Hiking Thai
Hiking Thai => เที่ยวนอกบ้าน...นอกเมืองไทย => Topic started by: designbydx on พฤศจิกายน 08, 2018, 08:09:57 pm
Mt.Siguniang and Dagu Glacier, China(สี่ดรุณี กับ ต๋ากู่ปิงชวน) 20 ตุลาคม 61 เดินทางด้วยสายการบิน Air Asia จองข้ามปีโน้นนนน ไปลง ฉงชิ่ง(Chongqing) ไปถึงประมาณบ่ายๆ เวลาเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชม. และต่อรถไฟความเร็วสูงไป เชิงตู(Chengdu) มณฑลเสฉวน นอนเลยเหนื่อย ฝนตกด้วยฟ้าปิด 21 ตุลาคม 61 เหมารถไปสี่ดรุณี(อุทยานซื่อกู่เหนียงซาน) ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม. ก็ถึงระยะทางประมาณ 200 กว่า กม.เอง แต่ทางมันโค้งเยอะ ถึงบ่ายๆ ก็เดินเที่ยวแถวๆที่พัก(Sun and Moon Guest house) เป็นที่พักนอกอุทยานอยู่ใน Siguniang town 22 ตุลาคม 61 เที่ยวในอุทยาน Mt.Siguniang เส้นที่รถถึงยอด 23 ตุลาคม 61 เที่ยวในอุทยาน Mt.Siguniang เส้นที่รถถึงบางส่วน และเดินอีกเยอะๆ หรือขี่้ม้าต่อ 24 ตุลาคม 61 เหมารถไปเมือง Heishui ระยะทางประมาณ 300 กว่าโล ใช้เวลา 6-7 ชม. เพื่อไปเที่ยวธารน้ำแข็งต๋ากู๋ปิงชวน พักในเมืองก่อนขึ้นอุทยาน(ที่พักดีมากสะอาดแนะนำๆ) 25 ตุลาคม 61 เที่ยวในอุทยาน Dagu Glacier 26 ตุลาคม 61 นั่งรถประจำทางกลับ เฉิงตู และนั่งรถไฟความเร็วสูงไป ฉงชิ่งต่อ ถึงที่พักดึกเลย 27 ตุลาคม 61 เที่ยวในตัวเมือง 28 ตุลาคม 61 เดินทางกลับ เพื่อนร่วมทริป 5 คน ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดแล้วประมาณ 25,000 บาทต่อคน กล้องที่ใช้ Fuji xt1 18-55mm and samyang 12 mm and Gopro and Canon 5dIII+40mmVIDEO
ลุยยย 20 ตุลาคม 61 เดินทางด้วยสายการบิน Air Asia จองข้ามปีโน้นนนน(บินประมาณ 8 โมงเช้า) ไปลง ฉงชิ่ง(Chongqing) ไปถึงประมาณบ่ายๆ เวลาเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชม. และต่อรถไฟความเร็วสูงไป เชิงตู(Chengdu) มณฑลเสฉวน นอนเลยเหนื่อย ฝนตกด้วยฟ้าปิด
พอถึงสนามบิน ก็สามารถลงสถานีรถไฟใต้ดินได้เลยสะดวกจริงๆ แล้วเราก็มาที่ซื้อตั๋วเพื่อไปเมือง เฉิงตู ไม่ได้จองมาแต่มาซื้อก็สะดวกมีตั๋วว่างเยอะ น่าจะเป็นเพราะเป็นวันเสาร์ไม่ใช่วันทำงานก็เลยว่างเยอะ มีหลายเที่ยวเลือกได้เลย ทุกขบวนเป็นความเร็วสูงหมด :o :o :o
