Hiking Thai
Hiking Thai => เที่ยวเมืองไทย..ยังไม่ไปก็รู้ => Topic started by: designbydx on มีนาคม 05, 2016, 08:33:18 pm
เป้าหมายหลักคือ เกาะบูโหลน จ.สตูล ก็เลยลองจัดทริปดู ว่าในเส้นทางนี้มีอะไรน่าเที่ยวบ้างสำหรับ 5 วัน สรุปแล้วได้ทริปดังนี้ รอบนี้เดินทาง 2 คนครับ แผนการเที่ยว 19 กพ. 59 17.00 น. กทม.-หาดใหญ่ (13 ชม) ป.1 ค่ารถ 747 บาท รถออกเวลา 16.30 น. สายใต้ใหม่ เรือออกจากปากบารา 13.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที 20 กพ.59 07.00 น. หาดใหญ่-ท่าเรือปากบารา(2ชม) ค่ารถ 100 บาท 11.00 น. ค่าเรือไปเกาะบุโหลน ไปกลับ 800 บาท 12.00 น. พักเที่ยวหาอาหารกินกัน 13.00 น. เที่ยวบนเกาะ (ตัวแทนนำเที่ยว 0899338800) 18.00 น. นอนเต๊น คืนละ 50 บาท 21 กพ.59 08.00 น. อาหารเช้า อาหารเที่ยงเตรียมเอง 09.00 น. ออกทะเลเที่ยวตามเกาะต่างๆ ค่าเรือ 1700 บาท (ขึ้น 200) 18.00 น. นอนเต๊น *ที่นี่ไม่มีไฟฟ้าใช้ จะใช้โซล่าเซล์ในการผลิตไฟ จะมีปัญหาการชาร์ทแบต รางไฟเดี๋ยวพี่เตรียมไปให้ *อาจมียุง ต้องเตรียมยากันยุง หรือหาเต๊นมุ้งไป 22 กพ 59 09.00 น. เดินทางกลับ รอ รถมารับไปบ้านบากันใหญ่เที่ยวตามแพคเกจเขา 2 วัน 1 คืน 2200 บาท (นำเที่ยว พี่บัง0815419448 (ใจดีมากๆๆ)) เขามีเฟสนะครับ ค้นคำว่า บากันใหญ๋นะครับ *นั่งรถจากท่าเรือปากบารา ไป อำเภอท่าแพ ลงหน้า รพ.ท่าแพ แล้วรถจะมารับอีกที(อันนี้ตกลงกับเจ้าของทัวร์ไว้) 23 กพ. 59 09.00 น. ออกเที่ยวตามโปรแกรม 17.00 น. เดินทางกลับขึ้นฝั่ง นั่งรถไปหาดใหญ่ 21.00 น. พักหาดใหญ่ 24 กพ. 59 09.00 น. เที่ยวในหาดใหญ่ (หาที่เช่ามอไซด์เที่ยว 250 บาท/วัน แต่ครั้งนี้ยืมเพื่อน) 14.00 น. ไปสนามบิน รอบินกลับ กทม. จบทริป สรุปค่าใช้จ่าย เกาะบุโหลน, บ้านบากันใหญ่โฮมเตย์ จ.สตูล 19-24 ก.พ.59 ลำดับ รายการ ราคา หมายเหตุ 1 ค่ารถ กทม.-หาดใหญ่ 747 2 ค่ารถ หาดใหญ่-ท่าเรือปากบารา 100 3 ค่าเรือไปกลับ ปากบารา-เกาะบุโหลน 800 (จะมีเฉพาะช่วงไฮซีซันนะครับ ถ้านอกเวลาจะต้องเหมาชาวบ้านเอา รู้สึกจะเที่ยวละ 4500 บาท) 4 ค่าเรือเที่ยวดำน้ำดูปะการัง 1700(เหมาลำ) 5 ค่าเช่าพื้นที่ตั้งเต๊น 2 คืน 100 6 ค่าแพคเกจเที่ยว บ้านบากันใหญ่ 2200 7 ค่าโรงแรมหาดใหญ่ 300 8 ค่าอาหาร 14 มื้อ 1400 ให้มือละ 100(ผิดคาดมากๆ อาหารบนเกาะบุโหลนแต่ละอย่างยืนพืนที่ 130-150 บาท/จาน กระเพาไก่ไข่ดาว 150 บาท :() 9 อื่นๆ 1000 10 ค่าเครื่องบินกลับ ประมาณ 800 บาท จำไม่ได้ จองไว้ข้ามปี 11 เฉลี่ยแล้วคนละประมาณ 7500-8000 บาท เอาเต๊นไปกางนะครับ จองที่พักไม่ได้ ราคาที่พักประมาณ 500-1500 บาท ค่ากางคืนละ 50 บาท/คน/คืน เลนส์ระยะ 10-24 หรือ ฟิตอายจะดีมาก(ไว้ถ่ายดาว) อย่าลืม CPL อย่าลืม กล้องถ่ายใต้น้ำVIDEO
