Hiking Thai
Hiking Thai => เที่ยวเมืองไทย..ยังไม่ไปก็รู้ => Topic started by: designbydx on ธันวาคม 04, 2019, 06:38:12 am
-
โอ๊ยเดินไม่เยอะหรอก ชิวๆ เอ่อ น่าจะคิดผิด 555555 แต่ก็ไม่ได้จะเดินยากจนเกินไปนะ ข้อสังเกตุ ยอดขุนตาล กับสถานีรถไฟขุนตาน สะกดไม่เหมือนกันนะ ทริปนี้เป็นการปิดท้ายเดินเนื่องจากจะต้องซ่อมเข่าก่อน กลัวจะไปเดินทริปต่อไปไม่ได้
ทางเดินที่นี่ชัดเจน ไม่มีหลงหรอก แต่เราโชคดีวันที่เราไปมีน้องนักเรียนมาทัศนศึกษา อืมจากอากาศหนาว ก็อุ่นขึ้นมาทันที ระยะทางเดินไป-กลับประมาณ 11 กม.
มีรถรับส่งจากจุดเริ่มต้นเดินไปยังสถานีรถไฟ หรือ ไปที่ทำการอุทยานด้วยด้วย 50-100 บาท แล้วแต่จำนวนคน
บริเวณป่าดอยขุนตาลในท้องที่ตำบลทาปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และตำบลบ้านเอื้อม อำเภอเมืองลำปาง ตำบลเวียงตาล ตำบลวอแก้ว อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ดอยขุนตาลได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 10 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2518 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 255.29 ตร.กม.(159,556.25 ไร่) ที่มา โบชัวของอุทยาน
พักที่ไหนดี (ย ย่อมาจาก ยุทธศาสตร์)
1. พักที่จุดลานชมดาว รถถึงสะดวก แต่ถ้าจะขึ้นยอดจากที่พักชมดาวประมาณ 1 กม.(จุดเริ่มต้นสามารถใช้รถได้ไปถึงจุดปล่อยตัวเลย) ถ้าเดินก็เหนื่อยเหมือนกันนะ 5555
2. ย 1 ไม่นิยมพักกัน
3. ย 2 นิยมพักกัน มีห้องน้ำ มีน้ำประปาภูเขา แต่ไม่มีไฟ อยู่ห่างจากจุดเดินประมาณ 1.3 กม.
4. ย 3 นิยมพักกัน มีห้องน้ำ มีไฟฟ้านะ(คิดว่า) แต่เป็นที่ของ ม.บูรพา ต้องเสียตังค์กางเต๊นท์ 100 บาท(ย3 ห่างจาก ย2 3 กม.)
5. ย 4 จุดสูงสุด จุดชมวิว(ย4 อยู่ห่างจาก ย3 แค่ 1 กม.)
ประวัติอ่านจากที่นี่นะ
https://readthecloud.co/khuntan-railway-station/
*** การจองตั๋วรถไฟไทย กทม.-ขุนตาน
1. ระบบออนไลด์จองได้สูงสุดครั้งละ 4 ที่ และแต่ละที่จะต้องมีรายละเอียดบัตรประชาชนของแต่ละคน แต่ตอนซื้อหน้าตู้ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลทุกคน (อืมมม ทำไมนะ)
2. จำนวนที่นั่งที่มีในระบบออนไลด์ จะไม่ได้แสดงยอดที่นั่งว่างทั้งหมด กรณีในออนไลด์เต็มให้ไปสอบถามที่หน้าตู้ เพราะเขาแบ่งกันขาย (ไม่รู้ทำไม)
3. สามารถคืนตัวได้ แต่ถ้าคืนใกล้ๆวันไปตั้งแต่ 3 วันจะมีค่าปรับ ยิ่งใกล้ยิ่งปรับเยอะ
4. ราคารถนอนเหมือนกันแต่ทำไมราคาไม่เท่ากัน เท่าที่จับใจความได้คือรถเก่าจะถูกกว่า รถใหม่ก็จะแพงกว่า(นึกว่าจะต่างกันที่บริการซะอีก)
5. สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้
กล้อง Fuji xe3+18-135mm
ขอบคุณแบบในเครือด้วยนะคับ
-
เราเดินทางด้วยรถไฟตอนประมาณ 18.00 น. จาก กทม. ถึงสถานีรถไฟขุนตานประมาณ 06.00 น. ของอีกวัน อากาศดี พร้อมกับความตกใจเล็กว่า ทำไมคนลงเยอะจัง 5555
-
เวลาเยอะแยะ ก็เดินสำรวจสักหน่อย ไปดูสิประวัติศาสตร์อุโมงค์ขุนตาน มีความยาว 1,352 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2450 สมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2461 อ่านประวัติละเอียดตามลิงค์ด้านล่างนะครับ อ่านสนุกดี
https://readthecloud.co/khuntan-railway-station/
-
วิศวกรชาวเยอรมันผู้คุมงานก่อสร้างอุโมงค์
-
อาคารสถานีเดิม อนุรักษ์ไว้(แน่ใจนะว่าอนุรักษ์) ด้านในจะมีประวัติต่างๆ ให้อ่าน แต่ปล่อยให้โทรมไปหน่อยนะปรับปรุงด่วนๆๆ
-
รอถ่ายรถไฟวิ่งผ่านอุโมงค์ ลืมทำการบ้านถ่ายมุมไหนดี
-
สักมุมละกัน
-
ภายในอุโมงค์ คำเตือนก่อนเข้าก็ตรวจสอบรอบรถไฟก่อนนะครับ ว่าจะมาตอนไหนเดี๋ยวออกไม่ทัน จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไป
-
ถ่ายออกมาด้านนอก
-
กินข้าวเสร็จได้เวลาเดินจากสถานีรถไฟ ไปยังที่ทำการอุทยานกัน คนทียืนต้อนรับผู้ชาย ชื่อ ลำพูน ลำใย ส่วนคนด้านขวาผู้หญิงชื่อ ลำพูน ลำปาง
-
ระยะทางประมาณ 1 กม. เดินให้เมื่อยเนอะ
-
จุดขายคือเส้นแบ่งเขต 2 จังหวัด ลำพูน ลำปาง
-
ดูแผนที่สามมิติกัน จริงจุดปล่อยตัว และรถวิ่งมาส่งได้ จะอยู่ระหว่างที่ทำการอุทยานกับ ย1 นะ เราไม่มีรถก็เลยต้องเดิน
-
หลักกิโลของกรมโยธาธิการ
-
วิวก่อนถึงจุดปล่อยตัว
-
และแล้วเราก็มาถึงจุดเริ่มเดิน จะมีการตรวจสอบขยะที่เอาขึ้นไป ตอนลงก็ต้องเอาลงมาด้วยนะ อย่าทิ้งไว้ข้างบน
-
ไปดูแผนที่เส้นทางที่แนะนำกันหน่อย มีน้ำตกนะ แต่เขาบอกว่าไม่มีน้ำ
-
เส้นทางเดินทำไว้ให้เดินง่ายๆ นะ มีบริการจ้างแบกของด้วย จากจุดนี้ กก. ละ 20 บาท ส่งแค่ ย2
-
เดินมาแค่ 300 ม. เราก็เจอ ย 1 แระ
ย1 ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ดอยขุนตาลเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ สูงจากระดับน้ำทะเล 900 ม. ในปี 2460 การรถไฟแห่งประเทศไทยสร้างบ้านพักใช้เป็นที่พักแรมของ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เมื่อครั้งเสด็จมาเป็นแม่งานในการก่อสร้างอุโมงค์ขุนตาล ในปัจจุบันเป็นบ้านพักของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแล
-
ลานกางเต๊นท์ ย1 ไม่นิยมจ้าใกล้ไป
-
รออะไรอยู่ไปต่อ ย2 กันเลยอีก 1 กม.
