Hiking Thai
Hiking Thai => เที่ยวนอกบ้าน...นอกเมืองไทย => Topic started by: designbydx on มกราคม 07, 2014, 10:38:27 pm
-
ทริปนี้กะไปน้ำตกอย่างเดียว ลาวใต้น้ำตกเยอะมากทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก และที่อยู่ในป่าลึก จะอยู่บนที่ราบสูง บอลิเวน
-
ครั้งนี้ได้เลือกเดินทางด้วยรถ บขส ระหว่างประเทศ กรุงเทพ-ปากเซ ค่ารถ 900 บาท ที่นั่งกว้างอยู่ แต่โชคร้ายนิดหน่อยเดินทางช่วงปีใหม่รถติด ทำให้ล่าช้าไป รถจะออกจากกรุงเทพ 21.00 น (มีเที่ยวเดียว) ตามกำหนดจะถึงปากเซ ประมาณ 9.00 น. ของอีกวัน แต่เราไปถึง ประมาณ 13.00 น.
-
แผนการเที่ยวคร่าวๆ มีดังนี้
1.จะเดินทางไปเที่ยวสี่พันดอน อยู่ติดชายแดนกัมพูชา ที่นี่จะมีน้ำตกที่ขึ้นชื่อคือ น้ำตกหลี่ผี กับคอนพะเพ็ง(เดินทางลงตอนใต้)
2. จะย้อนกลับมาเที่ยววัดพู
3. ไปเที่ยวน้ำตกทางตะวันออก พักที่เมืองปากซอง มีน้ำตกให้เที่ยวเยอะมาก แต่เก็บมาได้แค่ 10 น้ำตก
แผนที่ก็ก๊อบเขามาล่ะ แต่จำไม่ได้ว่าเว็บอะไร ต้องขออภัยด้วยนะครับ แผนที่นี้มีประโยชน์มาก
-
เมื่อเดินทางมาถึงเมืองปากเซ ก็ไม่รอช้าที่จะต่อรถไปทางใต้ โดยมีเป้าหมายไปพักที่ เกาะดอนเดช จะลงรถที่หมู่บ้านนากะสัง
รถประจำทางส่วนใหญ่จะมีช่วงเช้า แต่ที่เรานั่งไปก็รถประจำทางเหมือนกันเป็นรถ 6 ล้อ แต่ทำไมมีช่วงบ่ายไม่รู้ เดินทางกันก็นานประมาณ 4 ชม. ทางไม่ได้ไกลมาก แต่จอดบ่อย คนแน่นครับ ค่ารถ 40,000 กีบ 160 บาท
-
ลงรถที่หมู่บ้านนากะสัง ยังไม่ถึงเกาดอนเดชนะครับ ต้องนั่งเรือข้ามฝากไปเกาะอีก บ้านพักมีเยอะ นะครับ ไม่ต้องจองไปหรอก ผมก็เลือกทำเลที่ไม่ดี เพราะว่าราคาจะได้ถูก ได้ ที่พักคืนละ 200 บาท
นอกจากเกาะดอนเดช ก็จะมีเกาอีกหลายเกาอยู่ใกล้ๆ กัน สามารถข้ามระหว่างเกาะด้วยสะพาน ผมได้เช่ามอไซด์เที่ยว(ค่าเช่าวันละ 80,000 กีบ 320 บาทม เติมน้ำมันไป 20,000 กีบ)หรือจะใช้จักรยานก็ได้ แต่แนะนำมอไซด์ดีกว่า ที่เที่ยวแต่ละที่ไกลกันอยู่
ขอบคุณภาพจากเว็บพันธุ์ทิพย์ blue planet
-
อีกรูป
-
ผมก็เที่ยวตามเขาแนะนำละครับ ตื่นเข้าเล็งว่าจะถ่ายพระอาทิตย์ที่ไหนดี ต้องการที่โล่งๆ งั้นก็ต้องริมน้ำสิ มุ่งหน้าไปท่าเรือเก่าเลย ไม่ผิดหวังครับ
-
ถ้าตามแผนที่ ก็คือจุดที่หมายเลข 10
-
พระอาทิตย์ดวงกลมโตมาก
-
ผู้คนเริ่มวิถีชีวิตตัวเอง