แผนที่ตำแหน่งทีเที่ยว อยู่ตรงไหนของประเทศไทย
เกาะบุโหลน มีแต่ชาวต่างชาติ คนไทยจะน้อยมาก เงียบ สงบ เดินเที่ยวตามหาดได้สบายๆ แต่ละที่ห่างกันไม่มาก หมู่เกาะบุโหลน หรือ เกาะบุโหลน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ที่มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัดคือ ตรังและสตูล โดยเกาะบุโหลนอยู่ในเขตจังหวัดสตูล ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล สำหรับชื่อเกาะบุโหลนนั้น สันนิษฐานว่าเพี้ยนมาจากคำว่า บูโละ ในภาษามลายูที่แปลว่าไม้ไผ่ ที่มีบางข้อมูลได้บอกว่าในอดีตที่นี่(บางเกาะ)เคยมีไม้ไผ่อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งตามข้อมูลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ระบุว่า หมู่เกาะบุโหลนประกอบด้วย 5 เกาะ กับ 1 หิน ที่มา http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000014091 ภาพเกาะ เอามาจาก http://www.pansand-resort.com/ps_pic_tour/15_bulon_map.html
1.บุโหลนเล(บือซาค) 2. บุโหลนดอน(ดางาด) 3.บุโหลนไม้ไผ่(ตืองะ) 4. เกาะบุโหลนรัง(ซารัง) 5. เกาะบุโหลนไก่(อายำ) และ 1 หินนั้น คือหินขาว ที่หลายๆคนมักเรียกว่าเกาะหินขาว แต่อันที่จริงมันไม่ใช่เกาะ เพราะเป็นเพียงโขดหินใต้ทะเลที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเป็นแท่งหินสีขาว ที่มีทั้งส่วนที่ขาวเองตามธรรมชาติและขาวจากสีของขี้นกที่มาทิ้งบอมบ์ไว้อยู่เรื่อยๆ ที่มา http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000014091 *เราพักที่เกาะบุโหลนเล นะครับ สะดวกที่สุดแระ เกาะอื่นก็มีที่พักแต่เดินทางลำบากต้องหาเรือเช่าเองครับ กางเต๊นที่หน้าโรงเรียน ดูตามแผนที่คือตรงที่ You are Here นะครับ
มาถึงก็จัดการหาที่กางเต๊นก่อนเลย ครับ มีให้เลือกเยอะแยะ แต่มีข้อแนะนำนิดนึง 1.อย่ากลางติดหาดมากเพราะกลางคืนลมแรง มันมีทรายปนกับลมมาด้วย 2.พออยุ่ห่างจากหาดมันจะอับลมนิดนึง ร้อนอยู่ แต่ถ้าเอาเปลไป ฟินเลยนะครับ เจ๋ง 3.ห้องน้ำใช้ของโรงเรียน 4.ที่อาบน้ำเป็นบ่อซีเมนต์ต้องโยงน้ำอาบ อยู่กลางแจ้ง ครับ สาเหตุที่เราไม่จองที่พักเพราะว่า 1.แพง คืนละ 500 บาท ประหยัดค่าใช้จ่าย 2. ที่เกาะบุโหลนจะมีชุมชนเขาตั้งเป็นกลุ่มใช้ชื่อเฟสว่า TYC ชุมชนบ้านเกาะบุโหลน ก็อยากจะสนับสนุนให้ชุมชนมีรายได้ แต่บังเอิญเต็ม ภาพด้านล่างคือ ใกล้ถึงเกาะแระ
