Hiking Thai
Hiking Thai => เที่ยวเมืองไทย..ยังไม่ไปก็รู้ => Topic started by: designbydx on ธันวาคม 05, 2020, 02:36:03 pm
-
ถ้ำธารลอดน้อย ถ้ำธารลอดใหญ่
อยู่ที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี
การเดินทางครั้งนี้ใช้ xmax 300 บิดไปเพราะไม่ไกลจาก กทม. มากนัก ไม่เกิน 200 กม. ขับไปเรื่อยๆ ไปนอนค้างก่อน 1 คืน ตอนเช้าค่อยเดินเที่ยว หรือใครไปถึงจะเดินเลยก็ได้ ต้องแนะนำที่นี่เลยเงียบและบรรยากาศดีมาก ห่างไกลผู้คน คนมาน้อย น้ำใสเย็นมีครบ ถ้ำ น้ำตก เดินขึ้นเขา สำนักสงฆ์
ขาสั้นเดินได้
รองเท้าควรหุ้มส้น
ห้ามนำอาหารเข้าไป
กล้อง canon 5d markIII + 24-105 มม.
-
ขับมาถึงบ่ายๆ ก็หาที่กางเต๊นท์ก่อนเลย มีที่เพียบ มีริมน้ำด้วย แต่ผมชอบเงียบๆ ก็เลยหาที่โล่งๆ หน่อย
-
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย ถ้ำธารลอดใหญ่ มีระยะทางประมาณ 2.5 กม. ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 3 ชม. แต่ผมใช้ถึง 6 ชม. เพราะผมเดินเรื่อย เน้นถ่ายรูปครับ ประกอบกับฝนตกด้วย ก็เลยช้า
สถานีเรียนรู้ธรรมชาติ มีถึง 14 สถานี แต่ผมก็แวะบ้างไม่แวะบ้างครับ
1.หิน ต้นกำเนิดสิ่งต่างๆ
2. การแตกหน่อเพื่อต่อชีวิต
3.การแก่งแย่งแสงสว่างของเถาวัลย์
4.ความงามของเห็ดป่า
5.ทำไมไผ่พ่อ-ไผ่แม่ถึงตาย (อันนี้น่าสนใจ)
6.ไทร กาฝากในคราบนักบุญ
7.กล้วยไม้ป่า ไม้เบิกน้ำ
8.ใครคือเทศบาลประจำป่า
9.ความรุนแรงของไฟป่า
10.มอส เฟร์น ไลเคนส์
11.ชิด ไม้วงศ์ปาล์ม
12.พูพอน รากพิเศษ
13.การเกิดของน้ำ
14.สิ่งมหัศจรรย์
-
เมื่อดูแผนที่แล้ว ไม่หลงแน่นอน สัตว์ป่าไม่น่ามีก็ลุยเลยครับ พร้อมมมม
-
ด่านแรกที่เจอคือ "้ถ้ำธารลอดน้อย" ถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ถ้ำน้ำหรือถ้ำธารลอด เป็นถ้ำที่พบเห็นในยุค ออร์โดวิเชียน มีลำห้วยแม่พระพร้อยไหลผ่านตลอดถ้ำโครงสร้างของถ้ำเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิดหินคดโค้ง และรอยแยกของหิน หินปูน หินเชิร์ต และหินดินดาน มีแนวริ้วขนาด และบิดตัวแบบคลื่นตามผนังถ้ำ การพอกตัวของสารแคลเซียมคาร์บอเนต ทำให้เกิดหินงอกหินย้อย ม่านหิน เสาหิน ทำนบหินปูน และหินน้ำไหล (งงๆ หน่อยอนะครับ ;D ;D ;D)
-
มันมืดอย่างนี้ๆๆๆๆ >:( >:( >:(
ผมมาเดินตอนเช้าประมาณ 07.00 น. ไฟทางยังไม่เปิด ใจเต้นรัวมาก เอาไงดี จะไปต่อไหม
สุดท้ายก็ไป ;D ;D ;D
-
จะเป็นลม มืดก็มืด ไฟก็ไม่เปิด เพื่อนก็ไม่มี
สิ่งมีชีวิตในถ้ำ
