Hiking Thai
Hiking Thai => เที่ยวเมืองไทย..ยังไม่ไปก็รู้ => Topic started by: designbydx on มกราคม 29, 2014, 11:36:07 pm
-
15 ปีผ่านไป ลำห้วยคลิตี้ อำเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากโรงแต่งแร่ตะกั่วริมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรปล่อยน้ำหางแร่ลงสู่ลำห้วย จนก่อให้เกิดสารตะกั่วปนเปื้อนในลำห้วยคลิตี้ จนถึงวันนี้การฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ยังไม่เริ่ม เว็บแมนเนเจอร์กล่าว...
ที่มา http://www.manager.co.th/local/viewnews.aspx?NewsID=9560000108916
อ่านแล้วใจหายเลยอยากไปดูว่าเป็นไงบ้างตอนนี้( มกราคม 2557)
-
หลังจากเที่ยวกับมาค้นใน กูเกิ้ล แม่เจ้าาาาา คดีเพิ่งจบ
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่สำนักงานศาลปกครอง ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีการปล่อยน้ำเสียซึ่งมีสารตะกั่วเจือปนในลำห้วยคลิตี้ คดีดำที่ อ.597/2551 ระหว่างนายยะเสอะ นาสวนสุวรรณ ที่ 1 กับพวกรวม 22 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับกรมควบคุมมลพิษ หรือ ค.พ.(ผู้ถูกฟ้องคดี) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร โดยศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาว่าให้กรมควบคุมมลพิษจ่ายค่าเสียหายให้กับผู้ฟ้องคดีทั้ง 22 ราย ๆ ละ 177,199.50 บาท และจากนี้ให้กรมควบคุมมลพิษเร่งจัดทำแผนเพื่อฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อมในหมู่บ้านคลิตี้ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และให้มีการตรวจสอบคุณภาพดิน น้ำ สัตว์น้ำในลำห้วย และ พืชผักที่ประชาชนเพาะปลูกทุกฤดูกาล และแจ้งผลให้ประชาชนทราบข้อมูลด้วยการติดประกาศทั้งในหมู่บ้าน ตำบล อบต. อำเภอ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อมูล อย่างน้อยเป็นเวลา 1 ปี และให้มีการบำบัดฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จนกว่าสารตะกั่วในสิ่งแวดล้อมจะเข้าสู่ค่ามาตรฐาน
ส่วนกรณีที่มีการฟ้องร้องว่ากรมควบคุมมลพิษละเลยการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทตะกั่วคนเซ็นเตรทส์นั้น ศาลขอยกคำฟ้องเพราะทางกรมควบคุมมลพิษได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับศาล จ. กาญจนบุรีแล้ว โดยศาลมีคำพิพากษาให้บริษัทตะกั่วคอนเซ็นเตรทส์จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 6 ล้านบาท
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวแทนชาวบ้านที่เข้าร่วมรับฟังการตัดสินคดี พอใจกับคำตัดสินดังกล่าว โดยนายสุรชัย กล่าวว่า จากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการภาคประชาชน ประกอบด้วยนักวิชาการ นักกฎหมาย และชาวบ้านในพื้นที่เพื่อติดตามตรวจสอบการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ของกรมควบคุมมลพิษ ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้จะมีชาวบ้านร่วมเป็นกรรมการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ข้อมูลที่ชาวบ้านได้รับเป็นข้อมูลในเชิงวิชาการที่ยากต่อการทำความเข้าใจ ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ เท่ากับชาวบ้านไม่ได้มีส่วนร่วมเลย ทั้งนี้คณะกรรมการภาคประชาชนที่ตั้งขึ้นมาจะเน้นทำงานด้านการตรวจสอบมาตรการในการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ของกรมควบคุมมลพิษ