ที่พักเรายามค่ำคืน
ถ้าใช้เปล จะฟินมากอย่างนี้
บนเกาะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ กับปั๋นไฟใช้นะครับ ไม่มีไฟฟ้า แบตกล้องก็เตรียมไปเยอะ ผมจะชาร์ทแบทก็ไปเสียบที่บ้านพักครูครับ ที่นี่ไม่มีหมูนะครับ มีแต่ไก่ กับอาหารทะเล ภาพด้านล่างคือ คุณครูกับเด็กๆ
เด็กนักเรียนมาเรียนวันหยุดด้วยเหรอครับ ป่าวค่ะ มารอรับของแจกค่ะ
โรงเรียนบ้านเกาะบุโหลน ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล เต็นเราอยู่หน้า โรงเรียนนี้ล่ะ ;D
หลังจากลงเรือที่ปากบารา 13.00 น. เพื่อเดินทางไปยังเกาะบุโหลน ย้ำอีกครั้งนะครับว่าการเดินทางด้วยเรือบริการจะมีเฉพาะช่วงไฮซีซัน( มกราคม - เมษายน) ถ้าไปนอกเหนือเวลานี้จะต้องเหมาเรือชาวบ้านเองเที่ยวล่ะ 4500 บาท เราเดินทางมาถึงเกาะประมาณ 14.00 น.(เรือออกช้า) หลังจากกางเต๊นเสร็จก็เดินสำรวจกันเลย ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ (เส้นทางเดินตามแผนที่เป้นเส้นประสีเหลืองนะครับ)
ใครอยากถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นก็ถ่ายที่หาดหน้าโรงเรียนได้เลย แต่พระอาทิตย์ตกไม่มีมุมให้ถ่ายเลยเกาะบังหมด เดี๋ยวลองหาดูก่อนมีไหม เดินสำรวจเกาะก่อน เจอแต่ฝรั่ง
ทางเดินสะดวกเทด้วยคอนกรีต แต่รู้สึกว่ากำลังพัฒนาไปทางตะวันตก เหมือนหลีเป๊ เข้าไปทุกวันแระ
น้องที่เกาะบอกว่า คนมาที่นี่จะเป็นคนมีอายุ ต้องการความสงบ มาพักผ่อน พี่ว่าอีกหน่อยคงไม่ใช่แล้วล่ะ เขามีศูนย์ร้องทุกข์
ที่นี่อิสรามนะครับ ผมเผลอสั่งกระเพาหมูไปด้วยดีนะ ไม่โดนสับซะก่อน
เดินไม่กี่นาทีก็มาถึงอ่าวพังกาน้อย ไม่มีหาดอ่ะ น้ำลงโผล่หินเต็มไปหมด
แดดจัดมาก ดีนะที่เอา CPL มา ;D
เขาก็ไปเล่นน้ำดำดูปะการังกันนะ แดดเปรี้ยงๆ อย่างงี้ล่ะ
ปลิงทะเล
ที่จะแนะนำคือ ร้านอาหารที่อ่าวนี้ ร้าน Pin and Muda เป็นร้านที่ราคาพอสมเหตุ สมผลอยู่นะครับ เขาขายดีมาก น่าจะพอราคาถูกกว่าที่อื่นๆ ป้าใจดีนะครับ มีเรือนำเที่ยวด้วยติดต่อได้ที่ 0980584925 ผมว่าน่าจะสะดวกนะครับ ให้เขาเตรียมอาหารให้ด้วยตอนออกเรือ