อุแม่เจ้า เกือบ 300 กม./ชม. :o :o ตื่นเต้น แต่นั่งอยู่ไม่รู้สึกเลยว่ามันเร็ว
ประมาณ 2 ชม.ก็มาถึงเฉิงตู (หลายคนสงสัยทำไมไม่บินมาลงเฉิงตู ตอบง่ายๆ คือ จองผิดนั่นเอง 5555)
เราก็หาโรงแรมที่ติดกับสถานีรถไฟใต้ดินล่ะ (Chengdu Traffic Hotel)และก็หารถเหมาเตรียมไปเที่ยวต่อที่สี่ดรุณี ตอนนี้ขอนอนก่อน แต่ชอบภาพหลังเคาร์เตอร์โรงแรม แต่ก่อนนอนก็ไปหารถเหมาไว้ก่อนเช้าจะได้ออกเลย ที่ โรงแรมจะอยู่ใกล้กับ Xinnanmen Bus Station - Chengdu Tourism Bus Cente ก็ไปหาที่นั่นล่ะ ได้ราคา 1100 หยวน เป็นรถ SUV
21 ตุลาคม 61 เหมารถไปสี่ดรุณี(อุทยานซื่อกู่เหนียงซาน) ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม. ก็ถึงระยะทางประมาณ 200 กว่า กม.เอง แต่ทางมันโค้งเยอะ ถึงบ่ายๆ ก็เดินเที่ยวแถวๆที่พัก(Sun and Moon Guest house) เป็นที่พักนอกอุทยานอยู่ใน Siguniang town ตอนหารถเหมา ก็คุยไม่ค่อยจะรู้เรื่องเมื่อยมือไปหมด สรุปก็ได้มาจนได้รถเหมาเรา เป็นแบบนี้ กว่าจะคุยรู้เรื่อง คือ ตอนเหมาแนะนำให้ดูรูปรถให้ชัดเจน เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ต้องรอบคอบหน่อย คือทางขึ้นเขาไม่ค่อยดี เราต้องใช้รถที่แข็งแรงพอ จะได้ไปเร็วๆไง
เส้นทางจะเป็นอุโมงค์เยอะมาก ยาวๆ สั้นๆ มีหมด ทำให้ประหยัดเวลาได้เยอะ ที่สำคัญไม่เวียนหัวด้วย
เห็นไหมอุโมงค์อยู่กลางภาพ ส่วนสิ่งก่อสร้างที่เป็นไม้ๆ เอาไว้ขึ้นไปล้างรถบรรทุก
เราได้หยุดพักรถ เจอป้าขายของข้างทางตะโกนเรียกใหญ่ เดาว่าให้ไปซื้อ ฟังไม่ออก
เราพบการฆาตกรรม ริมถนนเลย
ขนดก ก็ต้องเจอแก๊สแบบนี้ถึงจะเอาอยู่ เตาถ่านใช้ไม่ได้หรอก ใช้ได้เฉพาะขาหมูเท่านั้นล่ะ
เป็นสัญญาณบอกว่าไบไม้เปลี่ยนสีแล้วนะ มีลุ้นๆ ว่าจะเจอพีคๆ ไหม :D :D
อากาศก็เย็นขึ้นเรื่อยๆ
วิวระหว่างทาง ก็สายดีนะ แต่ยังไม่ใช่ยอดเขา สีดรุณีนะ
ปัญหาใหญ่ของผมที่แก้ไม่ได้ทุกครั้งที่มาจีนคือ อาหาร ที่มันๆ และมีหม่าล่า สู้ไม่ได้จริงๆ แต่ประทังชีวิตได้ด้วย พืชผักผลไม้ :( :(
เริ่มมีความเป็นธิเบตขึ้นเรื่อยๆ
มีตลอดสองข้างทาง
และแล้วเราก็ได้มีสี่ดรุณี หรือ four girls mountain แต่ยอดเปิดไม่ครบ ยอดสูงสุดเป็นหมวยเล็ก
