Hiking Thai
Hiking Thai => เที่ยวเมืองไทย..ยังไม่ไปก็รู้ => Topic started by: designbydx on มกราคม 03, 2015, 01:45:11 pm
-
ไปหน้ามรสุมของภาคใต้ ลองดูว่าจะเป็นอย่างไร(ธันวาคม 2014)
-
พัทลุงเป็นเมืองเล็กๆ สงบดี มีสิ่งน่าสนใจหลายอย่าง คำถามทำไมถึงเลือกมาที่พัทลุง เพราะว่าตั้งใจจะไปถ่ายรูปยกยอ ที่คลอปากประ ทำไมถึงเลือกมาหน้ามรสุม คาดว่าน่าจะได้ภาพที่แตกต่างออกไป เดินทางทางสายใต้ตอนเย็นมาถึงพัทลุงก็เช้า ร้านค้ายังไม่เปิด หิวข้าววว
-
ผมชอบกินอาหารบ้านๆ ที่เขากินกัน ไปที่ไหนเขากินอะไรก็อยากลองกับเขามั่ง...แซบ
ที่นี่ปลาเยอะ และก็ถูกมากด้วย ชอบบบ ไปกินที่ตลาด
-
มาถึงก็เจอฝนซะแร้ววว
-
สวัสดีไข่นุ้ย
-
ที่นี่มีโรงแรมดั่งเดิมอยู่ น่าจะมีที่เดียวล่ะ เปิดมานานแระ เก็บของเข้าที่พัก แล้วเตรียมตัวลุยยยย
-
การเดินทางที่นี่จะเป็นแบบรถโดยสารเฉพาะเส้นทาง คือ จุดศูนย์รวมรถจะอยู่ที่ตลาด เป็นป้ายใครป้ายมัน สายใครสายมัน เขาจะไม่มีรถโดยสารวิ่งเป็นกิจลักษณะ นะครับ เป้าหมายการเที่ยวได้วางแผนไว้ดังนี้
29 ธค. เดินทางจาก สายใต้ใหม่-พัทลุง รถออก 19.00 น.
30 ธค. ถึงพัทลุง รอรถมอไซด์ แล้วหาที่พัก เก็บสัมภาระ เตรียมตัวเที่ยว บริเวณใกล้เคียงในตัวจังหวัด(ดูเอกสารแนบ) อย่าลืมซื้อตั๋วกลับ และจะเที่ยวที่ไกลๆ ก่อนเพราะวันกลับมีเวลาเที่ยวในเมืองได้อีกวัน
31 ธค. เข้าที่พัก ภูเขาทองโฮมสเตย์ อ.สวัสดิ์ โทร. 089-9747424 กม.ที่ 23 ถ.ควนขนุน-ทะเลน้อย ที่พักคืนละ 400 บาท, เช่ามอไซด์เที่ยว(อรรถ โทร.0910463893)
1 มค. ไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นคลองปากประ ระยะทาห่าง 20 กม อาจต้องตื่นเช้ามากหน่อยนะ และลงเรือเที่ยวในคลอง ชมดงเสม็ดขาว ค่าเช่าประมาณ 450 บาท (นั่งได้ประมาณ 5 คน)
3 ธค. เดินทางกลับ ระหว่างรอรถกลับเย็น แวะเที่ยวในตัวเมืองก่อน
แต่จะบอกว่ามันคือ แผนนนน ทุกอย่างที่วางไว้ต้องปรับหมด ตั้งแต่เจอฝนวันแรกเลย
เอ้าวันนี้เราจะไปน้ำตกไพรวัลย์ล่ะกัน ด้วยการเดินทางด้วยรถประจำทาง พัทลุง-รชด โดยแจ้งให้เขาเข้าไปส่งในน้ำตก และโทรเรียกมารับ ค่ารถ เที่ยวล่ะ 100 บาท ก็โอเคน่ะ
