Hiking Thai
Hiking Thai => เที่ยวนอกบ้าน...นอกเมืองไทย => Topic started by: designbydx on มกราคม 02, 2013, 11:12:32 pm
-
วันนี้จะมาแนะนำทริปแบกแพค ไปท่องเที่ยวลาวเหนือกัน(23 ธ.ค. 55-2 ม.ค. 56) โดยได้ตั้งโปรแกรมไว้ที่ 10 วัน และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยยอมให้วันละ 1,000 บาท โปรแกรมคร่าวๆ มีดังนี้
23 ธ.ค. 55 เดินทางออกจาก กทม. ด้วยสายเดินรถ กรุงเทพฯ-เวียงจันทร์ เพิ่งเปิดเมื่อเดือนตุลาคม 55 นี้เอง มีเที่ยวเดียว 6 โมงเย็น ราคาตั๋วประมาณ 900 บาท รถค่อนข้างใหม่ นั่งสบาย นอนก็สบาย อันนี้ถูกใจหลาย และก็ต่อรถไปหลวงพระบางเลย อันนี้ถ้าไม่ไหวก็พักที่วังเวียงก่อนก็ได้ 1 คืน(คือว่าพลาดไปแล้วล่ะ) โค้งเยอะไปหมด ใครเมารถก็อัดยาซะนะ รถที่ต่อจากเวียงจันทร์ไปหลวงพระบางก็มีหลายเที่ยว มีรถธรรมดา แอร์ และด่วน ค่ารถไปประมาณ 520 บาท ถ้าเดินทางด้วยรถ VIP ก็เอาตั๋วแลกอาหารเที่ยงได้ อาหารส่วนใหญ่ก็เป็นเฝอ( เหมือนก๊วยเตียวบ้านเรา)
24 ธ.ค. 55- 26 ธ.ค. 55 กะว่าเที่ยวหลวงพระบาง 3 วัน น่าจะครอบคลุมทั้งหมด ตั้งใจเก็บวัดกัน และถ่ายพระอาทิตย์ วิว น้ำตก ด้วย ซึ่งได้เลือกเดินทางด้วยการเช่ามอเตอร์ไซด์ ฮอนด้าเวฟ ใหม่เชียว พร้อมหมวกกันน็อคอีก 2 หน่วย หาแผนที่มาไว้ พร้อมแล้วก็ลุยเลยยย ค่าเช่ามอไซด์ประมาณ 360 บาทต่อวัน ถนนดีนะที่นี่
27 ธ.ค.55-28 ธ.ค. 55 เดินทางมาเที่ยวเมืองเชียงขวาง อยากไปทุ่งไหหิน ซึ่งมีถึง 3 แห่งด้วยกันเป็น มรดกโลกด้วย น่าตื่นเต้นใช่ม้าาา อันนี้ผมไปกับทัวร์ เพราะว่าไม่เหมาะการเดินทางด้วยมอไซด์เช่า เพราะว่าถนนเป็นดินแดงฝุ่นเต็มไปหมด หัวแดงกันเลยล่ะ อีกอย่างแต่ละสถานที่อยู่ห่างกันมาก และอีกอย่างมีแต่มอไซด์จีนให้เช่า แต่ก็เช่าเอาไปขับชมเมืองเล่นครับ ค่าเช่าประมาณ 300 บาทต่อคัน
29 ธ.ค.55-31 ธ.ค. 55 เดินทางมาเที่ยววังเวียง ส่วนมากจะเป็นถ้ำ และก็มีน้ำตกแต่น้ำน้อยมาก วัดก็สวยสู้หลวงพระบางไม่ได้ ไม่รู้จะมาเที่ยวเอาอะไรกัน และก็ดังจากอะไรยังหาไม่เจอ อันนี้ก็เหมือนกันต้องเช่ามอไซด์เที่ยวราคาถูกเฃ่นกัน เป็นมอไซด์จีน ขับก็ต้องระวังเหมือนกันเพราะถนนก็เป็นดิน ถนนทำจากินก้อนใหญ่ๆ กระโดดดีแท้ล่ะ ที่นี่มีบอลลูนชมวิวมุมสูงด้วยแต่คนละ 80 ดอลล่าล่ะ
1 ม.ค.56- 2 ม.ค.56 ตอนแรกกะว่าจะอยู่เที่ยวเวียงจันทร์ แต่อยู่ไม่ได้เพราะตังค์หมดดด ก่อน
คร่าวๆ ไปก่อนเดี๋ยวจะลงรายละเอียดให้นะครับ
-
มาดูแผนที่รวมกันก่อนว่าไปเมืองไหนบ้างและนั่งรถกันกี่ชั่วโมง
- รถบริการมีทั้งแบบของ บขส. และรถตู้บริการ(ขับเร็วมาก) เหมือนๆ บ้านเรา แต่ราคา ก็จะไม่ค่อยมีมาตฐาน บางที่ก็แพง บางที่ก็ถูก
- รถ บขส. จะเป็นรถบัส นั่งจะสบาย เหยียดขาได้ แวะบ่อย มีห้องน้ำ ถึงช้า
- รถตู้บริการ นั่งเบียด(นั่งท่าบังคับ) แวะตามใจคนขับ เข้าห้องน้ำตามป่า รถจะขับเร็ว ไม่เหมาะกับคนที่เมารถง่าย โค้งเยอะมาก
- ความเร็วจะเร็วกว่ากันประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- บริการเที่ยวรถจะน้อย มีช่วงเช้า กับช่วงบ่าย ต้องวางแผนดีๆ สำหรับการเดินทาง
- เวลาที่แสดงเป็นเวลาของรถ บขส. นะครับ อาจจะผิดพลาดเล็กน้อย ขออภัยดูเป็นแนวทางละกันนะ
-
เดินทางรวดเดียวจากกรุงเทพฯ ออกตอน 2.30 น. มาถึงเวียงจันทร์ประมาณ 7.00 น. นั่งรถไป บขส. เหนือ( จริงๆ รถกรุงเทพฯ-เวียงจันทร์ ก็จะไปจอดนะแต่เราดันลงต้องเสียค่ารถสามล้อไปอีกคนละ 80 บาท :'( )