-
มาดูท่าเรือเก่าสร้างมาตั้งแต่สมัยไหนไม่รู้ แต่ก็สวยแปลกดี
-
ลงไปด้านล่างหน่อย
-
ชอบอ่ะ
-
มีถังใบใหญ่ น่าจะเป็นถึงเก็บน้ำมั๊ง
-
จักรยานของนักท่องเที่ยว
-
ชีวิตระหว่างทาง
-
ฝั้งตรงข้ามเป็น ฝั่งเขมร นะครับ ใครชอบถ่ายวิถีชาวบ้าน และบ้านเรือนเก่าสมัยฝรั่งเศสน่าจะชอบนะครับ มีให้ถ่ายเยอะ
-
ควาย
-
ตัวอย่างอาคารเก่าสมัยฝรั่งเศส
-
นี่คือโรงเรียน ตอนนี้ปิดเทอม แต่ดูเหมือนที่ร้างมากกว่า
-
อันนี้ก็ส่วนนึง เหมือนร้างป่ะล่ะ
-
ภายในห้องเรียน
-
อาคารเก่า ที่ยังถูกทิ้งร้างไว้
-
ชอบ
-
ห้องเรียนอีกห้อง
-
แต่งภาพหน่อยแนวๆ
-
ท่าเรือส่งสินค้าเก่าอีกจุด ดูตามแผนที่ก็คือหมายเลข 4
-
เป็นจุดที่ทัวร์มาลงส่วนใหญ่ ไม่ใช่ท่าเรือข้ามฟากนะครับ
-
สะพานเก่า ข้ามระหว่างเกาะดอนเดช กับเกาะดอนคอน
-
บักหำน้อย กำลังกินอ้อย
-
บนเกาะดอนคอนจะมีหัวรถจักรเก่าแสดงอยู่ ตามแผนที่ก็หมายเลข 11 นะครับ
-
ไม่ได้อ่านประวัติ
-
ใช้ประมาณปี ค.ศ. 1894 ก็ 120 ปีแระ
-
มีเวลาเหลือ ก็เลยไปดูปลาข่า หรือปลาโลมาลุมน้ำอิระดี หรือโลมาน้ำจืด หมายเลข 8 ตามแผนที่นะครับ 60,000 กีบ 240 บาท
-
เจอบักหำน้อยอีกคนก่อนลงเรือ
-
เขาให้ลงได้ลำละ 2 คน
-
ระหว่างล่องเรือ จะพบต้นไม้เป็นไม้ยืนต้น แปลกใจมากที่มันไม่ตาย ลู่ไปตามทิศทางการไหลของน้ำ
-
เรายังมองเห็นท่าเรือส่งสินค้าเก่าด้วยนะครับ ตามแผนที่ก็หมายเลข 10
-
ไปถึงจุดชมล่ะ เจอเพื่อนๆ นักท่องเที่ยวรอชมอยู่เช่นกัน อันนี้จะบอกว่าแล้วแต่โชคนะครับ
-
มีบริการพายเรือคายักด้วย ผมคงไม่กล้าพายอ่ะ น้ำแรงมาก
-
และแล้วก็ไม่ผิดหวัง ลิบๆๆๆ
-
แต่ร้อนมาก ก็เลยเปลี่ยนไปขึ้นฝั่งเขมร(ที่เห็นด้านหน้า) ต้องเสียค่าเหยีบแผ่นดินด้วย 40,000 กีบ 160 บาท
-
จริงๆ ฝั่งเขมรมีจุดไว้ดูปลาโลมาโดยเฉพาะ ซึ่งมุมดีกว่าดูในน้ำนะ โล่งมองได้กว้าง ถ่ายรูปง่ายกว่าด้วย
-
ฝั่งเขมรก็มีที่เที่ยวน่าสนใจเยอะเหมือนกัน
-
เจอบัคหำน้อย กำลัวช่วยตาเก็บเครื่องสูบน้ำ
-
อีกคน
-
กลับไปยังจุดลงเรือตอนแรก ไม่ไหวร้อน ปลาเปรอ ไม่สนใจแล้ว
-
นักท่องเที่ยว ไม่กลัวความร้อน กับแดดเลย
-
ไปลุยเป้าหมายหลักกัน 12 น้ำตก เริ่มต้นกันที่แรกเลย
1. น้ำตกหลี่ผี ค่าเข้า 50,000 กีบ 200 บาท/คน ( แนะนำไห้ไปแต่เช้า หรือหลัง 4 โมงเย็นเพราะว่า คนเก็บตั๋วยังไม่มาทำงาน หรือกลับบ้านแล้ว 5555)