ถ้าใครอยากชิมอาหารแบบพื้นบ้านที่ชาวเกาะเขากินกันก็สั่งได้นะครับ อาหารที่นี่จะไม่มีการทำค้างไว้นะครับ สั่งแล้วถึงทำ ฟินมากกก เรื่องอาหาร ชอบบบบ ;D เผ็ดมากๆๆ มื้อนี้คนละ 200 บาท :P
เดินต่อไปอ่าวพังกาใหญ่ ลักษณะภูมิประเทศจะเหมือนอ่าวพังกาน้อย แต่เราจ้ผ่านหมู่บ้านชาวเล และ ก็มัสยิด ด้วย
ร้อนก็เลยนักพักถ่ายรูปเล่นก่อน
เราพักกินข้าวที่นี่นะครับ หิว แต่จำได้เหมือนเพิ่งกินมา ;D
แต่เดียวก่อนโปรดพิจารณา จึงเป็นสาเหตุให้ กินอย่าให้เหลือเด็ดขาด
ช่างเหอะ มาแล้วก็เสพกับธรรมชาติดีกว่า ลืมไปก่อนพักนึง
มีเรือมาเพิ่มจุดน่าสนใจ
ยามเย็นจะไม่เห็นพระอาทิตย์ตกอย่างที่บอก มันลงหลังภูเขาอ่ะ :'(
แต่สวยนะชอบบบบ :o
อีกรูป
ถ่ายมาเยอะ ก็ลงให้ดูเยอะ 5555
แสงหมดแระ ไปก่อน ที่ได้ดูแสงเย็นนี่คือมาถ่ายอีกวันนะครับ เราอยู่ที่นี่สองคืนครับ
ไปต่อไปอ่าวม่วง หรืออ่าวมะม่วง ส่วนที่มีจุดเที่ยวรอบๆ เกาะที่ไม่มีเส้นทางเดิน ต้องนั่งเรือไปดูนะครับ
ทำไมถึงชื่อว่าอ่าวม่วง เพราะเมื่อก่อนมีมะม่วงต้นใหญ่อยู่นะครับ แต่ตอนนี้มันตายเหลือแต่ตอไปแล้ว (อยู่ตรงธงนั่นล่ะ)
ระหว่างทางเราจะผ่านสวนยางพารา
อ่างเก็บน้ำที่ขุดขึ้นมาเพื่อเก็บน้ำ
มาถึงแล้วอ่าวม่วง ก็จะมีอุปกรณ์ประมงเต็มไปหมด
ที่นี่เป็นท่าเรือที่สำหรับลำเลียงสัตว์น้ำที่จับมาได้ขึ้นฝั่ง แล้วจะมีพ่อค้ามารับซื้อ แล้วนำไปขายที่แผ่นดินใหญ่อีกที
กะมาซื้อปู นักท่องเทียวนิยมมาซื้อ แล้วเอาไปให้ที่รีสอร์ททำให้กิน แต่เรานอนเต๊นจะทำกินไงล่ะ แต่วันนี้ปูหมด อยากกินต้องมาช่วงเช้า 10.00 น ตอนนี้เหลือแต่ปลาหมึก
บ้านที่อยุ่จริงๆ เหมือนไม่ได้อยู่อาศัยหลัก แต่ทำเพื่อพักตอนมาทำประมง บ้านหลักจะอยู่บนฝั่ง
แต่ดูเหมือนจะเคยมีการ เวรคืนที่เกาะกันนะครับ แต่เขาก็ต่อสู้จนได้อยู่ถึงทุกวันนี้
มีการแสดงให้เห็น บรรพบุรุษ สืบเชื้อสายกันมา 40 กว่าปีที่แล้ว
ชาวอุรักลาโว้ย หมู่เกาะบุโหลนเป็นที่พักของชาวเล มาตั้งแต่ดั้งเดิม ชาวเล หรือ ชาวอุรักลาโว้ย อพยพมาจากหมู่เกาะแถบประเทศอินโดนีเซีย มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในแถบทะเลอันดามันตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีอาชีพหลัก คือทำประมง ชาวเลแห่งหมู่เกาะบุโหลนตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะใหญ่ 2 เกาะ คือ เกาะบุโหลนดอน และเกาะบุโหลนเล ผุ้คนเหล่านี้ปรับตัวใ้ห้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ป้ายเขาบอไว้งี้นะ