แล้วนั่งรถจาก บขส.เหนือ(เวียงจันทร์) ไปหลวงพระบางเที่ยว 8.00 น. ทันพอดี ไม่ได้กินข้าวเช้า...เฮ้อเซ็ง
มาถึงหลวงพระบางประมาณ 19.00 น. นั่งรถสามล้อคนละ 60 บาท เข้าตัวเมืองหาเดินหาที่พัก ค่าที่พักก็มีตั้งแต่ 400-600 บาท แน่นอนพวกเราต้องเลือกของถูกอยู่แล้ว ;D
จากนั้นก็ไปแลกเงินกันคนละ 4000 บาท วันนี้รวยๆๆๆ อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 1 บาทต่อ 265 กีบ
ที่นี่จะมีตลาดมืด ขายเสื้อผ่้าและของกิน มากมาย อร่อย แนะนำให้กินปลานะอร่อยดี
-
อาหารเท่าที่สังเกต จะเหมือนคนจีน จะเน้นแป้ง และผัก มันๆ
-
แนวย่างๆ เผาๆ ก็มีให้เลือกกัน
-
ที่ขาดไม่ได้เลย ต้นตำหรับ ส้มตำไง อร่อยมาก โดยเฉพาะตำลาว แซบบบบ เวอร์
-
อาหารที่นี่ถ้าใครชอบกินผัก ก็จะชอบนะ มีหลากหลายให้เลือกกิน ส่วนตัวก็ชอบกินผัก
- อาหารที่กินวันนี้ ปลานินย่าง ตัวละ 100-150 (มากินที่นี่ตลอด 3 วันที่อยู่หลวงพระบางเลย)
- ส้มตำจานละ 30-40 บาท
- ข้าวเหนียวขีดละ xx บาท แต่ซื้อแค่ 16 บาท ได้มาเยอะเลยกินได้ประมาณ 3 คน
- แหนมหมูชิ้นละ 20 บาท
- แกงถุง ถุงละ 30-40 บาท
พุงกางหลับสบายวันนี้
-
บ้านพักที่นี่เลือกห้องพัดลม เพราะอากาศเย็น และก็ติดต่อขอเช่ามอไซด์ ไว้ขับเที่ยว ที่นี่มีฮอนด้าเวฟให้เช่าด้วย วันละ 360 บาท ต้องเช่านะอย่าเดินเลย ถึงแม้ที่เที่ยวจะใกล้กัน จะได้ไม่เมื่อยรมเสียด้วย
-
พรุ่งนี้มาต่อนะ
-
พรุ่งนี้มาต่อนะ
ปูเสื่อรอ
-
อาหารเท่าที่สังเกต จะเหมือนคนจีน จะเน้นแป้ง และผัก มันๆ
อาหารมีมากมายให้เลือก น่าสนใจ น่าสนใจ
-
แนวย่างๆ เผาๆ ก็มีให้เลือกกัน
แนวนี้ก็ชอบค่ะ น่ากินซะ
-
ที่ขาดไม่ได้เลย ต้นตำหรับ ส้มตำไง อร่อยมาก โดยเฉพาะตำลาว แซบบบบ เวอร์
น้ำลายไหล กันเลยทีเดียว ;D
-
ตื่นมาแล้วก็ไปเที่ยวกันเลยยย อันนี้เริ่มจากวัดมหาธาตุ วรวิหาร อยู่ใกล้กับที่พัก ก็ต้องเดินเข้าไปเยี่ยมชมสักหน่อย แต่ก็ไม่ใช่วัดดังที่เขาฮิตๆ กันนะครับ
-
อาหารที่นี่ถ้าใครชอบกินผัก ก็จะชอบนะ มีหลากหลายให้เลือกกิน ส่วนตัวก็ชอบกินผัก
- อาหารที่กินวันนี้ ปลานินย่าง ตัวละ 100-150 (มากินที่นี่ตลอด 3 วันที่อยู่หลวงพระบางเลย)
- ส้มตำจานละ 30-40 บาท
- ข้าวเหนียวขีดละ xx บาท แต่ซื้อแค่ 16 บาท ได้มาเยอะเลยกินได้ประมาณ 3 คน
- แหนมหมูชิ้นละ 20 บาท
- แกงถุง ถุงละ 30-40 บาท
พุงกางหลับสบายวันนี้
ดูแล้ว ราคาก็ประมาณเดียวกับบ้านเราเลย สักวันคงได้ไปเยือน แต่เมื่อไรยังไม่รู้เลย :)
-
อ้อ ลืมบอกอีกอย่าง หลวงพระบางเป็นเมืองในหุเขา การจะดูพระอาทิตย์ขึ้น ในหน้าหนาวจะเห็นประมาณ 7 โมงไปแล้ว หรือนานกว่านั้นเพราะว่าหมอกจะลงเยอะ ฟ้าก็จะเน่าๆ ใครที่ชอบถ่ายภาพที่เห็นท้องฟ้าสดใสก็ต้องออกสายๆ ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเหมือนผมกหรอก ตี 5 ทุกวัน
ที่วัดทุกวัดผมสังเกตุอันที่อยู่บนหลังค่า ลืมถามเขาเรียกว่าอะไรกัน มันจะแตกต่างไปตามแต่ละวัดนะ
ดูวัดนี้สิตื่นมาประมาณ 6 โมงกว่าๆ ฟ้าสิ เน่าสนิท
-
อาหารที่นี่ถ้าใครชอบกินผัก ก็จะชอบนะ มีหลากหลายให้เลือกกิน ส่วนตัวก็ชอบกินผัก
- อาหารที่กินวันนี้ ปลานินย่าง ตัวละ 100-150 (มากินที่นี่ตลอด 3 วันที่อยู่หลวงพระบางเลย)
- ส้มตำจานละ 30-40 บาท
- ข้าวเหนียวขีดละ xx บาท แต่ซื้อแค่ 16 บาท ได้มาเยอะเลยกินได้ประมาณ 3 คน