อีกแป๊บเดียวก็มาถึงโรงแรม Sun and Moon Guest House(ในภาพอยู่กลางๆ) หาในกูเกิ้ลไม่เจอ เป็นห้องรวม ห้องน้ำรวม อากาศหนาวมากตอนเช้าประมาณ 2 องศา กลางคืนติดลบ เตียงมีเครื่องทำความร้อน น้ำอุ่นก็อุ่นเร็ว ระวังลวกอย่าเผลอปรับเร็วๆ สภาพเมืองก็รกๆ เนอะ
เส้นทางที่เราเดินทางก็ประมาณนี้
มาถึงโรงแรมก็ หาแผนที่ก่อนเลย
อธิบาย ดาวสีฟ้าๆ เป็นตำแหน่งที่พักเรา ดาวสีชมพู เป็นตำแหน่ง Shuttle Bus เดินจากโรงแรมประมาณ 10 นาที เส้นทางเที่ยวมี เส้นที่ 1 2 3 เส้นที่ 1 ต้องเหมารถไป(คนละ 10 หยวน แต่น่าจะมีรถเมล์นะคิดว่า)(ค่าเข้า+ค่ารถ 150 หยวน)ถึงยอดเลย และรถจะแวะตามจุดต่างๆให้เราลงเดินเที่ยว มีหลายจุดมาก ถ้าชอบถ่ายรูปก็นานเลย รถบัสมีวิ่งตลอด(เส้นนี้มองไม่เห็น สี่ดรุณีนะ) เส้นที่ 2 เดินจากที่พักขึ้นรถ Shuttle Bus (ค่าเข้า+ค่ารถ 90 หยวน) จากนั้นต้องเดินเองหลายกิโลเลย หรือจะขี่ม้าก็ได้ (เส้นนี้จะมองเห็น สี่ดรุณีตลอด มีธารน้ำแข็ง) ค่าม้าก็ประมาณ 300 หยวนไปกลับ ตั้งแต่ประตูเลย(คุ้มนะ) เส้นที่ 3 เดินไปได้ แต่เป็นเส้นสำหรับเดินเทรค เราจะขี่ม้าก็ได้ แต่ไปได้แค่จุดชมวิว(อันนี้เดินไปถ่ายรูปแค่ทางเข้า) ถ้าไม่มีเวลามาก ก็เที่ยวเส้นที่ 1 ก็พอ คุ้มอยู่สวยมาก เราเที่ยวสองวัน เส้นที่ 1 กับ 2 เหนื่อยมากกกก :( :(
แผนที่อีกใบ น่าจะดูง่ายกว่านะ
มีทำป้ายใหญ่ๆ ไว้แนะนำเลยนะ
ผลไม้รสชาติจัดจ้านมากครับ
22 ตุลาคม 61 เที่ยวในอุทยาน Mt.Siguniang เส้นที่รถถึงยอด(เที่ยวเส้นที่ 1) ไปยอดก่อนเลยยยย ซื้อตั๋วก่อน อ้อ คนที่มีอายุเกิน 60 ลด 50% นะ ทำตัวแก่ๆ ไว้
นั่ง Shuttle Bus นานเลย น่าจะเป็นชั่วโมงได้ พอมาถึงปลายทาง(Red Wood Forest) แม่เจ้า หิมะ หิมะ (เมื่อคืนหิมะตก)
หิมะยังคงตกมาเรื่อยๆ
สมใจอยาก ;D ;D ;D
ที่ตั้งใจไว้ก่อนมา สมใจอยากอีกภาพ ;D ;D ;D ด้านหน้าน่าจะเป็น Mt Api 5592 msl
อีกภาพ
ถ่ายรูปกันสนุกสนานไป จริงๆ มันมีทางเดินรอบๆ แต่หิมะมันตกปิด และก็หนาวมากด้วย เดินไปถ่ายไปหมดเวลาไปนานเลย
ลองซูมไปยอด Api
ฟ้าปิดทำให้ไม่เห็นยอดอื่นๆ แต่แค่นี้ก็พอใจแระ ก็เลยนั่งรถไปยังจุดถัดไป(ลงไปเรื่อยๆนะ) Yuk Hut
มองไม่เห็นยอดกันเลย
ไปตามหาตัว Yuk กัน ขนยาวเชียว
เห็นไมตัวนี้มีสองสี เท่สุดๆ
ลูกๆ มีหยุดเหล่ กล้องด้วย
ไปๆ แวะจุดถัดไปทะเลสาบ มุมถ่ายรูปเยอะทีเดียว แต่ฟ้าไม่เปิดนีสิ เลยต้องซูมๆๆ
โดยส่วนตัวชอบต้นไม้ตายๆ เป็นนี้มาก
เบื้องหลังเป็นภูเขามหึมา