-
ฝนตกไม่มีใครมา แม่เจ้า น้ำตกใหญ่มากกก ถ่ายรูปสนุกเลย
-
น่าเล่นน้ำมากใส แต่หนาววว
-
น้ำตกไพรวัลย์มีประวัติด้วย แต่อ่านยากอ่ะ เดี๋ยวจะแกะให้อ่านนะ
ประมาณ ปี พ.ศ. 2493 ได้มีชาวบ้าน ......(อ่านไม่ออก)....เข้าไปบุกเบิกป่าทำมาหากินอยู่ใกล้บริเวณน้ำตก ด้วยสภาพพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ และอยุ่ใกล้น้ำตก และใด้ตั้งชื่อน้ำตกภาษาบ้านๆ ว่า "น้ำตกโหนง"
ครั้นถึงช่วงเทศกาล ได้มีนักท่องเที่ยวพากัน เข้าชมน้ำตก และลงเล่นน้ำการมากมาย เด็กสาวบ้านโหมง พลอยสนุกไปกับนักท่องเที่ยวด้วย เกิดพลาดพลั้งไหลตกลงมาจมน้ำเสียชีวิต ทำให้ชาวบ้านโหนง เสียอกเสียใจการเสียชีวิตเป็นอย่างมาก ชาวบ้านจึงเรียกว่าน้ำตกว่า "น้ำตกนางลอย"
จากนั้นเกือบทุกปีจะมีผู้เสียชีวิตที่มาเล่นน้ำตกเสมอ เนื่องจากน้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีน้ำไหลตลอดปี ทำให้นักท่องเที่ยวจังหวัดใกล้ไกล เข้ามาเยี่ยมชม...อ่านไม่ออก.... และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "น้ำตกไพรวัลย์"
-
อ่านประวัติแล้ว...ดีนะไม่ได้ลงเล่น ;D
-
เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน จึงปิดชั่วคราว
-
ร้านก็ปิด หิวอีกแระ ใครมาแนะนำให้พกเสบียงมาด้วยนะครับ
-
ที่นี่สมบูรณ์มากแมลง ผีเสื้อ แมงมุมเยอะเลย
-
แมงมุมลายทอง หรือใยทองหว่า เยอะมากกกก
-
ดอกแบบนี้ก็เยอะ เหมือนค้างคาว
-
แผนที่ จะเห็นว่าไกลอยู่นะ
-
กลับมาฝนก็ตกเรื่อยๆ ก็เลยขับสำรวจในเมืองเล่น อ้อ จะบอกว่าครั้งนี้ได้ติดต่อขอยืมมอเตอร์ไซด์จากเพื่อนนะครับ เขาไม่มีร้านให้เช่า
ถ้าใครสนใจแนะนำให้เอามอไซด์ ขึ้นรถไฟมาลงในตัวเมืองเลย สะดวกนะ ไปอีกผมจะทำแบบนี้
เด็กๆ ใต้ น่ารัก
-
พรุ่งนี่้จะไปเที่ยวทะเลน้อย ไปดูควายทะเล ผมได้จองภูเขาทองโฮมเตย์ไว้ แนะนำเลยครับที่นี่สะอาด มีไวไฟ ราคาถูกด้วยนะครับ อยู่หางจากทะเลน้อยนิดหน่อย วิวดี
ภูเขาทองโฮมสเตย์ อ.สวัสดิ์ โทร. 089-9747424 กม.ที่ 23 ถ.ควนขนุน-ทะเลน้อย ที่พักคืนละ 400 บาท
-
วิวจากที่พัก
-
ที่พัก
-
อีกภาพ
-
ระว่างทางก็แวะไปเรื่อยๆ นะครับ แวะวัด...