และแล้วเราก็เจอจุดที่จะถ่ายพระอาทิตย์ตกได้ ลุงบอกว่าไปตรงนี้สิมองเห็น ช่วงบ่ายๆ น้ำจะลงนะครับเดินไปได้ วิวสวยอยู่นะ แต่เราเลือกไม่อยู่เพราะไม่มีไฟฉาย เดียวตอนเดินกลับลำบาก น้ำก็ขึ้นด้วย แถมเหม่มมมม ทำขาตั้งกล้องหายอีก เซ็งจิต >:(
ระหว่างเดินไป น้ำลง ก็สวยอยู่นะ
เนื่องจากเป็าเรือประมง เราก็จะมีเห็นศพเกลื่อนหาดอยู่
อีกตัวนึง (ตัวอย่าง)
และแล้วก็มาถึงจุดชมวิวของเรา พระอาทิตย์กำลังเลื่อนลงมาหาผิวน้ำ อืม น่าจะเห็นพระอาทิตย์ตกอยู่นะตำแหน่งนี้
แต่เราไม่อยู่ใครอยากอยู่ก็เชิญ ตามสะบาย จะบินกลับล่ะ ;D
เอามั่ง เดี๋ยวเสียเที่ยว
หมดแล้วกับวันแรก ต้องนอนก่อน แต่ๆๆๆ เดี่ยวก่อน เจอข่าวนึงเขาบอกว่าเราจะเห็นทางช้างเผือกตลอด กพ โดยเฉพาะทางภาคใต้ ด้านทิศตะวันออก พอดีเป๊ะ เลย อยู่ตั้งเต๊นด้านทิศตะวันออกพอดี หาดก็กว้าง ฝันถึงทางช้างเผือกกกกก ง่ะ เห็นแต่ดวงจันทร์
จริงๆ เขาบอกว่าจะเห็นชัดสุดช่วง 05.30-18.00 นะครับ ผมแหกตาตื่นตั้งแต่ดี 4 ดวงจันทร์ยังไม่ลับขอบฟ้า
และแล้วความฝันก็เป็นจริง :o เต็มๆๆ ครับ เต็มๆๆVIDEO
รออะไรล่ะ ขอเป็นส่วนนึงของทางช้างเผือก
พระอาทิตย์ขึ้นแระ
อืม บรรยากาศดี
สวยอ่า
จะเห็นว่าอยู่แถวหาดหน้าโรงเรียน เจ๋งสุดนะครับ 8) ออกกำลังบ้าง ไรบ้าง
บรรยากาศตอนเย็นครับ ประมาณนี้ เห็นดวงจันทร์ กับเทพเจ้าผ้าขาวม้า 5555 เพิ่มสีชมพูเข้าไปน่ะเดี๋ยวจะดูเถื่อนไป
อีกภาพ
อีกด้านของหาด ฟ้ากำลังสวยเชียว
ตื่นเช้ามาวันที่สอง รอเรือมารับไปดำน้ำ ก็นิดนึงครับระหว่างรอ 5555
เดินตามหาดไปเรื่อยๆ อ้าว มีแบบนี้ด้วยเหรอ
อ้าว ดูแล้วเหมือนคนกำลังลากเพื่อนลงไปในน้ำ
จะได้ออกทะเลไหม ว้าาาา
นั่นไง ว่าแล้ว เจ้าของเรือบอกว่าวันนี้คลื่นลม แรงออกไม่ได้ >:( เนื่องจากมีพายุ อ้าววววว รออะไรกลับสิ เรือออกจากเกาะ 09.00 น. นะครับ มีรอบเดียว การลงเรือจะมีต้องต่อเรือหางยาว ไปเข้าออกฝั่งเกาะ คนละ 50 บาท/ครั้งนะครับ
ตอนแรกตั้งใจจะอยุ่ต่อ และจะยกเลิกทริป บ้านบากันใหญ๋ แต่ดูทรงแล้วคงไม่ได้ออกอีก ก็เลยตัดสินใจเดินตามแผนเดิม นั่งเรือจากเกาะ-ปากบารา-นั่งรถ 2 แถว ไปลงหน้า รพ.ท่าแพ-รถสามล้อมารับไปลงท่าเรือ
เป็นทาเรือสาธารณะทั่วไปน่ะครับ
เจอป้ายแล้ว มาไม่ผิดล่ะ
เรือลำใหญ่มากๆๆ มารับเรา แค่สองคน ราชาสุดๆ ;D
ดูก่อนลำใหญ่แค่ไหน
ตำแหน่งบ้านบากันใหญ่
มาถึงแล้ว
เก็บป้ายสักหน่อย เป็นหลักฐาน