ได้เวลาก็ไปจุดถัดไป ไม่ต้องกลัวหิวนะครับ มีอาหารขายทุกจุดที่รถแวะ ก็แพงกว่านิดหน่อย ก็โอเค ชอบอ่ะ ;D ;D
ใบไม้ก็เปลี่ยนสี
พอรถจอดปุ๊บทัวร์จีนก็วิ่งกรูไปถ่ายรูปกัน ก็เลยต้องรอให้ซาๆ ไม่งั้นถ่ายไม่ได้จริงๆ อีกอย่าง เขาอยากถ่ายก็ถ่ายเลย ไม่ได้สนใจว่าใครถ่ายอยู่ด้วยนะ เป็นเรื่องปกติเขาเลย ต้องทำใจ
เริ่มเหนื่อยล้า 555
สิ่งที่เห๋็นอีกอย่างคือ นักท่องเที่ยวจีน กล้องแต่ละคนรุ่นท๊อปๆ ทั้งนั้นเลยที่สำคัญคนละ 2 ตัว และยิ่งกว่านั้นมีแต่คนมีอายุด้วย ซึ่งดูเหมือนถ่ายยังไม่คล่องด้วยแต่มีครบ
จุดถัดไป เจอรถขายเนื้อ Yuk สดๆ ด้วย
วิวก็เหมือนๆ กันเนอะ เมื่อยแล้วอ่ะ
ฟ้าเปิดคงสวย
ฝูง Yuk อีกฝูง
พอแระกลับดีกว่า วันพอก่อน ;D ;D ก่อนมาวันนี้จะบอกว่ามีอาการแพ้ความสูงดีนะที่เป็นไม่มากนึกว่าจะต้องกลับก่อนเพื่อนซะแร้ว
23 ตุลาคม 61 เที่ยวในอุทยาน Mt.Siguniang เส้นที่รถถึงบางส่วน และเดินอีกเยอะๆ หรือขี่้ม้าต่อ ลุยต่อเส้นที่สอง วันนี้ฟ้าเปิดจร้าาาาาา เส้นที่ 2 เดินจากที่พักขึ้นรถ Shuttle Bus (ค่าเข้า+ค่ารถ 90 หยวน) จากนั้นต้องเดินเองหลายกิโลเลย หรือจะขี่ม้าก็ได้ (เส้นนี้จะมองเห็น สี่ดรุณีตลอด มีธารน้ำแข็ง) ค่าม้าก็ประมาณ 300 หยวนไปกลับ ตั้งแต่ประตูเลย(คุ้มนะ) เห็นยอดสี่ดรุณีไหมกลางภาพ
พอนั่งรถมาถึงจุดปล่อย นั่งแค่ไม่กี่นาที วิวที่เห็นจะเป็นแบบเน้ๆๆ :o :o เจ๊ๆ โชว์ตัวอยู่ด้านหน้า
หันกลับไปก็จะเจอแบบเน้ๆๆ
จากนี้ก็ต้องเดินๆๆ แต่เขาทำทางเดินไว้ดีนะครับ ลูกตั้งบันไดก็ไม่สูงมาก แต่เนื่องด้วยมันสูง เดินนิดๆ ก็เหนื่อยแล้วต้องเคลื่อนตัวช้าๆ แล้วมันจะไปถึงตอนไหนล่ะทีนี้ เดินมาหน่อยนึงจะเจอวัด(Lama Temple)
มีป้ายบอกว่าจะเจออะไรแต่เสียดายเป็นภาษาจีน ก็ดูภาพละกัน
ตามแผนที่นี้ ก็จะเห็นว่าจุดขึ้น-จอดม้าตรงไหนบ้าง ก็ไกลอยู่นะครับ ไปถึงแค่ไหน(เส้นที่ 2 นะที่เราจะเที่ยววันนี้)
ไปไหนดีล่ะ งง ไกลด้วย ไม่อยากเสียตังค์ขี่ม้าด้วย เอ้าเดินไปเรื่อยๆ ละกันตามทางไปไหนก็ไป เจอทางไปน้ำตก Chongchongjio Waterfall
เดินไปทางไหนเราก็จะเห็น สี่ดรุณีตลอด ที่เฆมปกคลุมเป็นยอดสูงสุด หมวยเล็ก 6250 msl
ผ่านมุมนี้ชอบมากเสียเวลานานมากกับการรอให้ทัวร์จีน ซาๆ ลง เกือบท้อเลย
เดินจนหอบก็มาถึงน้ำตก Chongchongjio Waterfall สูง 200 ม.