-
อีกรูป
-
แวะที่นี่
-
เขาเน้นส่งออก
-
บ้านไตล์พัทลุง อยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์กะลามะพร้าวนั่นล่ะ
-
สวยดีครับ
-
ถึงที่พัก ก็เก็บของออกไปสำรวจทะเลน้อยกัน
-
แวะจุดชมวิวก่อน มอไซด์ต้องแร๊งงง นิดนึง
-
มีหลวงพ่อองค์ใหญ๋ตั้งอยู่
-
วิวลิบๆ ไม่ใช่ทะเลน้อยละม้างงง
-
วิวรอบๆ ตอนเย็นๆ น่าจะสวยนะ เขาเรียกว่า พรุควนขี้เสียน
มีพื้นที่ 3085 ไร่ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ(งงๆ อยู่) (Ramsar Site) ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ (Ramsar Convention) เมื่อ 26 สิงหาคม 2540
ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำอันดับ 110 และพรุควนขี้เสียน เป็น Ramsar Site แห่งแรกของประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2541
ใคร งง อ่านเพิ่มที่นี่
http://www.onep.go.th/library/index.php?option=com_content&view=article&id=64:-ramsar-convention-on-wetlands-&catid=26:2012-04-02-06-57-22&Itemid=34 (ftp://www.onep.go.th/library/index.php?option=com_content&view=article&id=64:-ramsar-convention-on-wetlands-&catid=26:2012-04-02-06-57-22&Itemid=34)
-
แผนที่ทะเลน้อย
-
มาถึงแล้ว ก็ลงเรือสำรวจทะเลน้อยเลย กลัวฝนตกอ่ะ
-
ลงเรือลำละ 400 บาท เที่ยวประมาณ 1 ชม จะไปหาควายทะเล
-
ช่วงนี้มีนกเป็ดน้ำอพยพมาอยู่ นกเยอะครับ ใครชอบแนะนำนะ
ภาพที่เห็นคือ นกอีโก้ง Purple Swamphen
-
อย่าถามมากนะครับ เรื่องนกไม่รู้เรื่อง
-
นกเยอะจริงๆ
-
ทะเลน้อยมีความลึกเฉลี่ย 1.25 ม. ครับ
-
นกเป็ดน้ำที่อพยพมา ถ่ายยากครับดูไม่ออกว่าอยู่ตรงไหน พอเรือไปใกล้ๆ ก็จะบินขึ้นจากน้ำ และก็ถ่ายไม่ทัน
-
อีกทั้งอยู่บนเรือด้วย อีกทั้งกล้องเป็น Mirrorless ด้วย ไปกันใหญ่เลย
-
อยากได้ซุปเปอร์ซูมจริงๆ
-
แม่...มาถึงเมืองไทยเลย
-
ถ่ายๆ
-
ที่นี่เขาสร้างหอสูงไว้บริการด้วย มีลิฟท์สะดวกสบาย แต่ลิฟท์จะให้บริการอาทิตย์ละ 2 วัน ถามว่าวันไหน ได้คำตอบว่าก็แต่คนถือกุญแจจะมาเปิด ประเทศไทย
-
มีเรือนพักผ่อนกลางน้ำด้วย เผื่ออยากพักเข้าห้องน้ำ
-
แล้วเราก็มาเจอควายทะเล ภาพนี้เป็นบ้านชาวบ้านที่เป็นเจ้าของควายทะเลในคอกที่อยู่บนเนินพ้นน้ำ
-
เปิดประตูบ้านมาก็เป็นน้ำเลย
-
นึกไม่ออกว่ากินอะไรกัน สงสัยจับปลากิน ;D
-
คนเลี้ยงควาย
-
บ้านกลางน้ำ
-
นกอีโก้ง
-
ไปดูวิวที่ได้จากการขึ้นหอสูง เสียดายฟ้าเน่าไปหน่อย
-
ซูมสุดๆ 200 มม. ;D
-
พาโนรามา
-
จากนั้นไปสำรวจเส้นทางเฉลิมพระเกียติ ข้ามทะเลน้อยไปยังอำเภอระโนด ยาว 16 กม. สวยนะ
-
เส้นทางเท่ห์ 50 50
-
ยามเย็น สวยป่าว
-
อิกรูป
-
หมดวันไปนอน พรุ่งนี้จะพาไปดู ยกยอที่คลองปากประ ตื่นแต่เช้ามากก เนื่องจากมอไซด์ไม่แรง ขับเร็วไม่ได้
-
ขาวดำ
-
มาทันดาวหน่อยนึง ต้องใช้ฟิตอายกันเลย
-
สายๆ
-
ซูม
-
ปากประ เป็นการทีคลองเชื่อมกับทะเลน้อย
-
วิวข้างทางระหว่างไป อ.ระโนด
-
อีกภาพ เหตุผลที่ไป อ.ระโนด คือจะไปดูทะเลจริงๆ ทะเลน้อย เป็นน้ำจืดนะครับ ไม่ใช่น้ำเค็มผลปรากฏว่า อย่าไปเลยนะ หาดสกปรกมาก