สัตว์ที่อาศัยและหากินในถ้ำตลอดชีวิต เป็นสัตว์ที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมภายในถ้ำได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากในถ้ำแสงสว่างน้อย จึงมีสิ่งมีชีวิตไม่มากชนิด(แค่นี้ก็แย่แล้วนะ) ที่จะดำรงชีวิตในถ้ำได้ เนื่องจากอาหารไม่อุดมสมบูรณ์ และสภาพแวดล้อมทางกายภาพค่อนข้างคงที่ในด้าน ความมืด สัตว์ที่พบในถ้ำ เช่น กลุ่มหนอน แมงมุม แมงป่อง กุ้ง ปู กิ้งกือ ปลา งู สัตว์พิษที่พบในถ้ำธารลอดน้อย คือ จงโคร่ง(หมาน้ำ) และค้างคาวหน้ายักษ์ทศกัณฑ์
-
กลัวก็กลัว อยากถ่ายก็อยากถ่าย แข็งใจถ่าย นึกในใจเมื่อไหร่จะทะลุถ้ำเนี่ย
-
เปลี่ยนใจไม่ถ่ายแระ รอขากลับค่อยถ่ายละกัน จริงระยะทางไม่ได้ไกลมาก เดินนิดเดียวก็ทะลุแล้ว โล่งอก
-
ทะลุถ้ำออกมาก บอกกงๆ ว่าชอบบรรยากาศแบบนี้มาก มีหมอก(ฝนตกปรอยๆ) ดูลึกลับ เหมือนเดินอยู่กลางป่าลึกเลย แต่ก็ยังดีที่มันสว่าง ไม่มืดเหมือนในถ้ำ
-
ทางเดินง่าย
-
ตะเคียนทอง เป็นไม้ยืนต้นขนาดสูงใหญ่ 20-40 ม. ไม่ผลัดใบ รูปเจดีย์ แตกเป็นสะเก็ด เปลือกหนาสีน้ำตาลดำ กระพี้สีน้ำตาลแดงในรูปไข่แกมรูปหอกหรือรูปดาบ (อ่านแล้วผมก็งง)
-
สถานีเห็ด ก็เดินผ่านอย่างรวดเร็ว 555 มันไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
-
สถานีนี้ผมสนใจ "ทำไมไผ่พ่อ ไผ่แม่จึงตาย"
เป็นที่น่าฉงนที่ไผ่ต้องตายหลังจากออกขุย(เมล็ด) เนื่องจากไผ่ขจัดร่มเงาอันแน่นทึบจากจากตัวมันเอง เพื่อเปิดโอกาสให้กล้าไผ่ได้เจริญเติบโตต่อไป เป็นกลไกของธรรมชาติเพื่อการขยายพันธุ์
เพิ่งรู้นะเนี่ย
-
กาฝากในคราบนักบุญ
ไทรจัดอยู่ในประเภทกาฝาก อยู่ในกลุ่มเดียวกับมะเดื่อ โพธิ์ และกร่าง ต้นไทรเป็นอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของสัตว์กินพืชนานาชนิด แต่ในขณะเดียวกันต้นไทรก็ดูดอาหารจากต้นไม้ที่อาศัยอยู่และเติบโตแผ่เรือนยอดปกคลุมแสงแดดโดยจะใช้รากโอบรัดลำต้นของต้นไม้ที่มันเกาะอยู่ เมือต้นไม้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงแดด และอาหารได้ ก็จะตายในที่สุด
เศร้าจัง :-[ :-[
-
ทางเดินโล่ง ไม่มีใครมาเดินๆ ก็ต้องหันหลังตลอด ดูว่าจะมีใครตามมาไหม ;D ;D
-
พูพอนรากพิเศษเพื่อการทรงตัว พูพอนเป็นรากพิเศษที่เกิดบริเวณโคนต้นไม้ในเขตร้อน เพื่อทำหน้าที่ค้ำยันและยึดติดพื้นดินไม่ให้โค่นล้มได้ง่ายยามเผชิญกับพายุ พูพอน จึงเป็นการปรับตัวของพืชเพื่อชดเชยระบบรากที่อยู่ตืิ้น
-
รากใหญ่จริงๆ
-
น้ำตกไตรตรึงษ์ ชั้นที่ 1
ความสวยงามของลำห้วยแม่กระพร้อยไหลตกจากผาและซอกหิน กลายเป็นน้ำตกชั้นที่ 1 มีความสูงประมาณ 5 ม. น้ำตกชั้นนี้สามารถลงเล่นน้ำได้ หรือจะเป็นธาราบำบัดก็ได้(ยังไง งง อีกแระ)
-