ทางเดินบางส่วนถูกปิดไป
แต่ละที่จุดชมวิว จะทำเป็นพื้นไม้อย่างดี แต่ตอนตั้งขากล้องก็สั่นอยู่ดี คนเยอะเดินไปมาๆ ทุกมุมจะมองเห็นสี่ดรุณีหมด
ถ่ายมาแคบไปหน่อย
แต่ละจุดใช้เวลานานอยู่
แล้วผมก็เดินมาถึงทะเลสาบ ไมมันเมื่อยอย่างเน้ :( :(
พักกินมาม่าเสร็จแล้วก็ไปต่อ แต่เดี๋ยวๆ ไปต่อนี่อีกหลายโลเลยเอาไงดีล่ะ บ่ายสองไปแระ
ไม่ได้การล่ะ ม้าเท่านั้นจะช่วยชีวิตเราไปต่อได้ แต่ปัญหาใหญ่คือการสื่อสาร แต่เอ้าไป คงมารอบเดียวนี่ล่ะ ตกลงกันที่ 200 หยวน จะแค่พาไปจุดสุดท้ายที่ม้าจะไปได้(ตั้งใจว่างั้น)
นั่งมาแป๊บนึงยังไม่ถึง 30 นาทีเขาก็จอดให้เราถ่ายรูป เออใจดีเว้ยเฮ้ย ;D ;D ยอดแหลมที่เห็นไม่รู้ชื่ออะไร
ถ่ายเสร็จไปต่อกันครับ แต่ๆๆ เขาบอกให้เรากลับ เราก็ห๊าาาาา ไรน่ะให้กลับ ทะเลาะกันพักใหญ่ แต่ไม่มีเสียงคุยกันไม่รู้เรื่อง สรุปได้ว่าต้องเพิ่มเป็น 300 หยวนนะ เอ้า เอ้า อ้าววว สรุปอีกทียอมก็ไปๆๆ เซ็ง มาจอดตรงจุด Sun and Moon Mirror
อีกภาพ ดับอารมณ์เสีย :( :(
เป็นจุดพักอีกจุดนึงที่ม้าต้องแวะ ก็สวยอยู่นะ
ไปต่อๆ คราวนี้เกิดปัญหาอีกแระจะให้กลับ เขาเอาโทรศัพท์มาแปลเป็นอังกฤษให้ว่า ธารน้ำแข็งไปไม่ได้ เราก็งง แล้วม้าที่เขาเดินๆ ผ่านเราเขาไปไหน เอาไงดีล่ะ ผมก็เดินหาคนที่พูดอังกฤษได้มาเจรจา มาเจอ สามีภรรยา คู่นึงพูดอังกฤษได้ มาช่วยพูด สรุปคือ ให้ไปเที่ยวพร้อมกับเขานี่ล่ะ จุดสุดท้ายของม้าน่าจะเป็นธารน้ำแข็ง (Xiageluo Glacier) ก็แอบถามเขาว่า 300 หยวนนี่ราคาปกติไหม เขาบอกว่าปกติ มันจะได้ขึ่ตั้งแต่ต้นทางเลยนะ แต่เราขึ้นทะเลสาบไง โอเค สบายใจ
5555 มีเพื่อนไม่กล้วเว้ย ธารน้ำแข็งก็ที่เห็นขาวๆ นั่้นล่ะ
มองมาอีกด้านตรงข้าม
ยอดแหลมที่เห็นมาตลอด
กลับก็ได้ เย็นมากแล้วประมาณ 4 โมงเย็นจะทันรถไหมเนี่ย เพื่อนชาวจีนบอกว่า โดน วอ รี่ กลับมาถึงทะเลสาบคนหายหมด แสงกำลังได้ที่ป่ะ ไปถ่ายรูปกันก่อนไม่ทันรถช่างมัน 5555
หมวยเล็กโชว์ตัวตอนเย็นแระ ช่วงเช้านี่หลบในเมฆตลอด
เดินมาถึงจุดเริ่มต้นที่วัดแสงสาดไปครบทุกยอดพอดีเลย เดียวจะเรียงให้ จาก ซ้ายไปขวานะ Mt.Siguniang-Yaomei Feng 6250 msl Mt.Siguniang-San Feng 5664 msl Mt.Siguniang-Er Feng 5454 msl Mt.Siguniang-Da Feng 5335 msl น่าแปลกเนอะยอดที่สูงที่สุดแต่มองเห็นต่ำกว่ายอดต่ำสุด
ถ่ายจากประตูทางเข้า คนหายหมด สรุปมาทันรถเที่ยวสุดท้ายพอดี 18.30 น.