ก่อนอื่น มาที่นี่จะบอกว่ามีข้อมูลน้อยมากๆ แต่ก็ยังติดสินใจมา เพราะเพื่อนบอกว่าสวย แต่ในรายละเอียดที่เฟสบุคของเขาเองไม่ได้บอกอะไรมากเท่าไร เดี๋ยวจะสรุปให้ฟังนะครับ 1. ที่นี่ไม่ได้เน้นท่องเที่ยวเป็นธุรกิจ เน้นการทุ่งเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 2. ราคาที่ได้รับ ก็เป็นราคาสมเหตุผล 3. ทริปที่ไปเป็นแบบ 2 วัน 1 คืน คือ ไปถึงตอนไหน กินตอนไหน ก็นับเป็น 1 มื้อ คืออาหารให้ 3 มื้อ 4. ที่พัก 1 คืน ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม แต่ก็ไม่ร้อนนะครับ 5. เส้นทางรอบเกาะ เชื่อมระหว่างหมู่บ้าน เป็นทางคอนกรีต ขี่จักรยานได้ ที่โฮมเสตย์ มีให้ใช้ฟรี 6. น้ำจะลงประมาณ 4 โมงเย็นจนถึงเช้าอีกวัน สามารถเดินเที่ยวได้ ไปยังเกาะอีกเกาะได้ แต่ไม่เดิน กลัวอ่ะ 7. จะต้องรีบออกจากโฮมสเตย์ก่อนเที่ยง เพราะน้ำมันจะเริ่มลง และเรือจะออกไม่ได้นะครับ มาถึงปุ๊ก ก็กินก่อนเลย 555
ใครที่ชอบถ่ายภาพ ผมว่ามีมุมให้ถ่ายเยอะมากๆๆๆ เงียบด้วย ไม่มีฝรั่ง เขาเน้นอนุรักษณ์นะครับ
หลักฐานยืนยัน
ข่าวที่เผยแพร่ไปส่วนใหญ่เป็นข่าวการอนุรักษ์ ไม่ใช่การท่องเที่ยว จึงไม่ค่อยมีใครสนใจกัน แต่ขอแนะนำเลยที่นี่เจ๋งมากๆๆๆๆ :o :o ดูสิ สบายแค่ไหน
กินข้าวเสร็จก็สำรวจเกาะ หน่อยนึง รอเวลาตอนสี่โมงเย็นไปดูปะการัง
น้ำลง ก็เห็นหลังมังกรแดง
ทอดยาวไปกลางทะเล
ความคิดก็แล่นมาทันที ต้องท่านี้
เอาแต่งสักหน่อย ชอบอ่ะ
น้ำลงจนเห็นผืนโคลนกว้างใหญ่
กว้างพอไหม
อยากเป็นคนเรือหาปลาบ้าง
เรือ รอน้ำขึ้น จะได้ออกทะเลอีกครั้ง
ตอนนี้ก็รอกันไปก่อนนะ
ได้เวลาไปดูปะการังแล้ว เดินประมาณ 20-30 นาที ผ่านต้นไม่ที่มีรูปทรงประหลาดๆ ชอบมากๆ
คนนำทางลิ่งไปโน้นแล้ว มัวแต่ถ่ายรูป
ถึงแระจุดดูปะการัง งง ล่ะเซ่ น้ำทำไมตื้นจัง การดูปะการังที่นี่ไม่ต้องดำน้ำลึกครับ แค่เอาหน้าจุ่มน้ำก็เห็นปลาการ์ตูนแล้ว มีบางอย่างจะแนะนำครับ 1. ที่นี่เที่ยวได้ทั้งปีไม่ต้องรอน่าอะไรทั้งนั้น 2. มาเที่ยวให้มาช่วงน้ำใหญ่(น้ำเป็น) เพราะจะมีการเปลียนระดับน้ำขึ้นลง ทำให้สามารถดูปะการังโดยไม่ต้องดำน้ำได้ ถ้ามาช่วงน้ำตาย น้ำจะลงไม่มากโอเค๋ เข้าใจ๋ น้ำใหญ่ ก็ 15 ค่ำ - แรม 2 ค่ำประมาณนี้
เห็นไหม ปลาดาววว
เห็นไหมปะการังสมอง
เห็นไหม ปะการัง ที่ปลาการ์ตุน ใช้อาศัย
เห็นไหม ปลิงทะเล
สีเพี้ยนนะครับ เพราะเอา filter ใส่ผิด น้ำตื้น ไม่ต้องใส่ filter ก็ได้ ปะการังต้นไม้VIDEO ปลาการ์ตูนVIDEO ปะการังสมองVIDEO
ระหว่างเดินทางกลับ คนนำบอกว่าให้ถ่ายที่นี่พระอาทิตย์ตก เหมือนอยู่หลังช้างไหม เขาถาม