ทางที่ไหลไป
-
ถ้ำน้ำเยอะๆ ก็คงเล่นไม่ได้
-
หลังจากน้ำทางจะชัดแล้วนะครับ (1-1.5 กม.) กลัวที่ไหนลุยยย ;D ;D
-
โอ๊ยยยยย เหนื่อย บันได 500 กว่าขั้นเองนะ
-
มองกลับไป ขึ้นมาได้ยังไง ว่ะ เนี่ย
-
ความสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะอยู่บนตำแหน่งสูงสุดแล้วนะ (ให้กำลังใจตัวเอง) ระหว่างทางเดินจะมองเห็นน้ำตกไตรตรีงษ์ชั้นที่ 2 ไกลๆ
-
ต้นไม้เขียวสดชื่น ลมเย็น เงียบ ไม่มีคนตามมาเลยสักคน
-
น้ำตกไตรตรึงษ์ ชั้นที่ 3 มีแค่นี้นะ
-
ได้อยู่ สวยๆ
-
ตรงจุดนี้ถ่ายยากละอองน้ำฟุ้ง รีบๆ กด รีบๆ หนี
-
ผ่านมาอีก หลายร้อยขั้นบันใด ก็จะเจอจุดชมวิว น่าจะสูงสุดแล้วล่ะ มองไม่เห็นอะไรเลย ที่ป้ายจะบอกว่า เห็นชุมชนบ้านโป่งช้าง ชุมชนบ้านเพชรสมบูรณ์ เทือกเขาหินงอก สภาพป่าเบญจพรรณ วัดเพชรสมบูรณ์ ไหนล่ะ?
-
เดินลงแล้วจากนี้ เจอเสียงน้ำไหล สะพานทางเดินหายไป แต่เป็นจุดที่น่าถ่ายรูปมากๆ แนะนำๆๆ
-
รากไม้กับลำธาร
-
เหมือนอยู่อีกโลกนึงเลย
-
ถึงแล้วถ้ำธารลอดใหญ่
-
บริเวณแห่งนี้ยังมี รอยพระพุทธบาท คือ หนทางของผู้รู้ที่เดินผ่านมาก่อน ท่านบอกท่านสอนให้เราเดินตามท่านไปสู่จุดหมายปลางทาง
-
ความงาน และความมหัศจรรย์ของถ้ำที่เห็นเกิดจากการทำงานของกระแสน้ำกล่าวคือ เมื่อน้ำไหลผ่านชั้นของหินปูนก็จะเกิดการเซาะ และพัดพาเศษหินที่ผุพังออกไปจากแห่งเดิมเมื่อนานเข้าก็จะทำให้เกิดถ้ำและขยายกว้างขึ้น
-
ภาพเขียนพญานาคตามความเชื่อชาวกะเหรีียง
ผนังถ้ำส่วนใหญ่เกิดจากหินปูนสลับกับหินเชิร์ตที่มีลักษณะเป็นชั้นบางๆ และจากการโก่งตัวของเปลือกโลก ทำให้รอยต่อของชั้นหินบริเวณนี้เกิดการแยกตัวจนทำให้มีช่องว่าง และเป็นเหตุให้น้ำที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตไหลเข้ามาแทนที่ในช่องว่างและแข็งตัวกลายเป็นหินปูนทุติยภูมิฯ ชาวกะเหรี่ยงที่เคยอาศัยอยู่ในบริเวณนี้มีความเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของพญานาคจึงได้เขียนเป็นลายเส้นด้วยสีน้ำมัน และมีการประกอบพิธีบูชาพญานาคเพื่อให้ฝนตกตามฤดุกลาล
-
สภาพทางธรนีวิทยา มีให้เห็นที่บริเวณนี้
-
เย็นดี
-
เป็นสถานีสุดท้ายแล้ว วัดถ้ำสิริธรรมาราม
-
เงียบมีการปฏัติเคร่งครัด ในป่าลึก แต่ทำไมดูสิ่งอำนวยความสะดวกมีอยู่เยอะ เอามาได้ไง ถาม จนท. เขาบอกว่า รถถึง เอ๊าาาาา
-
เดินกลับแระ หิว มาเก็บภาพในถ้ำ มาถึงเขาเปิดไฟแล้ว
-
ใครชอบก็ไปเลยครับ มีรูปทรงแปลกตัวให้ดู
-
ก็ถ่ายไปเรื่อยๆ
-
หินงอก
-
นอกจากนี้ บริเวณอุทยานยังมีน้ำตกไสลเดอร์นะครับ ก่อนถึงทางเข้า อุทยานจะมีป้ายบอกทางไว้ ขอบคุณครับที่ติดตาม