวัดรอบๆ 
			
- 
				พื้นที่วัดใหญ่มากๆ สิ่งก่อสร้างมากมาย แต่ว่ามีเสร็จสมบูรณ์มั่ง ไม่สมบูรณ์มั่ง
			
- 
				แล้วเราก็เดินไปยังหมู่บ้านเดิมๆ ไปดูวิถีดั่งเดิมๆๆ
			
- 
				ที่นี่ทำให้เราเปิดโลกอีก คือ ชาวบ้านมีอาชีพเก็บไม้ที่ลอยในแม่น้ำสาละวินขาย ซื่งไม้จะมีคนมาประมูลซื้อไปทำเฟอร์นิเจอร์ หรืออื่นๆ 
			
- 
				ได้เวลาเราก็เดินไปเที่ยวตลาดเช้ากัน แต่อารมณ์เหมือนตลาดในหมู่บ้านมากกว่า
			
- 
				ไปต่อด้วยอาหารเช้าร้านพม่า ธรรมเนียมอาหารพม่าจะมีผักเป็นเครื่องเคียงให้เรา เป็นสิ่งที่เราชอบมาก
			
- 
				ระหว่างกินอาหารเช้า ก็จะได้ยินเสียงเหล็กตีดังกังวาลมาแต่ไกล เป็นเสียงเคาะให้รู้ว่า พระมารับบาตรแล้วนะ
			
- 
				เริ่มโปรแกรมวันที่สอง ล่องเรือข้ามแม่น้ำสาละวิน ไปวัดโอนต่อ เมืองกะมะหม่องที่ข้ามแม่น้ำสาละวิน แค่ข้ามฝั่งวิถีความเชื่อ ก็ต่างกันแล้ว เขาบอกว่าพื้นที่นี้แขกสามารถมาอยู่ได้ กินเนื้อสัตว์ได้ ในขณะเดียวกันพื้นที่ตรงข้ามห้าม ทั้งหมด 
 
 ตำแหน่ง https://maps.app.goo.gl/9S5Pn6AsGd1SBJmb7
- 
				ข้ามมาแล้วก็เจอเด็กๆ ที่กำลังเรียน เณรกำลังออกกำลังกาย และชาวบ้านกำลังเตรียมอาหารไว้ให้เด็กนักเรียน
			
- 
				เห็นนักท่องเทียวก็ตื่นเต้นอยากคุยด้วย อยากถ่ายรูป
			
- 
				มองย้อยกลับไปมองวัดมายจีงู
			
- 
				 ไปต่อ เที่ยวทุ่งเจดีย์เจ๊าก์ส่า(ပိဋကတ်တိုက်) ที่สร้างขึ้นเพื่อเก็นจารึกพระไตรปิฏกภาษากะเหรี่ยง เขาว่าจะสร้างให้ครบ 5,000 เจดีย์ ดูทรงน่าจะอีกนาน(เงินน่าจะค่อยๆ มาๆ ค่อยๆ ทำ)
 
 ตำแหน่ง https://maps.app.goo.gl/F8Getcv9H1EdsXRJ7
- 
				มีทั้งทำเสร็จ กำลังทำ รอทำ เยอะไปหมดเลย
			
- 
				ภาษากะเหรี่ยง แกะสลักอยู่ภายในเจดีย์แต่ละอัน
			
- 
				กว้างสุดๆ
			
- 
				มาดูภาษากะเหรี่ยงใกล้ๆ
			
- 
				คนงาน เหนื่อยนอนพัก
			
- 
				ไปต่อ น้ำตกหลังค่ายทหาร สวยจริง ชอบมาก ไม่ใช่สูงใหญ่อะไร แต่ดิบสมบูรณ์มาก อยู่ติดถนน (อันนี้ผู้นำทีมส่งมาให้) แต่ไม่รู้อยู่ตรงไหนในกูเกิ้ลเหมือนกัน
 
- 
				สวยนะ ชอบ
			
- 
				ขอทหารก่อน แล้วก็ให้ทหารพาเดินไปเที่ยว ตรงสะพานที่มีป้ายนี้นะ
			
- 
				บรรยากาศดีมาก
			
- 
				ไม่รู้จะบรรยายยังไงให้รู้สึกเหมือนกัน น้ำใส อากาศเย็น ทุกอย่างชื่มชื้น สดชื่น
			
- 
				เดินทางต่อไปท่าเรือ หาเช่าเรือไปเที่ยวน้ำตกนอต๊ะ (NAW TA WATERFALL) ไหลลงแม่น้ำเมยเลย นั่งเรือจากท่าเรือแม่ตะวอ เกือบๆ ชั่วโมง
 
 
- 
				เป็นน้ำตกไหลลงแม่น้ำเมยเลย แต่น่าเสียดายมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ข้างๆ ทำให้ดูไม่ธรรมชาติมากเท่าที่ควร แต่สวยนะ
 
 ตำแหน่ง https://maps.app.goo.gl/ajQMsig9QjMMiDvA6
- 
				ขึ้นฝั่งไปถ่ายกัน
			
- 
				เพื่อนๆ ก็เดินขึ้นไปดูหัวน้ำตกกัน เห็นว่าก็เป็นบึงน้ำเฉยๆ 
			
- 
				ข้ามฝั่งกลับไทย แบบหิวโซ 5555 ขอบคุณครับที่ติดตาม