-
แผนที่
-
เราจะไปต่อที่สวนพฤษศาสตร์ก็อยุ่ใกล้ๆ กับคลองปากประนั่นล่ะ แต่ว่า น้ำท่วมมมมมม แม่เจ้า
-
ก็เลยได้ภาพนี้มา
-
ถึงกับฟินเลยทีเดียววว
-
ไปต่อไปเที่ยวต่อออกไป ไปวัดวังกัน
-
เขาบอกว่าเป็นวัดที่สร้างช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
อยู่ตำบลลำปำ ห่างจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4047 ประมาณ 6 กิโลเมตร (ใช้เส้นทางเดียวกับเขาอกทะลุ) เป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดพัทลุง เดิมเป็นวัดโบราณ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ต่อมาได้สร้างขึ้นใหม่โดยพระยาพัทลุง (ทองขาว) ในสมัยรัชกาลที่ 3 และเคยเป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาในสมัยรัตนโกสินทร์ ต่อมาเมื่อย้ายเมืองพัทลุงไปตั้งที่ตำบลคูหาสวรรค์ วัดวังก็ชำรุดทรุดโทรมลง และได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2512
สิ่งสำคัญของวัดวังคือ พระอุโบสถ เป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ ประดับด้วยช่อฟ้าใบระกา ด้านหน้ามีมุขเด็จยื่นออกมาภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสีฝุ่น สันนิษฐานว่าเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 กล่าวกันว่าเป็นฝีมือช่างคณะเดียวกับที่เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและเทพชุมนุม บริเวณระเบียงคดโดยรอบมีพระพุทธรูปปูนปั้น 108 องค์ นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์ วิหารและธรรมาสน์ลายทองสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์เช่นเดียวกับพระอุโบสถ เหมาะสำหรับผู้สนใจศึกษาทางด้านสถาปัตยกรรมไทย
-
แนะนำนะครับ เงียบและสวยมาก มีพระพุทธรูปด้านใน 150 องค์
-
จิตกรรมฝาผนังอลังการมาก
-
ศิลปะหัวเสา สมัยรัตนโกสินตอนต้น สร้างโดยพระยาทัทลุง(ทองขาว)
วัดวัง อ.ลำปำ จ.พัทลุง
-
หน้าต่างก็สวยยย
-
ปูนปั้นบนเสาไฟฟ้า
-
แน่นๆ องค์ใหญ่ๆ
-
อิกภาพ
-
ภายในโบสถ์
-
อัฐิ
-
อยู่ใกล้ๆ กันจะมีวังเก่า ให้เข้าชมด้วยครับ
-
วังเก่าสร้างสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งพระยาอภัยบริรักษ์(น้อย จันทรโรจวงศ์) ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าเมืองพัทลุง ระหว่าง พ.ศง 2412-2431 สถานที่แห่งนี้จึงมีฐานะเป็นที่ว่าราชการเมืองพัทลุงเรื่อยมาจนกระทั่ง พ.ศ. 2431 พระยาอภัยบริรักษ์ ลาออกจากราชการด้วยความชราภาพและดวงตามืดมัว เนื่องจากเป็นต้อกระจก รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าเลื่อนตำแหน่งเป็น พระยาวรวุฒิไวยวัฒนลุงควิสัยอิศรศักดิ์พิทักษ์ราชกิจนริศราชภักดีอภัยพิริยะพาหะ จางวางเมืองพัทลุง พระยาวรวุฒิไวยฯ ยังคงพำนักที่วังนี้ จนถึงแก่อนิจกรรม พ.ศ. 2446 วังแห่งนี้จึงตกเป็นมรดกทอดไปยัง หลวงศรีวรวัตร (พิณ จันทรโรจวงศ์) และทายาทตามลำดับ
-
ด้านในก็มีอีก
-
มีเรือ
-
ปิดทริปด้วยการเดินขึ้นยอดเขาอกทะลุ
-
เดินประมาณ 30-40 นาที ก็จะถึง
-
ลงมาถ่ายด้านล่าง
-
ยอดเขาแบบเต็มๆ
-
ขอบคุณครับที่ติดตาม