- แหนมหมูชิ้นละ 20 บาท
- แกงถุง ถุงละ 30-40 บาท
พุงกางหลับสบายวันนี้
ดูแล้ว ราคาก็ประมาณเดียวกับบ้านเราเลย สักวันคงได้ไปเยือน แต่เมื่อไรยังไม่รู้เลย :)
ว่าจะไปลุยลาวใต้ต่อ ทำทริปเสร็จเดี๋ยวนำเสนอนะ
-
ที่หลวงพระบาง วุฒิศํกดิ์ เปะ ก็ยังตามมา ของเขานี่แรงจริงๆ
-
ถ่ายยอดเจดีย์กะจะมาทำเวอร์เปเปอร์แต่ฟ้านี่สิ
-
หน้าต่างทำไมมีแค่บานเดียว แปลกๆ ดี
-
เอ้า จะเริ่มทัวร์ด้วยมอไซด์แล้ววว ก็ดูแผนที่ จากที่ค้นอินเตอร์เนตมา ไปวัดนี้ก่อนละกัน สวยดีเงียบด้วย จำไม่ได้เดียมาแก้ใหม่
-
ที่ตั้งวัดจะอยู่สูงมองเห็นตัวเมืองนิดๆ ด้วย มองเห็นภูศรี วัดที่อยู่บนยอดเขา จะบอกอีกอย่างที่นี่จะเสียค่าเข้าชมทุกวัดนะ ประมาณ 40 บาทต่อคน และจะปิดตอนเที่ยง เปิดอีกทีประมาณ 13.30 น. ทำเนียมน่าจะเป็นแบบฝรั่งเศษ น่ะ
ที่เห็นเจดิย์ทองๆ ด้านบนสุด นั่นล่ะภูศรี
-
ขึ้นชั้นสอง
-
ภายในจะสะอาดมาก มีพระประธานอยู่ขั้น 3
-
ขึ้นไปบนยอดโดมจะพบภาพวาด ผมว่าสวยดีนะ ก็เลยเก็บมาฝาก 1 รูป แต่ถ่ายรูปยากเพราะว่าแคบ ต้องใช้ fisheye น่าจะสวย
-
ภายในก็ตกแต่งสวยงาม ตามคานจะมีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ตั้งอยู่เต็มไปหมด
-
ถ่ายจากภายใน
-
เดี๋ยวมาต่อวันหลังนะ
-
อาหารที่นี่ถ้าใครชอบกินผัก ก็จะชอบนะ มีหลากหลายให้เลือกกิน ส่วนตัวก็ชอบกินผัก
- อาหารที่กินวันนี้ ปลานินย่าง ตัวละ 100-150 (มากินที่นี่ตลอด 3 วันที่อยู่หลวงพระบางเลย)
- ส้มตำจานละ 30-40 บาท
- ข้าวเหนียวขีดละ xx บาท แต่ซื้อแค่ 16 บาท ได้มาเยอะเลยกินได้ประมาณ 3 คน
- แหนมหมูชิ้นละ 20 บาท
- แกงถุง ถุงละ 30-40 บาท
พุงกางหลับสบายวันนี้
ดูแล้ว ราคาก็ประมาณเดียวกับบ้านเราเลย สักวันคงได้ไปเยือน แต่เมื่อไรยังไม่รู้เลย :)
ว่าจะไปลุยลาวใต้ต่อ ทำทริปเสร็จเดี๋ยวนำเสนอนะ
ลาวใต้น่าสนใจค่ะ ไว้ลงรูปเสร็จจะกลับมาดูใหม่อีกรอบนะค่ะ
-
มาดูแผนที่ของหลวงพระบางกัน อันนี้มีเว็บไซด์ของลาวทำไว้แล้วนะ แต่ผมก็โหลดมาไว้ให้แล้ว www.hikingthai.com/Download/Laos_map.rar หรือจะโหลดจากเว็บ www.hobomaps.com มีหลายเมืองเลยทีเดียว ตอนไปเที่ยวก็ซื้อแผนที่เขาละ ขายประมาณ 40-80 บาท
-
ไปวัดมาแล้ว มองเห็นสะพานเก่าในแผนที่ ก็เลยลองหามุมถ่ายรูปกัน สะพานนี้อนุญาตให้รถมอไซด์ กับจักรยานผ่านได้
-
จุดนี้ก็มองเห็น ภูสี เช่นเดียวกัน
-
ตอนนั้นเที่ยงพอดี เด็กเลิกเรียนเลยขอถ่ายรูป ชุดนักเรียนเป็นแบบนี้
-
มาดูกันสะพานเก่าของเขา คลาสิค พอจะสู้สะพานมอญที่สังขละ ได้หรือเปล่า
-
ด้านข้างสะพานมีช่องสำหรับคนเดินข้ามได้
-
จากนั้นก็ร่อน ไปวัด ชุนนะลาด สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2046 ที่นี่มีพระประธานองค์ใหญ่ที่สุดของหลวงพระบางอยู่ที่นี่ด้วย ค่าเข้าชม ได้แบ่งไปตามโบสถ์ต่างๆ ก็คนละ 80 บาท
-
อันนี้เรียกว่าพระธาตุหมากโม ในนี้เขาบอกว่าพบพระพุทธรูปที่ทำด้วยทองคำ สำริด เงิน สิ่งของที่พบปัจจุบันเก็บไง้ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังหลวงพระบาง เดี่ยวเราค่อยไปกัน
-
บนหลังคา ส่วนใหญ่จะเป็นพญานาค
-
และก็มี...เรียกไม่ถูกว่าคืออะไรเหนือโบสถ์ แต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน ความอลังการขึ้นตามความสำคัญของวัด
-
พระประธานภายในโบสถ์ เป็นไง เต็มไปหมด
-
ที่นี่ไม่ค่อยเห็นเขาไหว้ด้วยธุปเทียนกันนะ หรือว่าเขาห้ามก็ไม่รู้นะ