-
จะเรียกว่าน้ำตก หรือว่าอะไรดี มันไหลได้น่ากลัว และกว้างมากกกก
-
เก็บรูปเดียวไม่หมดนะ
-
เลือกถ่ายได้ตามใจ
-
นักท่องเที่ยวน้อยมาก ผิดคาดด แต่ว่าเรามาแต่เช้า นักท่องเที่ยวจะมาบ่ายๆ
-
ถ่ายเยอะเหมือนกัน
-
เหนื่อยอ่ะ เดี๋ยวนอนพักสักหน่อย ค่อยพาไปต่อ
-
ถ่ายไม่หมดก็เลยต้อง พาโนราม่า
-
ตามแผนเราอยากถ่ายน้ำตกคอนพะเพ็ง ตอนพระอาทิตย์ตก กับเช้า ทำไงดีก็ต้องหาที่พักใกล้ๆ หากไม่หาที่ใกล้ๆ เราจะไปถ่ายตอนเช้า กับตอนเย็นลำบาก อยู่ มีที่พักอยู่ที่เดียวนะครับที่นี่คือ โรงแรมคอนพะเพ็ง
เรานั่งเรือข้ามฝากจากเกาะดอนเดช( 30,000 กีบ 120 บาท) แล้วเดินหารถที่จะไปคอนพะเพ็ง...แต่ไม่มีรถ ก็เลยจ้างมอไซด์ในตลาดไปส่ง (25,000 กีบ 100 บาท/คน) ค่าที่ัพัก 60,000 กีบ 240 บาท/ห้อง 2 เตียง มีน้ำอุ่น แต่อากาศไม่หนาวนะครับที่นี่แค่เย็นๆ สบายๆ
-
เจ้าของใจดีนะครับ และผมก็เช่ามอไซด์ที่นี่ไว้อีกคันครับ 100 บาท สภาพที่พักก็โอเคนะครับ เหมือนโรงเรียนเนอะ
-
ตอนเรามาถึงก็เย็นแล้วนะครับก็เลยเอาของไว้ในห้อง ก็ออกไปน้ำตกคอนพะเพ็งเลย ได้ถ่ายรูปตอนเย็นสมใจ
เห็นครั้งแรกถึงกับตลึง.... แม่เจ้ามันแรง และใหญ่กว่าหลี่ผีเยอะเลย
และแล้วก็มาถึงน้ำตกลำดับที่ 2 น้ำตกคอนพะเพ็ง
-
น้ำไหลแบบเชี่ยวกราด
-
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาสายๆ กันเดินทางมาจากปากเซ ดังนั้นช่วงเย็นๆ กับเช้าๆ จะไม่มีคนเลย เหมาะแก่การถ่ายรูปมากครับ
-
แสงเย็นเริ่มมา
-
ที่เห็นมุมขวาล่าง น่าจะเรียกว่า หลี่ผีล่ะ ไว้จับปลา
-
นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวเหนือน้ำตกด้วย เป็นเวิ้งใหญ่กว้างมากกก
-
กลับไปนอนก่อน พรุ่งนี้จะมาถ่ายเช้าอีกที ข้อดีของน้ำไหลเชี่ยวกราด หากเปิดหน้ากล้องนานๆ ก็จะได้แบบนี้ โอ้สวยไปอีกแบบ
-
ลองซูมเข้าไปใกล้ๆ
-
อีกมุม
-
ตอนนเช้าหนาวเหมือนกัน จะมีพี่ๆ มาจับปลาก็งงๆ เหมือนกันน้ำไหลแรงขนาดนี้จะจับได้ไง
-
ดูน้ำสิ แล้วปลาจะว่ายยังไงเนี่ย
-
เปลี่ยนมุมมั่ง
-
มุมเยอะนะ
-
แนะนำเอาเลนส์ซูมไปด้วยนะ
-
อีกด้านที่ไม่ใช่มุมมหาชน
-
หนำใจแระ เริ่มหิวหาไรกินก่อน แต่.. มีพระบิณฑบาท ต้องถ่ายสักหน่อย วัดอยู่ไหนก็ไม่รู้
-
สักหน่อย ไม่มีใครถ่ายให้ ตั้งกล้องถ่ายเองก็ได้
-