เหมือนก็เหมือน พระอาทิตย์ตกที่นี่ก็สวยดีนะครับ
หน้าที่พักครับ วิวนี้
อีกใบ
และแล้วก็ได้เวลาที่เรารอคอย อาหารเย็นนนน ;D
จุดที่พักจะเป็นวิว พระอาทิตย์ตก ถ้าพระอาทิตย์ขึ้นต้อง ขีจักรยานไปหมู่ 3 ห่างจากที่พักประมาณ 3 กม. โอเค ลุยยยย
ขี่จักรยานมาก็ต้องเอาเข้าฉากด้วยนิดนึง 8)
ไม่เสียแรงที่ตื่นแต่เช้า
ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
หิวแระ กลับได้ เส้นทางที่เราปั่นผ่านเมื่อคืนนี้
สวนมะพร้าว
หลังจากข้าวเช้าวเสร็จ ก็พาเราออกทะเล ไปเกาะค้างคาวแม่ไก่ เกาะหินดำ และเกาะหินแดง จะบอกว่าร้อนนนนมากกกก ร่มเล็กไปน่ะ
เรามาเกาะหินดำก่อน ซึ่งเป็นที่อยุ่ของค้างคาวแม่ไก่ ที่เห็นด้านหลังน่ะครับ
ขึ้นเกาะมาก็จะเจออออ ชิงช้างพันปี
เขาจะพาเดินรอบเกาะ ก็จะมีสตอรี่ต่างๆ ที่ผูกให้เข้ากับปรากฏการณ์ ภูมิประเทศเกาะน่ะครับ หินดำ
หินรอยเท้า ไม่เหมือนอ่ะ
หินใกล้ล้ม เขาบอกว่าประหลาดมาก มันน่าจะล้มได้แล้ว
และก็วนขึ้นดูค้างคาว แต่ไม่ขึ้นอ่ะ เหนื่อย กลับมายังเรือ เขาจะให้เล่นน้ำ ก็ไม่เล่นร้อน เยอะนะ 5555
ไปต่อเกาะหินแดง หินคล้ายๆ หินศิลาแลงเลย แต่ขยะทำไมเยอะ เขาบอกวา คนที่มาพักบนเกาะ ที่มาทำมาหากิน ทิ้งขยะไว้
เกาะไม่ใหญ่นะครับ มีพื้นที่ให้เดิน นิดเดียว
จบทริปแล้วเตรียมตัวเดินทางกลับ ไปหาดใหญ่ รอขึ้นเครื่องกลับ กทม. ปิดท้ายด้วยภาพวิว เมืองหาดใหญ่ ขอบคุณครับ ที่ติดตาม
:o :o รูปสวยทั้งน้านเลย อยากไปถ่ายรูปแบบนี้บางค่ะ
ถ้าจัดทริปที่นี้อีก ขอแจ่มด้วย 1 คนนะค่ะ อย่างไปถ่ายรูปค่ะ ;D ;D (น่าสนใจ สวยงามทุกที่ ที่สำคัญคนไม่เยอะ ชอบๆ)
ถ้าจัดทริปที่นี้อีก ขอแจ่มด้วย 1 คนนะค่ะ อย่างไปถ่ายรูปค่ะ ;D ;D (น่าสนใจ สวยงามทุกที่ ที่สำคัญคนไม่เยอะ ชอบๆ) แสดงว่าเริ่มเสพ กับความสันโดษแล้วน่ะ ห้างก็จะไม่เดิน จะไปในที่ๆ เขาไม่ไปกัน หรือที่ไม่มีคน จะพูดน้อยลง คิดมากขึ้น ;D ขอบคุณนะครับ ที่ยังจำ รหัสผ่าน ได้ ;D ;D
ห้างก็เดินบางนิดหน่อย จะไปในที่ที่มีคนบางนิดหน่อยค่ะ แต่รักสันโดษนะ ;D ;D ที่จำรหัสผ่านได้ เพราะว่า ตั้งรหัสไว้ง่ายมากๆ ค่ะ ;D ;D
ชอบรูปหน้าเวปค่ะ สวยๆ เทคนิคสุดยอด (เมื่อไรจะเปิดคอร์สสอนเทคนิคในการแต่งภาพละค่ะ)
ชอบรูปหน้าเวปค่ะ สวยๆ เทคนิคสุดยอด (เมื่อไรจะเปิดคอร์สสอนเทคนิคในการแต่งภาพละค่ะ) ต้องไปเที่ยวด้วยกันสิครับ ;D
มารายงานตัวครับ รูปสวยครับ
มารายงานตัวครับ รูปสวยครับ 555 นึกว่าลืมพาสเวริดไปแระ ขอบคุณครับที่ชม ;D ;D