-
ส่วนที่เป็นพระพุทธรูปที่ทำจากไม้ก็มีเยอะ แต่ดูเหมือนมีอาถรรพ์มาก น่ากลัวกว่าพระพุทธรูปที่ทำจากทอง หรือโลหะอีก
-
ทำจากไม้ น่ากลัวไหมล่ะ
-
นี่ก็เป็นอีกโบสถ์ ที่ต้องเสียค่าเข้า แต่ไม่ได้เข้าไปอ่ะ เยอะไปแระ
-
ที่จุดนี้ใช้ 70-200 มม. ดึงถ่ายภูศรี
-
เบื่อแระวัดนี้ เดินทางต่อไปเที่ยวแน่น้ำสองสายมาบรรจบกัน ได้แค่แม่น้ำคาม กับแม่น้ำโขง ไหลมารวมกัน เขาเรียกกันว่า "แม่น้ำสองสี" (ด้านซ้ายรูปคือแม่น้ำโขงนะ)
-
ทีนี่ก็จะมีเรือ ไว้บริการล่องเรือในลำน้ำโขง รู้สึกจะต้องเหมานะ ไม่มีรายหัว คร้งละ 800 บาท 45 นาที ไม่ได้ขึ้นอ่ะ ประหยัดตังค์
-
เจอเด็กๆ ก็ถ่ายซะหน่อย
-
และแล้วก็มาถึงวัดดังงงงง วัดเชียงทอง ค่าเข้าก็ 80 บาท สวยจริงๆ มาตั้งสองรอบแน่ะ ตอนไปถึงกำลังถ่าย Wedding กันอยู่
-
ยอดหลังค่า อลังการมาก
-
ตอนไปถึงแดดเปรียงมากกก แต่ชอบมุมนี้ ยอดสะท้อนแดดโชว์
-
หน้าต่าง ผนังสวยไปหมด
-
ด้านหลังโบสถ์ สวยเนอะ
-
อันนี้ไปถ่ายตอนเช้า ไม่อยากได้คน ตื่นตั้งแต่ตี5 มาทำเป็น HDR
-
เอาหลังโบสถ์มาแต่ง
-
วัดเชียงทอง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2102-2103 ก่อนที่จะมีการย้ายราชธานีไปที่เวียงจันทร์ ศิลปะเป็นแบบล้านช้าง ไปดูโรงพระราชรถกัน หรือโรงโกศเมี้ยน ที่เก็บราชรถและพระโกศของเจ้าหมาชีวิตศรีสว่างวงศ์ เขาว่างั้นนะ
-
ใครชอบถ่ายรูปแนะนำให้ไปเช้าๆ หรือเย็นๆ เพราะจะไม่มีคนถ่ายภาพ แสงก็สวยด้วย อ้อ ต้องใช้เลนส์มุมกว้างนะ เพราะสถานที่จะแคบๆ
-
มาตอนเช้าถ่ายรูปคนใส่บาตร เจ๋งดีนะ ไม่วุ่นวายเหมือนในเมือง ไม่รู้จะไปวุ่นวายกันทำไม มาที่นี่กันนะ ไม่มีใครขอบมาเลย แต่ต้องทำใจนะ ฟ้าจะไม่สวย
-
พระประธานในโบสถ์
-
โอ้ ใกล้จะหมดเวลา เราเลือกที่จะบิดมอไซด์ไปน้ำตกตาดกวางศรี ตอนนี้ เพราะไม่ต้องการเจอนักท่องเที่ยว ก็สมใจอยากเขากลับกันหมด ค่าเข้า 40 บาทต่อคน
-
ระยะทางห่างจากตัวเมืองประมาณ 25 กม. ก็ไปได้นะ ถนนเขาดี ระหว่างทางจะผ่านหมู่บ้าน ต่างๆ เพลินดีเหมือนกัน วันนี้เจอฟ้าสวยแปลกๆ ก็เก็บมาซะ
-
ไปดูน้ำตกดีกว่า อันนี้ใล่จากชั้นเด็กๆไปก่อน
-
โอ้แสงใกล้หมดแล้ว มาดูมุมนี้กันก่อน
-
ดูไปดูมาเหมือนห้วยแม่ขมิ้นเนอะ
-
มุมนี้อลังน่าดู
-
เปลี่ยนมุมๆ
-
เปลี่ยนๆ อีกๆ
-
มาดูไฮไลท์ของน้ำตกตาดกวางสี นะครับ แสงหมดโฟกัสยากมาก
-
น้ำตกสูงมาก กล้องเก็บไม่หมด ขัดใจสะพานอ่ะ เปลี่ยนที่ถ่ายดีกว่า
-
มืดแล้วต้องกลับไปนอน จะบอกว่า ใครที่ชอบขับมอไซด์
- ต้องเตรียมแว่นกันแดด กับแว่นกันแมลงหากต้องขับตอนมืดๆ
- ผ้าพันคออากาศจะเย็นๆ
- ไปเที่ยวน้ำตกก็เอากางเกงไปเล่นน้ำด้วย
- เติมน้ำมันให้เต็มถังไว้เลย น้ำมันก็ลิตรประมาณ 40 บาท
- หมวกกันน็อคเรียกว่า หน่วย ใช้หลายหัวอาจจะเหม็นหาผ้าคลุมหัวไปด้วยนะ
ตื่นมาจะพาไปเที่ยวอีก
-
อ้อ ลืมบอกอีกอย่าง หลวงพระบางเป็นเมืองในหุเขา การจะดูพระอาทิตย์ขึ้น ในหน้าหนาวจะเห็นประมาณ 7 โมงไปแล้ว หรือนานกว่านั้นเพราะว่าหมอกจะลงเยอะ ฟ้าก็จะเน่าๆ ใครที่ชอบถ่ายภาพที่เห็นท้องฟ้าสดใสก็ต้องออกสายๆ ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเหมือนผมกหรอก ตี 5 ทุกวัน
ที่วัดทุกวัดผมสังเกตุอันที่อยู่บนหลังค่า ลืมถามเขาเรียกว่าอะไรกัน มันจะแตกต่างไปตามแต่ละวัดนะ
ดูวัดนี้สิตื่นมาประมาณ 6 โมงกว่าๆ ฟ้าสิ เน่าสนิท