ร้านอาหารที่นี่จะเป็นร้านใหญ่ๆ เดาว่า น่าจะมีทัวร์มาลงเยอะ อาหารอร่อย แนะนำกินแต่ปลานะครับ อร่อยมากก
ปลาปิ้ง เรียกว่า ปิ้งปลา และก็มีแจ่วปลา คล้ายปลาร้า ผักสดมาก
-
เตรียมของขาย อ้อย
-
บุกไปถ่ายในครัว
-
กว่าจะกินเสร็จก็ประมาณ 9.00 น เป้าหมายต่อไป ไปวัดภู ด้วยรถประจำทาง
เขาแนะนำให้นั่งเข้ารถเข้าพักที่ เมืองปากเซเลย แล้วเช่ามอไซด์ที่ปากเซ แล้วขับมาเที่ยว
แต่เราต้องการพักที่ใกล้ๆ สัมผัสบรรยากาศเมืองแถวนั้น
-
โชคดีมากที่เราไม่ต้องหารถ เผอิญ เจ้าของรีสอทร์ทจะเข้าเมืองปากเซพอดี ก็เลยอาศัยรถเขามาแต่ก็เสียค่ารถให้เขาคนละ 200 บาท เราเลือกไม่ไปเมืองปากเซ แต่เลือกลงประมาณ หลัก แล้วเหมารถอีก 50,000 กีบ 200 บาท ค่านั่งเรือข้ามฝากอีก 40,000 กีบ 160 บาท จ้างรถสามล้อไปหาที่พักอีก 20,000 กีบ 80 บาท ได้ที่พักถูกใจ แนะนำเลยที่นี่สะอาด 50,000 กีบ 200 บาท
-
และก็เช่ามอไซด์ เพื่อขับไปเที่ยววัดพู 80,000 กีบ 320 บาท
-
เราออกจากที่พักประมาณ เที่ยงๆ ก็แวะไปเรื่อย เริ่มจากโรงเรียน ครูกำลังฉลองปีใหม่กันเลย
-
ต้นก้ามปูใหญ่มาก
-
แอบไปดูห้องเรียนหน่อย
-
เจอฝูงลิงก็เลยขอถ่ายรูปหน่อย
-
มาถึงแล้ววัดพู เสียค่าเข้า 100,000 กีบ 400 บาท คนละ 200 บาท
-
เดินไกลเหมือนกัน
-
อากาศร้อนมากวันนี้ ก็หลบตามพุ่มไม้แล้วซูมเอา
-
ทางขึ้นไปด้านบน จะมีต้อนลั่นทม เรียงสองข้างทาง
-
อีกภาพ แดดเริ่มหายไป
-
เริ่มเก็บภาพไปเรื่อยๆ ช่วงนี้มีการบูรณะอยู่
-
อีกมุม
-
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนไทย
-
ฝรั่งกำลังคุมการปรับปรุง
-
ไม่แน่ใจว่าของจริงหรือเปล่า
-
ส่วนตัวไม่ใช่แนวเท่าไหร่ ก็เลยกลับเจอที่ดักปลาริมโขง ซะหน่อย
-
มีอาคารเก่า เหลืออยู่ด้วย มีหลายแห่ง แต่มืดแล้ว
-
เด็กเห็นกล้องก็ อยากถ่ายมั่งจัดไป
-
อาหารเย็นมื้อนี้ฟินสุดๆ เราเน้นกินนะครับ ที่พักเน้นถูกๆ ไว้
-
รุ่งขึ้นจะเดินทางไปเมืองปากซอง แต่เช้า จะไปถ่ายแสงเช้าที่ไหนดี ก็เลยเลือกไปที่ท่าเรือข้ามฝาก และแล้วก็ไม่ผิดหวัง
-
ชาวบ้านเริ่มกิจกรรม ประจำวัน
-
พระอาทิตย์ที่นี้ก็สวยเหมือนกัน
-
ได้เวลานั่งรถไปปากซองแล้ว แต่เราต้องนั่งรถไปลงปากเซก่อน แล้วต่อรถที่ตลาดดาวเรืองไปปากซองอีกที
-
แผนที่ ปากเซ ไปปากซอง
-
ตารางเดินรถ
-
อีกตาราง แต่ปัจจุบันมีเที่ยวมากกว่านี้นะครับ แต่ที่ลาวจะเน้นเดินทางช่วงเข้า 06.00-11.00 น. ช่วงบ่ายรถจะไม่ค่อยมีแล้วครับ