24 ตุลาคม 61 เหมารถไปเมือง Heishui เป็นรถคล้ายๆ wish นะ อยู่ที่ 1500 หยวน (จำไม่ได้แระ) ระยะทางประมาณ 300 กว่าโล ใช้เวลา 6-7 ชม. เพื่อไปเที่ยวธารน้ำแข็งต๋ากู๋ปิงชวน พักในเมืองก่อนขึ้นอุทยาน(ที่พักดีมากสะอาดแนะนำๆ) เหมารถไป ออกแต่เช้าเลย อ้อลืมบอกอาหารเช้าที่เมืองนี้หากินยากเพราะไม่มีใครเปิดต้องกินที่โรงแรม คนละ 10 หยวน เป็นข้าวต้ม มั่นโถ ไข่ต้ม แล้วก็ผักดอง อร่อยไหมล่ะ เราแวะดูยอดเขาสีดรุณีอีกรอบ เช้านี้เธอเผยตัวออกให้เห็น ไม่เหมือนขามา
ตอนเข้านี่บรรยากาศดีจริงๆ แต่ก็หนาวมาก วิวข้างทางเป็นไงล่ะ คนขับรถก็ใจดี จอดทุกที่ที่อยาก แถมจอดไม่ต้องสนใจใครด้วย 5555
ดูท่าทางแกสนุกด้วย สงสัยไม่ได้ออกมาเที่ยวบ่อยๆ ที่สำคัญแกไม่สูบบุรี่ :D :D :D เส้นทางตามแผนที่ครับ
บอกว่า สต๊อบ สต๊อบ ก็จัดให้เลย
แล้วเราก็มาถึงเมืองเฮยสุ่ย (Heishui) แปลว่า น้ำดำ เขาบอกว่าเมื่อก่อนเคยมีเหตุการณ์น้ำเป็นสีดำ
เป็นเมืองที่ไม่เจริญมากกำลังพอดีๆ นะ อาจเป็นเพราะว่าไม่ใช่ทางผ่าน และคนที่มาก็คือมาเที่ยวแล้วก็กลับออกไปทางเดิม อีกอย่างมีจิ่วไจโก ที่ดังกลบรัศมีไป
โรงแรมที่เราพัก SHANLIRENJIA, Heishui, China
เด็กที่นี่น่ารักเราไปตรงเวลาเลิกเรียนพอดี
ขอถ่ายรูปนึง
25 ตุลาคม 61 เที่ยวในอุทยาน Guda Glacier ต้องเหมารถจากโรงแรมไปส่งที่ขึ้นรถ Shuttle Bus คนละ 10 หยวน ค่ารถของอุทยานพาไปยอด 70 หยวน ค่าเข้า 60 หยวน ค่ากระเช้า 180 หยวน ตัวเบาเรย
ดูจากแผนที่ที่ติดไว้ให้ดู แต่อ่านไม่ออกมีที่แวะหลายที่เลย ลักษณะเหมือนสีดรุณีนั่นล่ะ
รถรับส่งก็คันเล็กๆ สงสัยไม่ฮิตกัน
ตามแบบฉบับเดิม ก็ไปส่งจุดไกลสุดก่อน แล้วเราก็ขึ้นกระเช้าต่อไปบนยอดเลย (หรือเราจะลงตามจุดแวะก่อนก็ได้)เขาบอกว่าเป็นกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลกกกก
นานเหมือนกันกว่าจะถึงยอด ขาวโพลนไปเรย
รุ่นใหญ่ก็มา น่ากลัวจริงๆ :o :o
ด้านบนความสูง 4860 msl มีทางเดินไปเที่ยวธารน้ำแข็งแต่ถูกปิดเนื่องจากหิมะตก อดเรย มันมีทะเลสาบด้วย
Tear of Lake กลายเป็นน้ำแข็งไปแระ ตรงด้านหน้าก็เป็นธานน้ำแข็งล่ะ
เส้นทางการเดินที่บอกไว้ แต่ก็ไปไม่ได้สงสัยต้องมาน่าร้อน
ธารน้ำแข็งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหมดแล้ว