ถ้าจำไม่ผิดอันที่อยู่บนหลังคาเป็นเครื่องหมายแสดงว่าใครเป็นคนสร้าง
เช่นถ้ากษัติย์ส้างจะมีหลายอันแต่จำไม่ได้ว่ากี่อัน
-
มุมนี้อลังน่าดู
สวยจริง อะไรจริง
-
ตื่นเช้ามาก็มาตักบาตรกันหน่อย ที่นี่มีบริการของใส่บาตรไว้แล้ว ไม่ต้องหาเอง
-
หลังจากใส่บาตรเสร็จ เขาจะเอาข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนเล็กๆ วางตามโบสถ์ด้วย
-
เหมือนกับว่า ต้องใส่บาตรให้พระพุทธรูปด้วย อันนี้ป้าแกก็ไปใส่ข้างในด้วยครับ
-
ไปเที่ยววัดกันต่อ วันต่อไปเป็นวัด ใหม่สุวันนะพูมาราม อยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ สวยเหมือนกัน อยู่ในเมือง ตรงข้ามทางขึ้นภูศรี
-
วัดนี้เป็นวัดเก่าสันนิฐานว่าสร้างในปี พ.ศ. 2364
-
มีพระแก้วมรกตด้วยแต่องค์เล็ก อันนี้ถ่ายซูม
-
มียอดบนหลังคาโบสถ์สามอัน
-
มองเห็นภูศรีเหมือนกันที่นี่
-
ไปเที่ยววัดกันต่อ ที่วัดแสน และวัดสิบ ที่นี่วัดจะอยู่ติดๆ กัน ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องสร้างกันเยอะแยะ
-
วัดทุกวัด กำลังพัฒนาให้เป็นระเบียบ สวยงาม ก็จะมีบางสิ่งที่ถูกทิ้งอย่างเช่น สิ่งนี้
-
ในโคมไฟ ยังมีพระพุทธรูปด้วย
-
อันนี้วัดสิบ
-
อันนี้ก็อยู่ในวัดสิบ การที่มีวัดเยอะน่าจะมาจาก ชนชั้นสูง มีความเชื่อว่าถ้าสร้างวัดจะได้บุญเยอะ ก็เลยทุกคนก็จะสร้างวัดด้วยตัวเอง น่าจะเป็นที่มาว่าทำไมวัดถึงเยอะ
-
ไปกันต่อที่หอพิพิธภัณฑ์พระราชวัง
-
ที่นี่ภายในจะห้ามถ่ายรูปครับ แต่เสียค่าเข้าชม 40 บาท
-
ไม่ได้เข้าไปล่ะ ก็เลยเดินรอบๆ
-
มีต้นไทรใหญ่มากก
-
นอกจากนี้ยังพบ ตู้จ่ายน้ำมัน แต่ว่าไม่น่าจะใช้งาน เดาว่า เป็นที่เติมน้ำมันรถของพระราชา
-
มุมสูงด้านนอก ที่มองเห็นก็คือพิพิธภัณฑ์ราชวัง
-
วัดป่าฮวก อยู่ตรงทางขึ้นภูศรี ที่วัดนี้เก็นอันนี้อันเดียว สร้างเต็มพื้นที่ เป็นวัดได้ไงไม่รู้
-
ขึ้นภูศรี กันน
-
ทุกคนจะชอบมารอดูพระอาทิตย์ตก
-
ถ่ายภาพยากมากพื้นที่แคบ และคนก็เยอะมาก
-
ไม่สามารถใช้ขาตั้งกล้องได้ ต้องถือถ่ายเอา
-
เทห์เนอะ 5555
-
หมดแสงก็ถ่ายเมืองดีกว่า
-
เมืองในหุบเขา ใหญ่เหมือนกัน
-
ตอนแรกกะจะทำพาโนราม่า แต่ว่า... ไม่ไหวอ่ะ
-
หลวงพระบาง เมืองสะอาด นักท่อเที่ยวเยอะ ที่เที่ยวไม่ไกลมาก ยกเว้นน้ำตก ขับรถชิดขวา 3 วันก็เพียงพอ หากต้องเจาะลึก็ต้องเป็นอาทิตย์นะ
มานอนแล้ว เตรียนมตัวเดินทางไปเชียงขวางต่อไป
-
เดินทางจากหลวงพระบาง มาเชียงขวาง หรือจะเรียกอีกชื่อว่า โพนสะหวัน ก็คือที่เดียวกันนะครับ รถออกเช้า มาถึงเชียงขวางประมาณ 5 โมงเย็น พื้นที่เชียงขวางจะเป็นพื้นที่ราบแต่มีเขาสลับไปสลับมา เป็นเขาหัวโล้น ผลมาจากสงคราม
ผมก็โหลดมาไว้ให้แล้ว www.hikingthai.com/Download/Laos_map.rar หรือจะโหลดจากเว็บ www.hobomaps.com มีหลายเมืองเลยทีเดียว
-
ที่เชียงขวางจะดัง ก็ท่งไหนหิน มีมากถึง 3 ที่ด้วยกัน แต่ที่ที่ใหญ่ที่สุดก็คือ site 1 อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ขี่มอไซด์ไปได้ แต่ site ที่เหลืออย่าขี่มอไซด์ ไป ไกล และก็ถนนเป็นดินแดงด้วย ถนนไม่ดี
แต่เราวางแผนเที่ยวดังนี้ ซื้อทัวร์ไปทุ่งไหหินทั้ง 3 ที่ คนละประมาณ 600 บาท รวมอาหารเที่ยง และก็มีพาไปดูซากรถถังรัสเซียที่โดนยิง รถจะมารับที่ โรงแรมประมาณ 9 โมงเช้า จึงมีเวลาพอไปเมืองพูนเมืองที่ผ่านสงครามอินโดจีนมา
จึงเช่ามอไซด์ไว้ ตื่นแต่เช้า หนาวมาก ขี่มอไซด์ประมาณ 25 กม.