-
เมื่อเดินทางมาถึงปากซอง(ค่ารถจากจำปาสัก-ปากเซ 60,000 กีบ 240 บาท/ 2คน และจากปากเซ- ไปปากซอง 40,000 กีบ 160 บาท/2 คน) ก็หาที่พัก ที่ราคาถูกแล้วก็ใกล้ตลาดแนะนำที่นี่เลย
-
ถ่ายรูปกับเจ้าของ จะบอกว่าเจ้าของใจดีมากกก
ประทับใจ เราหารถมอไซด์เช่าไม่ได้..แต่ที่พักที่นี่มีให้เช่าครับ มีประมาณ 3-4 คัน แต่มักจะมีคนจองไว้หมดแล้ว ก่อนไปแนะนำให้โทรไปหาก่อนนะครับ ไม่งั้นเราจะไม่มีรถเที่ยวเลยครับ
และแล้วเราโชคดี ที่มีคนเช่่าไว้ แล้วไม่มารับรถ เราจึงได้รถเที่ยวกัน
วันแรกไปถึง พอได้รถเราก็จะออกเที่ยวเลย พี่เขานำขนมปังกับน้ำมาให้..บอกว่าที่นี่กันดารหาของกินยาก ให้เอาไปด้วยเผื่อหิว
ระหว่างเราเที่ยว(ระยะทางขับรถแต่ละวันประมาณ 50-100 กม.) ยังสวดมนต์ให้เราปลอดภัย
คนลาวมีน้ำใจมาก ครับ
-
วันแรกเราไปเที่ยวตาดเยือน ตาดฟาน และตาดจำปี ถ้าไม่มีมอไซด์นี่จะบอกว่าแย่เลยนะครับ
ตามแผนที่ที่ Blue Planet แนะนำไว้ พักที่ปากเซ แต่เราเลือกพักปากซอง จะได้ใกล้น้ำตก หากขับรถจากปากเซมาไกลมากเหมือนกัน แต่ว่าสะดวก
-
มาถึงน้ำตกลำดับที่ 3 ตาดเยือน ค่าเข้า 20,000 ค่าฝากรถมอไซด์ 3,000 กีบ สวยและสูงมาก นักท่องเที่ยวค่อนข้างจะเยอะ
จะแนะนำว่าถ้าจะถ่ายให้สวยน้ำตกนี้น่าจะประมาณเที่ยงๆ นะครับ ไม่งั้นถ่ายยากมากแสงมันต่างกันมาก
-
เลือกมุมกันสนุกเลย
-
น้ำตกสูงมากก มุมถ่ายก็สวยนะครับ
-
ลงไปข้างล่างจะฟุ้งมาก
-
อีกใบละกัน
-
ไปต่อน้ำตกลำดับที่ 4 ตาดฟาน อันนี้อเมซิ่งมากก นำตกสูงถึง 200 ม. ไหลตกไปไหนไม่รู้มองไม่เห็นข้างล่างเลย ยังกะหลุมภูเขาไฟ ค่าเข้า 10,000 ค่าฝากรถมอไซด์ 3,000 กีบ
-
สูงมาก
-
ลองซูมไปดูใกล้ๆ
-
อธิบายยากต้องเห็นด้วยตาจะรู้ว่ามันยิ่งใหญ่แค่ไหน
-
ตกไปในหลุมขนาดใหญ่
-
ที่นี่ต้องเตรียมซูมไปอย่างเดียวนะครับ เข้าใกล้ได้แค่นี้ละครับ ไปกันต่อเลย
น้ำตกลำดับที่ 5 ตาดจำปี ไม่เสียค่าเข้านะครับเพราะว่าเราไปตอนเย็น 555
-
น้ำน้อยแต่ชอบนะครับ ตาดนี้นักท่องเที่ยวไม่นิยมกัน
-
สูงไหมล่ะ กว้างด้วยถ้าน้ำเยอะๆ คงจะบึ้มๆ แน่ๆเลย
-
ต่อไปน้ำตกแห่งที่ 6 ตาดอีตู้ เราออกเดินทางแต่เช้าเพระว่ามีหลายน้ำตกในแผน วันนี้ขับรถมอไซด์ร่วม 100 กม. นะครับ และหนาวมากวันนี้
-
ไมเสียตังค์ค่าเข้านะครับ เพราะว่าเราไปแต่เช้า 5555