มันกว้างไปหมดไม่รู้จะถ่ายอะไรดี แต่ว่าแสบตามากเลยนะ ต้องหาแว่นกันแดดดีๆไปด้วย ที่สำคัญหนาวมากกก
ลองซูมไปยังยอดสูงสุด
ความอดทนใกล้จะหมด 5555
ไปๆๆ ลงๆๆ ไปเที่ยวจุดอื่นๆ จุดที่สวยๆ มีแค่ 2-3 จุดเอง
อีกภาพ
จุดแวะอีกจุด
อีกจุด แต่มันเมื่อยเลยล่ะ >:( >:(
นอกจากนี้ก็มีลิง มีม้า มีตัว Yuk ให้ดู
ลิง
และแล้วก็มาถึงข้างล่าง ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นภูเขาเลย
จบวันนี้ กลับ โรงแรมได้ แต่ก็หารถก่อน ถามๆ ไปๆ มาๆ ก็ได้รถกลับ แต่ไม่ใช่แทกซี่นะ เขาไปส่งให้ ราคาเรารู้อยู่แล้วขามา ไม่ต้องมาอัพให้เสียเวลานะคนจีน
26 ตุลาคม 61 นั่งรถประจำทางกลับ เฉิงตู และนั่งรถไฟความเร็วสูงไป ฉงชิ่งต่อ ถึงที่พักดึกเลย นั้งรถประจำทางเที่ยว 06.20 น. ตืนแต่เช้า แต่ลืมเอาสภาพภายในโรงแรมให้ดู ดูห้องครัวก่อนสะอาดนะ
อาหารเช้า
เจเจ๊ มีวอนัท กับผลไม้ต้อนรับอย่างดี เจเจ๊ พูดเพราะเสียงเบา ไม่เหมือนคนจีนทั่วไปจริงๆ ประทับใจมาก อ้ออีกอย่างนึง ได้ยินมาว่าที่เมืองเฮยสุ่ยนี่ รสชาติอาหารใกล้เคียงบ้านเรานะ จริงๆ กินมาแระ
จากนั่งก็นั่งรถยาวๆ ไปถึงเมืองเฉิงตู และก็ต่อรถไฟไปฉงฉิ่งถึงดึกเลย นอนๆๆ
27 ตุลาคม 61 เที่ยวในตัวเมือง นอนเต็มอิ่ม ก็มาเดินตลาดเช้ากัน ดูสิมีอะไรน่าสนใจ ผักที่นี่ใหญ่โตจริงๆ ผลไม้ก็รสชาติจัดจ้านมาก แต่แปลกใจการค้าสัตว์ ยังเป็นแบบนี้อยู่
มีการขายตรง เป็ดไก่ มาสั่งนี่ก็เชือดกันสดๆ เลย
หมูป่าเขี้ยวตัน
จากนั้นก็ไปเที่ยวดูตึกอารามบ้านช่อง แต่ผมว่าที่นี่รกไปหน่อย ไม่หน่อยสิรกมาก กำลังพัฒนากันอย่างเร่งด่วนเลย ไปที่แรก Chongqing Chaotianmen Square หมอกลงจัดเลย ฟ้าเน่าอีกแล้ว
แต่ผมแนะนำที่นี่นะ มุมถ่ายรูปเยอะค่าเข้า 30 หยวน อยู่ใกล้ๆ กับ Chongqing Chaotianmen Square เดินพอเหงื่อซึม Hugung Huiguan Complex
โรงละคร
ลานฝึกวิทยายุทธ ;D ;D ;D
ห้องแสดงดนตรี
ความเป็นอยู่สมัยก่อน
ห้องนอน ห้องรับแขกอยุ่ในห้องเดียวกัน
ที่นั่งนายท่าน กับนายหญิง ;D ;D
ไปเมืองโบราณ แต่กำลังปรับปรุงใหม่ ไม่มีไรน่าสนใจ
มีแต่แมวที่น่าสนใจ ที่เมืองเขาเป็นเนินเขาสูง สามารถมองเห็นวิวเมืองได้
แล้วเย็นไปถ่ายไฟ ที่ GREAT HALL OF THE PEOPLE
คนก็จะมาพักผ่อนกันเยอะ
ไปต่อที่ Dongshuimen Bridge
ปิดท้ายด้วยภาพนี้เมืองในหมอก หรือควันก็ไม่รู้ ขอบคุณครับที่ติดตาม