-
ขี่มอไซด์ฝ่าอากาศหนาวประมาณ 15 องศา ไปเมืองคูนดูเมือง วัดที่ถูกระเบิดทำลาย สมัยสงครามอินโดจีน ที่เหลือซากให้เห็นก็คงเป็นวัดที่นี่ "วัดเพียวัด"
-
ที่นี่ก็งง เหมือนกันตอนไปถึง มีวัดที่เป็นกุฏิอยู่่ 1 หลัง มีรั้วขอบชิด มีพระอยู่ประมาณ 3 องค์ ตอนแรกเข้าใจว่าจะใหญ่ๆ ผิดคาด
-
พยายาหามุมถ่ายไม่ให้ติดบ้านเรือน หายากมาก ที่นี่เหมือนไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เลย
-
ถัดมาใกล้ๆ วัดเพียวัด มีเจดีย์ตั้งอยู่บนเขาเหนือตัวเมือง ตามตำนานว่าเป็นเจดีย์ที่บรรจุฝุ่นพระบรมอัฐิของพระพุทธเจ้า
-
ไปตอนเช้า ก็จะเจอเด็กๆ กำลังเดินไปเรียน
-
กลับมาโรงแรม เพื่อรอไกด์พาไปทุ่งไหหิน มาดูแผนที่กัน ทุ่งไหหินมีทั้งหมด 3 ที่นะครับ
ผมก็โหลดมาไว้ให้แล้ว www.hikingthai.com/Download/Laos_map.rar หรือจะโหลดจากเว็บ www.hobomaps.com มีหลายเมืองเลยทีเดียว
-
ไปที่แรก Site 1 ที่นี่มีไหประมาณ 200 ใบ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 12 กม. ที่นี่ใหญ่ที่สุดแล้วล่ะ มีถ้ำหลบภัยด้วย เขาเล่าว่าอาจจะทำไว้สำหรับเก็บศพ
ที่เห็นเป็นหลุมด้านหน้าก็คือหลุมระเบิด
ที่เห็นไกลๆ หลังคาแดงๆ และมีดินล้อมรอบ เขาบอกว่าตรงนั้นคือค่ายทหาร และก็ทำเนินดินกันระเบิดไว้
http://www.youtube.com/watch?v=ebLhmMGjP4k
http://www.youtube.com/watch?v=AkjgfIa0u54
-
ที่นี่จะมีไหใบใหญ่ที่สุด ที่ฝรั่งเกาะอยู่นั้นละ ใหญ่ประมาณ 2.30 ม. ถ้าจำไม่ผิด
-
มุมแรกของทุ่งไหนหิน ทีนี่ไหจะกระจายเป็นหย่อม
-
ที่เห็นเป็นหลุมก็เป็นหลุมระเบิดเช่นกัน
-
มีทั้งไหที่แตกแล้ว และที่ยังไม่แตก
-
ที่นี่จะมีไหที่กลักรูปด้วยก็คือใบที่อยู่หน้าสุดครับ
-
มีใบเดียวที่มีฝาปิด
-
เดินขึ้นเนินไป จุดบนยอดเขาเหนื่อยเหมือนกัน
-
วิวจะกว้างโล่งๆ
-
เหมือเขาหัวโล้นก็จะมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่
-
อีกมุม
-
มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายเยอะนะ
-
ไปต่อที่ Site2 เป็นกล่มไหหินภูสลาโต อยู่ห่างจากโพนสะหวัดหรือเชียงขวางประมาณ 25 กม. ทางเป็นฝุ่นแดงนะครับ อย่าขีมอไซด์ไป มีไหประมาณ 100 ใบ เล็กๆ ไม่ใหญ่เท่าที่แรก
-
มีต้นไม้ขึ้นกลางไห จนไหแตกกกก
-
ไหเป็นกล่มๆ
-
ที่ร่วมทริปครั้งนี้ ไม่มีคนไทยเลยมีแต่ต่างชาติ มีเอเซียด้วย
-
ที่ Site2 จะชอบมากเพราะมี Landscape ให้ถ่ายกว้างใหญ่มาก
-
น่าจะโดนระเบิดเยอะนะ โล่งไปหมด
-
ลองแต่งดู
-
ระหว่างทางไป Site3 เขาพาแวะดูซากรถถังรัสเชีย สมัยสงคราม เราก็จินตานาการถึงความอลังการ แต่ไปถึงก็มีแค่นี้เท่าที่เห็ฯ
-
เขาบอกว่าเป็นรูที่ถูกยิง
-
ทางเดินไป รถไปไม่ถึงนะครับ เดินประมาณ 5-10 นาที ที่นี่ดึงดูดความสนใจของผมได้น้อยมาก
-
แนวรั้วของแนวทุ่งไหหิน
-
ไหมีแค่นี้นะ
-
ทุ่งไหหินแต่ละที่เสียค่าเข้า ประมาณ 40 บาทนะ
-
ก็ถ่ายๆ ไปมาให้ดู ทุ่งไหหินเปิน 06.00-17.00 น.
-
ไกด์ได้พาไปดูอุตสาหกรรม ทำช้อน
-
ช้อนนี้ทำจากโลหะ และเขาโลหะที่ไหนมาหลอมล่ะ?
-
โลหะเอามาจากนี่เลย หัวจรวจส่วนที่เป็นโลหะนะครับ ขาวๆ อันนั้นล่ะ
-
นอกจากผลิตช้อนก็ยังผลิดสิ่งอื่นๆ อีก
-
จรวดลูกใหญ่ก็เอามาทำเสาบ้านซะเลยย
-
ยังไม่หมดเดียวมาต่อ
-
เขาบอกว่าเป็นรูที่ถูกยิง
เหล็กหนามาก ใช้ปืนชนิดไหนยิงอ่ะ
-
ยังไม่หมดเดียวมาต่อ
เร็วๆ..
-
เขาบอกว่าเป็นรูที่ถูกยิง
เหล็กหนามาก ใช้ปืนชนิดไหนยิงอ่ะ
ไกด์บอกว่าเป็นกระสุนเจาะเกราะ ยิงเสร็จ ก็ทิ้งระเบิดใส่อีกที่ เหมือนกับว่าทำให้รถถังหยุดก่อน คงจะทิ้งระเบิดใส่มันยากเพราะว่าคงวิ่งเร็ว
-
กลับมาจากทัวร์ กะจะไปที่โรงงานผลิตไหหิน อยู่ห่างจากเมืองสัก 5 กม. และเดินขึ้นยอดเพื่อถ่ายพระอาทิตย์ตก แต่ต้องเดินขึ้นประมาณ 40 นาที แต่ พวกเราไปไม่ทัน ก็เลยอด ก็เลยแวะสักที่ ถ่ายรูปเมืองไกลๆ มาให้ดูกัน
-
ก็เลยกลับมานอนน
รุ่งขึ้นเข้าตลาดเข้าไปหาของกินกัน รอเดินทางไปวังเวียง
-
ที่นี่ส่วนใหญ่จะขายผัก นิยมกันผักกัน ส่วนเนื้อสัตว์จะเป็นพวกวัว หมูมีน้อย
-