-
อีกรูป
-
ไปต่อ ระหว่างทางเจอร้านข้าวแกงข้างทาง ลองดูสักหน่อย เพราะหายากมากที่จะเจอ
-
มื้อนี้ถูกมาก 23,000 กีบเอง เล่นเอางง ไปเลย
-
ลำดับที่ 7 ตาดผาส้วม เหล่านักท่องเที่ยวเยอะมาก ที่นี่จะมีหมู่บ้านโบราณให้ชม มีบ้านพักบริการด้วยครับ ค่าเข้า 10,000 ค่าจอดรถ 2,000 กีบ แต่ละที่ทำไมไม่เท่ากัน เขาบอกว่า แล้วแต่ความดัง ความฮิต และคนไทยเป็นคนออกแบบแลนด์สแคบให้ด้วย
-
ไปเที่ยวหมู่บ้านโบราณก่อน
-
เขาอนุรักษ์ไว้ อาศัยจริง
-
เขาห้ามทำกับข้าว เพราะว่ามีไฟไหม้บ้านไปด้วย จึงห้าม รัฐจึงบริการด้วยการหาอาหารให้
-
ชาวบ้านดั่งเดิม
-
ทอผ้าโชว์
-
บักหำน้อย
-
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วย... แต่ไม่ฮิตกัน ทางเดินพัง ร้าง ว่างเปล่า มีกรงสัตว์ป่าด้วย
-
บ้านเสาเดี่ยว นึกถึงศาลพระภูมิเลย
-
บ้านพักธรรมชาติสุด
-
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ..จะไปได้ไหมล่ะนั่น
-
มีน้ำตกเล็กน่ารักๆ อยู่ข้างในอีกอัน
-
อีกภาพ
-
อากาศเย็นสบายมาก
-
ผลไม้จากชาวบ้านมาขาย หนอยโหน่ง
-
ทางเดินไปน้ำตกตาผาส้วม
-
มาถึงแล้วน้ำตกผาส้วม หินเขาจะแนวมากๆ สวยดีครับ
-
อีกภาพ
-
ซุมใกล้ๆ ดูลักษณะหินครับ เป็นระเบียบแนวตั้งมาก
-
ลืมถามความหมาย ผาสัวม น่าจะเป็นการอธิบายลักษณะหินนะ ผมว่า
-
สวยๆ ยืนชมความงามน้ำตก
-
บักหำน้อย กำลังต้มข้าวโพดขายให้นักท่องเที่ยว ฟังเพลงอย่างสบายใจ
-
ไปน้ำตกลำดับที่ 8 ตาดจำปี ชื่อจะซ้ำกับที่เราไปมาเมื่อวาน อันนี้เป็นน้ำตกที่บังเอิญเห็นป้ายระหว่างเดินทางจากผาส้วมไป น้ำตกตาดฮังกับตาดเลาะ แต่ก็ไม่ไกลจากผาส้วมมากนะครับอยู่ซ้ายมือ เข้าไปลึกประมาณ 7 กม. น้ำตกที่นี่ ไม่ฮิตกัน น่าจะไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว
-
ถ้าน้ำเยอะก็น่าจะสวย แต่คงจะเดินทางเข้ามาลำบากมาก
-
เดินลงไปท้ายน้ำตก เจอแต่ชาวบ้านแถวนั้นมาพักผ่อนกัน
-
อีกภาพก่อนรีบเดินทางต่อ
-
คราวนี้เดินทางไกลเลย ไปตาดเลาะกับ ตาดฮัง แต่เอ๊ะ.... มีน้ำตกทางเข้าตรงข้ามกับตาดเลาะ ตาดฮังอยู่ อ่านว่าตาดคีไล่ (ฟังจากสำเนียงเขาอ่านให้ฟังนะครับ) ก็ยกเลิกการเที่ยวไปแล้ว เพราะเจอตาดเลาะกับตาดฮังกลบไป เป็นน้ำตกลำดับที่ 9 นะครับ
-
ยานหาพนะคู่กาย ที่ไม่เกเร ขอบคุณมากๆ
-