ด้านนายนายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา กล่าวว่า พอใจคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในเรื่องค่าชดเชยความเสียหายที่รวมแล้วเป็นเงินกว่า 3.8 ล้านบาท มากกว่าที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำตัดสิน แต่ขอเรียกร้องให้กรมควบคุมมลพิษรีบเร่งเข้าไปฟื้นฟูพื้นที่ตามคำสั่งศาลโดยเร็ว เพราะชาวบ้านจะไม่สามารถแบกรับภาระในการดำรงชีพต่างๆ ต่อไปได้ หากสภาพแวดล้อมยังไม่กลับคืนสู่ปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวนายยะเสอะ กับพวก รวม 22 คน โดยนายสุรชัย ตรงงาม ผู้รับมอบอำนาจฟ้องว่า กรมควบคุมมลพิษไม่ตรวจสอบการประกอบกิจการบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตามที่ผู้ฟ้องร้องคดีร้องขอ เนื่องจากบริษัทปล่อยน้ำเสียซึ่งมีสารตะกั่วเจือปนในลำห้วยคลิตี้ เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องร้องคดีและราษฎรได้รับความเสียหาย โดยขอให้ผู้ฟ้องร้องคดีปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเข้าดำเนินการกำจัดมลพิษและฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ โดยเรียกค่าใช้จ่ายจากบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ ผู้ก่อมลพิษในภายหลังและกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มคร้องสิทธิและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ที่มา http://www.dailynews.co.th/
ชดเชยด้วยเงินน้อยนิด
-
เราออกเดินทางผ่านห้วยแม่ขมิ้นไป หมู่บ้านคลิตี้ล่าง ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติลำคลองงู2 ซึ่งดูเหมือนจะร้างแล้วล่ะ
-
ส่งที่พบมีแต่ความว่างเปล่า ร้างผุ้คน ปัจจุบันก็มีคนอาศัย แต่น้อย ส่วนใหญ่ย้ายกันไปอยู่ที่อื่น
-
คนอาศัยปัจจุบัน เป็นพม่าข้ามมาขายแรงงาน มาอาศัย เดาว่าคงไม่รู้หรอกว่ายังมีสารตะกั่วตกค้างในแหล่งน้ำ
-
ลำน้ำคลิตี้ยาวประมาณ 19 กม. สารตะกั่วตกค้างถ้าจำไม่ผิดอ่านมา มีมากถึง 17,540 ตันเลยทีเดียว
-
ถ้าเราให้ตะกั่วเข้าไป 100 เปอร์เซ็นต์ ผู้ใหญ่จะดูดซึมแค่ 10 % แต่เด็กจะดูดซึม 40-50 % หรือประมาณ 5
เท่า ทำให้การสะสมตะกั่วในเด็ก มากกว่าผู้ใหญ่และเกิดอันตราย โดยเฉพาะเด็ก 6 เดือน 2 ปี การเติบโตของสมองจะผิดปกติ เด็กออกมาจะเป็นเด็กปัญญาอ่อน
-
ปัจจุบันที่ปี มกรา 57 ออฟฟิตเหมือนเพิ่งปิดไป
-
แต่ทำไมสหกรณ์ยังมีอยู่ งง
-
สภาพปัจจุบัน
-
เขาหันมาปลูกกาแฟ แต่สงสัยว่าน้ำที่รดมีสารตะกั่วปนเปื้อนหรือเปล่า เลยทำให้เป็นอย่างนี้
-
หรือแบบนี้
-
คืนแรกไปถึงไม่มีที่พัก ต้องพักบ้านร้าง กางเต้นบนบ้านแทน
-
ดูแล้วหดหู่ ผสมกับเรื่องราวที่ได้อ่านก่อนไปเที่ยว
-
ต้นไม้ใหญ่ๆ มีแต่ต้นตายๆ
-
เฮ้อ
-
เราไปจุดมุ่งหมายที่เราตั้งใจไว้ น้ำตกคลิตี้ รถไปไม่ถึง ต้องใช้รถอีแต๊ก นำเขาไป แล้วเดินต่อ
-
เดินเท้าประมาณ 30 นาที
-
และแล้วก็มาถึงน้ำตก ร้าง
-
ป้ายยังอยู่
-
ชั้นที่เป็นไฮไลท์
-
คนนำทาง ชื่อมะนาว
-
ก็สวยนะ
-
เก็บไม่หมด ถ้าน้ำเยอะ ก็คงอลังการนะ
-
ชั้นถัดมา
-
อีกมุม
-
อีกมุม
-
อีกวันตืนมาเที่ยวตอนเช้าๆ ในหมู่บ้านอีกครั้ง
-
จะมีบ่อน้ำใหญ่ 2 บ่อในหมู่บ้านไม่ได้ถามว่าเป็นน้ำฝน หรือสูบจากน้ำตกมาไว้ใช้
-
ระดับความสูงแค่ 700 รทก แต่ทำไมหนาวจัง 8-9 องศา
-
อีกรูป
-
อีกรูป
-
สงสารแต่เด็กไม่รุ้ชะตากรรม
-
ขอบคุณมากนะครับที่ติดตาม
-
เศร้า