ที่นี่ยังมีการขายสัตว์ป่าอยู่นะ ที่พบมีตัวนิ่ม ไก่ป่า กระรอก ค่าง(คล้ายลิง) หมา ค้างคาวก็กิน หนู เขาห้ามถ่ายรูปล่ะ แต่ก็แอบถ่ายมา
-
อันนี้ นก กับตัวนิ่ม ชำแหละให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
-
เด็กขายผักงง ว่ามันกำลังทำอะไรจะซื้อก็ไม่ซื้อ น้องคงคิดว่า หล่อตายล่ะ 555 จริงๆ ยืนเอาหน้ารับแสงอยู่ให้ตากล้องถ่ายบรรยากาศตลาดให้
-
ก็เลยขอถ่ายรูป ก่อน 1 รูป
-
แล้วเอารูปให้ดู เธอบอกว่าไม่สวย ขอถ่ายใหม่ 5555
-
ใส้กรอกไม่แน่ใจว่าหมู หรือเนื้อ
จะบอกอีกอย่างทีนี่ สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อนะครับ เฝอ ส่วนใหญ่ที่นี่ก็จะมีหมู กับเนื้อ แต่น้ำซุบเขาต้มรวมกัน นะ ใครเคร่งมาก ก็ถามเขาก่อนนะ แต่มักจะโกหกล่ะ
-
ทำขนมกันสดๆ
-
ได้เวลาเดินทางไปวังเวียงแล้วว
ระหว่างทางจะพบกับเขาพระเจ้า นะครับ อยู่เมืองกาสี ทางผ่าน แต่ไม่ได้แวะอ่ะ รถไม่แวะ จริงๆ มันจะมีจุดชมวิวอยู่นะ ภูเขาจะเป็นทรงชลูด แหลดเสียดแทงทะลุเมฆ
-
ระหว่างนั่งรถมา มีชาวเกาหลีซื้อลิงมาด้วย เขาบอกว่าถ้าเขาไม่ซื้อปล่อยไปอาจจะตายได้ ซื้อมาในราคา 1500 บาทเขาบอกว่าถูกมากที่เกาหลีขายตัวเป็นหมื่น ท่าทางมันเศร้ามากกก
-
มาถึงวังเวียงเย็นๆ ก็เห็นบอลลูน เฮ้ยยย อยากขึ้น แต่พอถามราคา คนละ 80 ดอลล่านะ
-
จบ อดขึ้น ก็เลยตามถ่ายมันตามพื้นแทน
-
ตอนเข้าตื่นมาดู ที่นี่ใส่บาตรไม่คึกคักเหมือนหลวงพระบางนะ
ที่เห็นรองเท้าด้านขวาเป็นรองเท้าของพระน ะ พอออกนอกรั่ววัดไปบินฑบาต พระถอรองเท้าไว้
ขำอ่ะ
-
ส่วนใหญ่นิยมมาพักที่นี่เพื่อรอเดินทางไปหลวงพระบางต่อกัน
แม่น้ำซองยามเย็น
-
น้ำซองถ่ายจากที่พัก
-
ถ่ายตอนสายๆ
-
จะพบเห็นบอลลูนทุกที่ เพราะเขาจะมีรอบการขึ้น ดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูพระอาทิตย์ตก อะไรทำนองนี่
-
วันนี้จะไปเที่ยวถ้ำภูคาม กับลากูล เขาว่าสวย
ระหว่างทางเจอเด็กลิง ก็เลยเก็บรูปมาให้ดู
-
อีกรูป ให้เก๊กถ่ายรูปให้หน่อย
-
หญิงขอ ไม่น้อยหน้า
-
มาถึงแล้วถ้ำภูคาม ใหญ่เหมือนกัน โดยส่วนตัวไม่ชอบถ้ำล่ะ
-
จะเห็นคนตัวเล็กๆ
-
ที่นี่จะมีพระพุทธรูปให้สักการะ แต่จำไม่ได้แระว่าชื่ออะไร
-
เสียค่าเข้าทุกที่นะครับ คนละ 40 บาท
ลากูลที่ว่าก็เหมือนคลอง แต่น้ำสีฟ้า น้ำเย็นอ่ะ
-
ก็เฉยๆ นะ
-
ไม่กล้าถ่ายมาก ฝรั่งเยอะ
-
ผมเช่ามอไซดมานะวันละ 200 บาท ถนนดินแดงนะ ฝุ่นเพียบ ถนนเป็นดิน ก้อนหินใหญ่ๆ อ่ะ มอไซด์เข่าเป็นมอไซด์จีน แนะนำให้เช่ามอไซด์ที่มียื่ห้อนะ ยอมจ่ายแพงหน่อย
แล้วเราจะไปขึ้นยอด ปาโปค ไม่ออกเสียงถูกป่าว 555 เป็นจุดชมวิวอีกที่ เสียตังเช่นเคย
ที่เห็นยอดแหลมๆ นั่นล่ะ
-
เจอบอลลูนอีกแระ
-
อีกมุม คราวนี้มีบอลลูน 2 ลูก
-
มุมสูงจุดนี้ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
-
ลงมาไปเที่ยววัดต่อ วันนี้แปลกตรงที่ทำไม รูปปั้นทะลุกำแพงออกมาซะงั้น
-
ถามลุงขายของเขาบอกว่า ทางการให้ขยับร้้วชิดในอีก แต่สิ่งปลูกสร้างเดิมเขาไม่ขอย้าย ก็เลยทะลุกำแพงอย่างที่เห็น ผมให้ชื่อว่า ยักษ์ทะลุกำแพง
-
เดินทางไปน้ำตก หยุ่ย ไกลเหมือนกัน แต่น้ำน้อยมาก
-
ที่นี่จะมีบริการเที่ยวแบบผจญภัย
น้ำน้อยเกิ๊น
-
สอบถามได้ความว่า เมืองวังเวียง ได้นำน้ำจากน้ำตกนี้ไปทำน้ำประปา เพราะว่าน้ำจากแหล่งนี้ไม่ต้องใช้ปั๊มน้ำสูบ มันไหลตามแรงโน้มถ่วง แต่ถ้าเอาน้ำจากแม่น้ำซอง หรืออื่นๆ ต้องใช้ปั๊มเปลืองพลังงาน แต่จะเก็บค่าเที่ยวทำไมเนี่ย
-
มีรุ้งด้วย
-
แผนที่วังเวียง
ผมก็โหลดมาไว้ให้แล้ว www.hikingthai.com/Download/Laos_map.rar หรือจะโหลดจากเว็บ www.hobomaps.com มีหลายเมืองเลยทีเดียว
-
เทห์เนอะ 5555
อืม เท่ห์เนอะ
-
เมืองในหุบเขา ใหญ่เหมือนกัน
สวย ชอบชอบ
-
ลองแต่งดู
แต่งได้สวยถูกใจม๊าก
-
ช้อนนี้ทำจากโลหะ และเขาโลหะที่ไหนมาหลอมล่ะ?
อันนี้อากได้ม๊ากกกกกกกกกกกก
ตอนที่ไปคราวที่แล้วเจอในร้านขายเฝอไม่กล้าขอซื้อ
-
ก็เลยกลับมานอนน
รุ่งขึ้นเข้าตลาดเข้าไปหาของกินกัน รอเดินทางไปวังเวียง
ตลาดนี้เด็ดมากของแปลกๆเพียบ
-
ช้อนนี้ทำจากโลหะ และเขาโลหะที่ไหนมาหลอมล่ะ?