เดินทางไปเจอเด็ก เลยให้เด็กนำทางให้ ไปไม่ถูก
-
อีกภาพ รีบๆ กลัวไปไม่ทันตาดเลาะตาดฮังมันเย็นมากแล้ว
-
น้ำตาดจำปีนี้เข้าทางหมู่บ้านนี้นะครับ
-
ขับรถออกมา ขับไปนิดเดียว..อ้าวตาดเลาะตาดฮังอยู่ ใกล้ๆ กันเลย
-
เจอตาดฮังก่อน น้ำตกลำดับที่ 10 นะครับ ถ้าน้ำเยอะก็คงจะอลังการมาก
-
เป็นที่นิยมกัน เพราะว่าอยู่ใกล้ถนนใหญ่ทางสะดวกครับ อ้อ ไม่เสียค่าเข้านะครับ
-
จะมองเห็นยอดภูเขาด้านหลังด้วย
-
อีกภาพ
-
ขับรถขึ้นไปอีกชั้นเป็นตาดเลาะ เป็นน้ำตกลำดับที่ 11 นะครับ
-
อีกภาพ
-
เข้าไปไกล้อีกหน่อยละกัน
-
จบทริปสำหรับวันนี้ เย็นมากแล้วต้องกลับปากซอง เราขับรถเป็นวงกลมโดยไม่ย้อนทางเก่า เพราะว่าจะอ้อม มาก ตรวจสอบจาก gps พบว่าย่นระยะทางได้ถึง 30 กม. เหลือระยะทางเพียง 60 กม. ก็ถึงปากซอง เส้นทางสวยมากครับ แต่ว่าหนาวมากกก มือ ขา ชาไปหมดเลยครับ
-
กลับมาด้วยความหินโซซัด ดาดกระทะ แม่เจ้า... หมดไป 900 บาท (2คน)
-
วันนี้ตื่นเข้าเริ่มมีประสบการณ์บล็อคความหนาวเต็มที่ กางเกง 2 ขั้น เสื้อสามชั้น ผ้าพันคอ ถูงเท้า 2 ขั้น เราจะเดินทางไกลไปน้ำตกแห่งที่ 12 น้ำตกเซกะตาม หรือ กะตามตก
ระหว่างทางเจออันนี้อดไม่ได้จะจอดถ่ายรูป
-
เส้นทางนี้ตอนเข้าขอบอกว่าสวยมากจริงๆ นะ
-
เส้นทางเดินทางเช้านี้
-
สัญญาณอินเตอร์เนตไม่มี ถามตลอดทาง 555
-
และแล้วก็มาถึงจะได้
-
ยังดิบๆ อยู่ ไม่มีใครลงไปด้านล่างได้เลย
-
และแล้วสวรรค์มาโปรด วิศวกรหนุ่มชาวลาว อาสาพาลงไปจุดชมวิว ต้องลุยลงไป ซึ่งทางเก่าไม่มีเหลือให้เห็นแล้วล่ะ
-
เขากำลังก่อสร้างทาง วิศวกรว่างเลยอาสาพาลงไป เขาบอกประโยคเด็ดว่า "เจ้ามาบ้านเรา เราก็ต้องดูแล"
-
ชื้นมาก ถ่ายยากเพราะย้อนแสง ถ้าใครจะไปแนะนำให้ไปหลังเที่ยง เพราะแสงจะลงน่้ำตกพอดี ไม่ไหว ต้องขึ้นกลับมาล่ะ กะว่าจะไปน้ำตกหัวช้างต่อ ลำดับที่ 13
-
ระหว่างทาขากลับก็เจออันนี้ ก็รีบลงไปถ่าย
-
บ้านร้าง..ชอบมาก
-
และแล้วก็มาถึงน้ำตก หัวช้าง ถนนกำลังทำ คนไหนที่จะไปตอนหลังนี่ ถนนน่าจะเสร็จแล้วล่ะครับ ทางลงน้ำตกมีทางลงไปได้ แต่นักท่องเที่ยวไม่นิยมกัน ธรรมชาติยังดิบๆ อยู่ครับ
-
อยู่นานมากไม่ได้ ลงมากันเอง ไม่มีใครนำทางเดี๋ยวมืดก่อน
-
พอขึ้นมา คนมาจากไหนมารู้ มาอาบน้ำซักผ้ากัน
-
ยานพาหนะ เข้าสวนไปทำไร่
-
ชาวบ้านมากๆ
-
ก่อนกลับปากเซ ก็เก็บบรรยากาศเมืองปากซอง ตอนเช้าหน่อย