-
ทางเดินง่ายโล่งๆ เดินช้าๆ แต่เราเลือกเดินทางยาก 55555 เลือกทำไมให้เหนื่อย สรุปเด็กหลอก ตามมาๆ พี่ทางนี้ทางลัด จริงๆ ไม่ลัดหรอก 555
-
แต่มีดอกไม้ให้ดูตามทาง
-
ไม่รู้ดอกอะไรสวยดี
-
แล้วเราก็มาเจอทางสะดวก ที่พี่เจ้าหน้าที่นั่งอยู่ เอ้า ทำไมมาทางนี้ ::) ::)
แต่รู้ไหมว่าเส้นที่เราเดินมาเป็นเส้นที่ ร9 เสด็จมาสำรวจนะ และมาประทับที่หินก้อนนี้
-
และได้สลักวันที่ประทับไว้บนหินด้วย อ่านไม่ออก ปัจจุบันมันค่อนข้างจะเลือน :o :o :o เรานี้โอ้โหววววว จริงเหรอเนี่ย
-
ระหว่างทางจะมีเก้าอี้ ให้นั่งพัก ได้ความว่าจะมีบุคคลสำคัญ มาเยือน จึงทำรองรับไว้เป็นระยะๆ
-
100 ม. มีอีก
-
จากบันไดนี้ไปก็จะถึง ย2 แล้ว
-
ถึงล่าววว ย2 หมู่บ้านเล็กมีให้เห็น
ย2 สูงจากระดับน้ำทะเล 1,035 ม. หลายปีที่ผ่านมาพื้นที่บริเวณ ย2 เป็นที่พักของบริษัททำไม้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัททำไม้ได้เงียบหายไปเพราะบริเวณพื้นที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีได้ซื้อพื้นที่ดังกล่าวเพื่อทำสวน และสร้างบ้านพัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เคยเสด็จประพาสเมื่อปี พ.ศ.2512 และ พ.ศ.2516 :o :o :o
-
เราเลือกที่เหมาะๆ ได้แล้ว สร้างบ้านกัน
-
และก็ทำอาหารง่ายๆ กินกัน เดี๋ยวไปถ่ายรูปตอนเย็นแล้วไม่มีเวลา ไฟฟ้าไม่มีนะ
-
จุดชมวิวจะแคบๆ หน่อย ถ่ายได้แต่มุมบังคับ
-
ดาวมาเรียงเดือนให้ดูด้วย
-
เราต้องรีบเข้านอนเพราะต้องตื่นตีสามเดินขึ้นยอด จริงๆ ถ้าเดินเร็วตื่นตีสี่ก็ได้ครับ เดินไปพักไปก็ถึงแล้วววววว
ก่อนไปถึง ย4 เราจะผ่าน ย3 ก่อนนะ กลับมาถ่ายขากลับ
ย3 สูงจากระดับน้ำทะเล 1,225 ม. หลังจากสร้างทางรถไฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะมิชชันนารีอเมริกันคริสตจักรได้มาทำการสร้างบ้านพักในบริเวณนี้ และจะมาพักผ่อนทุกเดือนเมษายนของทุกปีในปัจจุบันบ้านพักดังกล่าวได้อยู่ในความดูแลของมหาวิทยาลัยพายัพ
-
บ้านพักของมิชชันนารี
-
โรงอาหารสำหรับเข้าค่าย
-
วิวที่ ย3 ประมาณนี้มีมุมเดียว
-
ย้อนกลับไปที่การเดินต่อ มาถึง ย4 แล้ววว
-
ย4 สูงจากระดับน้ำทะเล 1,373 ม. เป็นจุดยุทธศาสตร์สูงสุดของดอยขุนตาลในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ใช้เป็นบริเวณส่งกล้องจังหวัดลำพูนและลำปางได้ชัดเจน
-
พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว
-
จุดที่เขาทำไว้ส่องกล้อง
-
เก็บหลักฐานไว้ก่อน เดี๋ยวเพื่อนไม่เชื่อ
-
คนเยอะไปหน่อย แต่ก็แบ่งๆ กันถ่ายไป ขึ้นมาเหนื่อยส่วนผมก็ ค่อยๆ เดินลงเจ็บเข่ามาก ขอบคุณครับที่ติดตามกันมาตลอด