อันนี้อากได้ม๊ากกกกกกกกกกกก
ตอนที่ไปคราวที่แล้วเจอในร้านขายเฝอไม่กล้าขอซื้อ
พี่ก็ซื้อมา 10 คัน ขายต่อ แพงๆ เอาป่ะ 555
-
วัดที่วังเวียง ศิบปะ จะออกแนวเส้นใหญ่ๆหน่อย เหมือนเป็นรุ่นใหม่ ไม่เก่ามาก และเลือกใช้สีสรร แบบจัดๆ
-
ตอนแรกนึกว่า ทำไมพระอ้วนจัง แต่จริงคือ คลุมบาตรอยู่ 555
-
เดินไปมา เจอเด็กำลังเล่นลูกข่างกัน เล่นกันโหดมาก
-
ทรายกระจายยยย
-
แก๊ง สิงสาวนักสืบ วังเวียงงงง
-
น่ารักดี อีกรูป
-
ถามเด็กลิงที่เล่นลูกข่าง บอกว่าลูกนม ตอนนี้ยังไม่สุก ถ้าสุกจะมีสีแดงกินได้ ไม่มีขายตามตลาดอืม น่าสนใจ
-
ไปตลาดเจอขนมครก ทำอร่อยและน่ากินมาก
-
อันนี่เป็นผัก ข้างในเป็นข้าวคลุกกับน้ำตาล และใส่เครื่องเทศนิดหน่อย อร่อยเหมือนกัน
-
ที่วังเวียงเขาบอกว่า สะพานสีส้ม คือ Land Mark ของที่นี่ ผมก็ว่างั้นๆ ล่ะ สร้างจุดขายมากกว่า อ้อ อีกอย่างเสียตังค์เหมือนเคย 40 บาท
-
อันนี้ต้องเดินไปในแม่น้ำ
-
สวัสดีคร๊าบบบ
-
ที่วังเวียง ตอนอยู่ช่วงปีใหม่พอดี
- ไม่มีการสวดมนต์ข้ามปี ที่วัดไม่ได้จัดทำอะไรพิเศษ
- ถนนค่อนข้างรก ฝุ่นเยอะ
- หลายบ้านจะปิดบ้าน แม้ระทั้งร้านเหล้า ร้านอาหารหยุดขาย แล้วจะเอาสื่อมาปูที่ฟุตบาทกัน ฉลองปีใหม่ ต่างฝ่ายก็จะเปิดเพลงใส่กัน ไม่รู้จะฟังอันไหนดี
- การใส่บาตรมีน้อยมาก
- นักท่องเที่ยวก็น้อยกว่าที่คิดมาก ปีใหม่ค่อนข้างเงียบ
- ร้านเนต ชั่วโมง ละ 80 บาท จะแพงไปไหนเนี่ย
-
และแล้วก็จะไปเที่ยวเวียงจันทร์ต่อ แต่ตังค์เหลือน้อย และอีกอย่าง ตั๋วรถจาก เวียงจันทร์-กรุงเทพฯ เต็มหมด
ตอนขาไป เราจะซื้อตั๋วขากลับเลย เขาไม่ให้ซื้อ เขาบอกว่าต้องมาซื้อหน้างาน หรือโทรจอง เราก็คิดนะโทรจอง ยังไม่ได้จ่ายตังค์จะล็อกที่นั่งให้เหรอออ กำ
ก็เลยต้องข้ามฝั่งมาขึ้นรถที่หนองค่าย
ผ่านแวะวัดธาตุหลวงนิดนึง
-
ปีใหม่เป็นวัดหยุดเขา สถานทีท่องเที่ยวก็ปิด ไม่สนใจเปิดให้นักท่องเที่ยวเลย แต่ก็ดีทำให้ได้ภาพแบบ ไม่มีคน
-
ด้านหน้า คนไม่มีเลย เห็นป่าววว
-
ตอนกลับข้ามแดน ต้องแย่งขึ้นรถ ไม่มีการจัดคิวใดๆ เซ็งจริงๆ
-
จบทริปแล้ว สำหรับการติดตามชม ขอบคุณมากครับ
-
ดาว์นโหลดแผนที่
ผมก็โหลดมาไว้ให้แล้ว www.hikingthai.com/Download/Laos_map.rar หรือจะโหลดจากเว็บ www.hobomaps.com มีหลายเมืองเลยทีเดียว
-
ดูไปดูมาเหมือนห้วยแม่ขมิ้นเนอะ
น้ำตกสวยดี สีฟ้าด้วย
-
ตอนแรกกะจะทำพาโนราม่า แต่ว่า... ไม่ไหวอ่ะ
ชอบๆ แนวนี้
-
เด็กขายผักงง ว่ามันกำลังทำอะไรจะซื้อก็ไม่ซื้อ น้องคงคิดว่า หล่อตายล่ะ 555 จริงๆ ยืนเอาหน้ารับแสงอยู่ให้ตากล้องถ่ายบรรยากาศตลาดให้
ชอบ ชอบ สวยดี อารมณ์แบบมาจ่ายตลาดอ่ะ
-
อันนี้ นก กับตัวนิ่ม ชำแหละให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
มีของแปลกให้ดูเยอะดี
-
ก็เลยกลับมานอนน
รุ่งขึ้นเข้าตลาดเข้าไปหาของกินกัน รอเดินทางไปวังเวียง
ชอบม๊าก มาก ตลาดแนวนี้ เห็นแล้วอยากเดินจัง
-
ระหว่างนั่งรถมา มีชาวเกาหลีซื้อลิงมาด้วย เขาบอกว่าถ้าเขาไม่ซื้อปล่อยไปอาจจะตายได้ ซื้อมาในราคา 1500 บาทเขาบอกว่าถูกมากที่เกาหลีขายตัวเป็นหมื่น ท่าทางมันเศร้ามากกก
น่าสงสารจัง โดนพรางจากแม่ หน้าเศร้าจัง
-
ถามเด็กลิงที่เล่นลูกข่าง บอกว่าลูกนม ตอนนี้ยังไม่สุก ถ้าสุกจะมีสีแดงกินได้ ไม่มีขายตามตลาดอืม น่าสนใจ
ลูกนี้เคยกินตอนเด็กๆ อ่ะ ยังจำรสชาติได้เลย อร่อยๆ แต่ไม่เห็นนานแล้ว
-
แก๊ง สิงสาวนักสืบ วังเวียงงงง
สิงห์สาวนักสืบ เก่ามาก ต้องอายุ....พอสมควรล่ะ