-
น่ากินเนอะ
-
ลุงออกจับปลา
-
ที่นี่ยังเลี้ยงม้ากันอยู่
-
อากาศเย็นมาก
-
เย็นจริงๆ
-
ลืมบอกไป เมืองปากซองอยู่สูงประมาณ 1300 ม. รทก อันนี้เครื่องวัดให้นะครับ มิน่าอากาศหนาวมาก
-
ได้เวลาขึ้นรถแระ ก็รอรถหน้าที่พักนั่นล่ะ มาพักที่โรงแรมลานคำ เป็นญาติกับ โรงแรมที่ปากซองอ่ะครับ ห้องพัดลม 200 บาท ห้องแอร์ 360 บาท
เราเช่ามอไซด์ ที่นี่มอไซด์จะใหม่ๆ และก็ไม่มีมอไซด์จีนเลยครับ 70000 กีบ 280 บาท เริ่มต้นไปหาของกินพื้นเมือง แนะนำให้ไปตลาดนะครับ มีให้เลือกเยอะเลยถูกด้วยครับ กินปลานะครับอร่อยมาก
-
เรามาดูแผนที่แล้ว ที่นี่มีน้ำตกให้เที่ยวด้วยไม่ไกลมาก จึงเป็นน้ำตกลำดับที่ 14 สุดท้ายของเรา ตาดสีดา
-
ดูจากแผนที่ไม่ไกลนะ
-
ค่าเข้า 50,000 กีบ
-
เป็นที่ของเอกชนบริหารครับ
-
เราไปต่อ ไปชมหมู่บ้านตีมีด อยู่ก่อนถึงทางแยกไปผาส้วมนะครับ เหล็กที่นำมาใช้ก็ซื้อมากจากตลาดเป็นเหล็กแหนบรถยนต์
-
ทำกันทั้งหมู่บ้าน
-
แล้วก็วางขายข้างทาง ไม่กล้าต่อเลยอ่ะ
-
จากนั้นกลับเข้ามเที่ยวในตัวเมืองปากเซ ไปเจอโบสถ์
-
สะพานลาวญี่ปุ่น
-
อีกภาพ เป็นที่เขาเลี้ยงปลาไว้รอจำหน่ายตามร้านอาหาร
-
อีกภาพ
-
ศาลเจ้ายามคำคืนตรงปากแม่น้ำนั่นละครับ
-
ซ้ายของภาพแม่น้ำเซดอง ขวาคือแม่น้ำโขงครับ
-
ตอนกลางวันจะเห็นชัดรอยต่อของสายน้ำชัดมากครับ แม่น้ำโขงจะขุ่น ส่วนแม่น้ำเซดองจะใส แบ่งสีชัดเจนเลยครับ
-
เรากลับมาอีกครับ ดูพระอาทิตย์ขึ้น
-
ปลายังมีกระโดดให้เห็นเลยครับ ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น
-
ดวงอาทิตย์ใหญ่มาก
-
เห็นรอยต่อน้ำไหมครับ
-
วิวสะพานลาวญี่ปุ่นอีกมุม
-
กลับเข้าตลาดอีกครับ หาของกินเดินชมตลาดกัน
-
ปลาเยอะมากที่นี่
-
นี่ก็ปลา
-
นี่ก็ปลา
-
ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เหมือนย้อนไปอีกประมาณ 35 ปีของไทย ที่บ้านก็ขายแบบนี้
-
อาหารหลักของที่นี่
-
ภาชนะประจำชาติ
-
มีตึกเก่าๆ ให้ถ่ายด้วยแต่ไม่แน่ใจเขาจะอนุรักษ์ไว้ไหม ปี 1938
-
อันนี้ก็สวยครับ
-
ผู้พักอาศัยในตึก
-
อีกตัว
-
ปิดท้ายทริปด้วยภาพนี้ครับ หาปลาในแม่น้ำเซดอง
สรุปค่าใช้จ่ายหมดไปประมาณคนละ 8500 บาท (ไป 2คนครับ เน้นการกินครับเต็มที่ แต่ที่พักเอาถูกๆ)
ขอบคุณครับที่ติดตามชมไว้เจอกันทริปหน้าครับ
-
อีกคน
ชอบชอบ